หนังเขาทำถึงอีกแล้ว ทั้งที่ควรจะหดหู่มากๆ 

แต่กลับอบอุ่นและทำให้เสียน้ำตาอย่างช่วยไม่ได้


หน้าหนังเหมือนหนังรักนุ่มๆ โทนสีอุ่นๆ ทำให้เราเข้าใจเอง (ตามประสาพวกไม่ทำการบ้านล่วงหน้า) ว่าคงหนังรักแหละ อาจจะดราม่าน้ำตาริน หรือไม่ก็ซึ้งมากๆ แต่ทุกคนคะ… มันไม่ใช่แบบนั้นเลย!

มันก็ใช่ที่หนังซึ้งมากๆ แต่อยากเรียกว่า “ลึกซึ้ง” มากกว่า ในแง่ของการตามหาความหมายและคุณค่าของการมีชีวิต รวมถึง “มิตรภาพ” ของคนเราที่ไม่มีวันเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา และงดงามเสมอถ้าเรามีความทรงจำดีๆ และมีความคิดถึงที่เชื่อมถึงกัน

Unreachable หรือชื่อไทย ให้รักปรากฏตัว เป็นเรื่องราวของหญิงสาว 3 คน คือ มิซากิ (ซึสึ ฮิโรเสะ), ยูกะ (ฮานะ สุกิซากิ), และ ซากุระ (คายะ คิโยฮาระ) ที่ผูกพันกันเพราะเงื่อนไขบางอย่าง ทั้งสามเติบโต ไปเรียนหนังสือ และออกไปทำงาน โดยอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันถึง 12 ปี จนกระทั่งพวกเธอได้พบใครคนหนึ่ง…

...

เท็นมะ (ริวเซย์ โยโกฮามะ) คือชายหนุ่มที่มิซากิเจอบนรถเมล์สายที่เธอนั่งไปทำงานบ่อยๆ กระทั่งวันหนึ่งเธอกับซากุระได้รู้ว่าเขาจะไปออกเดต จึงตัดสินใจตามไปสังเกตการณ์ และเหตุการณ์นั้นเองก็ทำให้เราได้รู้ว่าแท้จริงแล้วทั้งมิซากิ, ยูกะ, และซากุระมีความสัมพันธ์กันแบบไหน

ต้องบอกว่าเรามีสังหรณ์ลึกๆ ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสามคนจะไม่ธรรมดา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ขนาดนั้น นับว่าทีมสร้าง โดยเฉพาะทีมเขียนบทอย่าง ยูจิ ซากาโมโตะ (Monster) ที่ไม่ใช่แค่ทำให้เราทึ่งกับบทพูดที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง และกินใจ แต่ยังทำให้หนึ่งใน “ไฮไลท์” ของเรื่องถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดี…เกือบๆ จะกลางเรื่องเลยทีเดียว

ไม่เพียงแค่นั้น การออกแบบฉาก มุมกล้อง และองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งนำทีมโดยผู้กำกับ ยูทากะ โดอิ (Be with You) ก็ทำได้ดี แนบเนียนมากจนเราแทบไม่ได้สังเกตร่องรอยใดๆ ที่จะโยงไปถึง “ไฮไลท์” สำคัญที่ว่านั่นเลย จะมีก็เพียงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พอให้เอ๊ะเท่านั้น

สิ่งหนึ่งที่ฉายชัดในใจระหว่างดู คือ หนังให้คุณค่ากับการมีชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน สถานะใด เราทุกคนต่างก็ต้องเดินทางต่อไปข้างหน้า ห่วงใดๆ ที่ผูกพันเราไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด ถูกซ่อนไว้ หรือกระทั่งความแค้น ก็ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งเราไว้ได้จากการใช้ชีวิต

ครึ่งแรกของเรื่องดูเรียบง่าย มีฉากให้เอ๊ะนิดหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้สงสัยมาก จนกระทั่งถึงครึ่งหลัง อารมณ์ต่างๆ ที่สั่งสมไว้ก็เริ่มทำงาน ดราม่าถาโถม พร้อมเผยปมที่ซ่อนไว้ ทำให้เราเข้าถึงจิตใจของตัวละคร รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาของพวกเขาได้อย่างหมดจด

...

ทีมนักแสดงนำ โดยเฉพาะนักแสดงสาวทั้ง 3 คนก็ทำได้ดี พวกเธอแสดงให้เห็นถึงบุคลิกที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหว ลังเล และเปราะบาง ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่มีความเป็นมนุษย์มากๆ และนั่นทำให้ตัวละครอย่างพวกเธอเข้าถึงใจคนดูได้ไม่ยาก…เพราะไม่ว่าใครก็มีโอกาสเจอสถานการณ์แบบนี้ได้

เอาจริงๆ หนังมีฉากเด็ดๆ หลายฉาก ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อเปิดเผยปมที่แท้จริงของแต่ละตัวละคร ซึ่งเราก็ร้องไห้มันทุกฉากเพราะอินไปกับเรื่องแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของเรื่อง และส่วนตัวคิดว่าเป็น slow burn ที่ดี ค่อยๆ ซึมจนเราซับเรื่อง ซับอารมณ์ได้ทั้งหมด

ใดๆ คือเพลงประกอบเพราะมาก โดยเฉพาะฉากสุดท้าย ที่เหมือนเป็นการคลี่ปม เคลียร์ใจ และให้บทสรุปของเรื่อง เราชอบมาก เพราะไม่ใช่แค่บอกให้เรามองหาคุณค่าของการมีชีวิต แต่ยังให้กำลังใจทุกคนให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขที่สุด และอย่ากลัวความตาย เพราะแม้ความตายจะพรากชีวิต แต่ไม่อาจพรากความรัก ความคิดถึง และความทรงจำที่คนเรามีต่อกันได้

...

รวมๆ คือหนังดีมาก ดูเพลินๆ เต็มไปด้วยดราม่าลึกซึ้ง แต่ก็อบอุ่นและอ่อนโยนต่อใจที่สุด ที่สำคัญ หนังให้พลังบวก แม้ว่าจะมีเส้นเรื่องบางส่วนที่ชวนหดหู่ แต่ก็ไม่อยากให้เราจมปลักกับเรื่องแย่ๆ แต่โฟกัสที่การใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความหวัง และมีความสุขที่สุด 

ใครเป็นแฟนเหล่านักแสดงนำคงไม่พลาด เช่นเดียวกับคอหนังญี่ปุ่น แต่หากใครยังไม่เคยลอง ลองเปิดใจมาชมกันนะ รับรองเลยว่าจะชุ่มฉ่ำ(ไปด้วยน้ำตา) และเย็นฉ่ำไปถึงหัวใจทีเดียว

จนกว่าจะพบกันใหม่