จากสมัครใจ...สู่ภาคบังคับ

Sustainability

ความยั่งยืน26 ก.ค. 2568 04:05 น.

ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านนโยบาย การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Public Procurement-GPP) จากระบบ “สมัครใจ” สู่ “ภาคบังคับ” โดยเริ่มจากภาคอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และคอนกรีต ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงที่สุดของประเทศ

การเปลี่ยนแปลงนโยบายในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำ “พลังการจัดซื้อของภาครัฐ” มาใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2050 และ Net Zero Emissions ภายในปี 2065 ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้บนเวทีโลก จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโครงการ “การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับซีเมนต์และคอนกรีตคาร์บอนต่ำในประเทศไทย” นี้ดำเนินการโดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO)

คอลัมน์ sustainable together สัปดาห์นี้ ขอนำท่านผู้อ่านไปฟังข้อมูล จาก “ดร.วิจารย์ สิมาฉายา” ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI กล่าวว่า ภาครัฐคือผู้บริโภครายใหญ่ของวัสดุก่อสร้างในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเครื่องมือเชิงนโยบายที่ใช้พลังการซื้อของภาครัฐเพื่อผลักดันตลาด ทำให้เกิดการสร้างอุปสงค์สำหรับวัสดุก่อสร้างที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น ปูนซีเมนต์ผสม หรือคอนกรีตรีไซเคิล การระบุเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมใน TOR เช่น ต้องใช้ปูนที่มีฉลากเขียว หรือค่าคาร์บอนต่ำ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนน้อยลงเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในการจัดซื้อของรัฐและยังเป็นการส่งเสริมนวัตกรรมการวิจัยและพัฒนาสำหรับซีเมนต์และคอนกรีตคาร์บอนต่ำ

นายธนะโชค รุ่งธิปานนท์ ผู้อำนวยการกองระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและราคากลาง กรมบัญชีกลาง กล่าวว่า แนวโน้มโลกและประเทศไทยที่มุ่งสู่ความยั่งยืน GPP เป็นเครื่องมือเชิงนโยบายสำคัญ และระบบ Monitoring, Reporting and Verification (MRV) เป็นหัวใจในการ “วัดผล” และ “สร้างความน่าเชื่อถือ” ของ GPP โดยมีการติดตามว่าหน่วยงานใช้สินค้าตามเกณฑ์สิ่งแวดล้อมหรือไม่ การรายงานผลการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการตรวจสอบความถูกต้องอาจใช้ฉลาก หรือหน่วยตรวจรับพัสดุ

รวมถึงความจำเป็นในการปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP) ให้รองรับการติดตามผลด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 กฎกระทรวง ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยภาครัฐควรมีข้อมูลครบถ้วนในการวางนโยบาย เพื่อประชาชนและสังคมสามารถตรวจสอบความโปร่งใส อีกทั้งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีระบบ สอดรับเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศ

นายมงคล พรชื่นชูวงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (TCMA) กล่าวว่า การนำไปใช้จริงในระบบจัดซื้อจัดจ้าง (BOQ-Bill of Quantities) ภาครัฐ จำเป็นต้องปรับการนำไปใช้จริงในระบบจัดซื้อจัดจ้าง (BOQ-Bill of Quantities) ให้รองรับวัสดุคาร์บอนต่ำ เช่น ปูนซีเมนต์ที่ผ่านเกณฑ์สิ่งแวดล้อม ต้องมีฉลากเขียว เป็นต้น เพื่อให้เป็นตามเกณฑ์คุณภาพที่กำหนด หากปรับ BOQ ให้ยืดหยุ่น ความร่วมมือระหว่างผู้ออกแบบ ผู้จัดซื้อ และผู้ผลิต คือกุญแจสำคัญในการเปิดทางให้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้าสู่ระบบจัดซื้อของรัฐ

อย่างไรก็ดี GPP ไม่ใช่แค่เครื่องมือจัดซื้อ แต่คือ “เครื่องมือขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง” การเปลี่ยนผ่านนโยบาย การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากระบบ “สมัครใจ” สู่ “ภาคบังคับ” ถ้าภาครัฐใช้ GPP อย่างจริงจัง จะมีพลังเปลี่ยนทั้งห่วงโซ่อุปทานของปูนซีเมนต์และคอนกรีตให้ลดคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญ.

SHARE

Follow us

  • |