เพิ่มมูลค่าห้วงอากาศไทย

Sustainability

ความยั่งยืน2 ส.ค. 2568 04:00 น.

คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ พาไปจับเข่าคุยกับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หลังจากที่ ส.อ.ท.ได้จัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ (Aerospace Industry Club)

เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมลำดับที่ 47 เพื่อเป็นศูนย์กลาง การให้ความรู้ทางด้านต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น รูปแบบอากาศยาน ความต้องการใช้ประเภทต่างๆเทคโนโลยีการเดินอากาศ และการควบคุมนำทางการพัฒนา Advanced Air Mobility (AAM) เพื่อให้เกิดการใช้งานห้วงอากาศที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเดินอากาศสมัยใหม่

นายเกรียงไกรเล่าให้ฟังว่า กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ, คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์, บริษัท ไอซีไอเค นวัตกรรมและการสร้างสรรค์ความรู้ จำกัด ในโครงการ “Aerospace Valley” ที่ถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะทาง ด้านเทคโนโลยีการบินและอวกาศ เพื่อยกระดับของไทยให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน Aviation & Aerospace Hub ในภูมิภาคและเวทีโลกได้อย่างมั่นคง

ขณะนี้ประเทศไทยได้เตรียมความพร้อม เพื่อเปิดให้บริการด้านนี้ อย่างเป็นรูปธรรมในอีก 3–5 ปีข้างหน้า ที่เป็นการพลิกโฉมการใช้ห้วงอากาศของไทย ในรูปแบบใหม่ ด้วยการผสานนวัตกรรม การบินอัจฉริยะเข้ากับการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจการบิน (Aeropolis) สอดคล้องกับรูปแบบ เมืองและผังเมืองสมัยใหม่ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระบบการเดินทางทางอากาศ บก ราง และน้ำได้อย่างไร้รอยต่อ

นอกจากนี้ ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต สื่อสาร โทรคมนาคม ดาวเทียม ระบบสารสนเทศ ดิจิทัล AI Big Data รวมถึงการใช้ Open Source Software เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีต้นทุนที่คุ้มค่า และการพัฒนาครั้งนี้ยังเชื่อมโยงผู้ประกอบการไปสู่คลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยใช้กรณีศึกษาจากต่างประเทศเป็นต้นแบบ

ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ เฉพาะทางด้านเทคโนโลยีการบินและอวกาศ ผลักดันให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต สื่อสาร โทรคมนาคม ดาวเทียม ระบบสารสนเทศ ดิจิทัล AI Big Data

รวมทั้งเป็นการใช้ Open Source Software เพื่อยกระดับศักยภาพของไทย ตามนโยบาย “4 GO” ได้แก่ GO Digital & AI คือการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบดิจิทัลมาใช้ในการออกแบบ ควบคุมการจราจรทางอากาศ และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์, GO Innovation คือการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการบินขั้นสูง, GO Global คือการเชื่อมโยงเครือข่ายไปสู่ระดับสากล และ GO Green คือการพัฒนาและใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 80%

“อุตสาหกรรมการบินและอวกาศเป็นโอกาสใหม่ที่สำคัญของไทยในการก้าวสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลไกหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก คาดว่าตลาดอุตสาหกรรมการบินและอวกาศทั่วโลกจะสูงถึง 1.08 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2571 โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด และจะกลายเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2583 ส่งผลให้ความต้องการด้านการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) และบุคลากรด้านการบินเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”.


SHARE

Follow us

  • |