ปลุกคนรุ่นใหม่สู่ “เกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน”

คอลัมน์ Sustainable together สัปดาห์นี้ ไปถอดรหัสเมื่อภาคเกษตรไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญที่หลากหลายมิติ เมื่อจำนวนคนที่เลือกทำอาชีพเกษตรกรรมมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเกษตรกรปัจจุบันมีอายุเฉลี่ยสูงถึง 55 ปี เราจะมีหนทางออกอย่างไร

ยิ่งเผชิญกับแรงกดดันจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต การเข้าถึงเทคโนโลยี และช่องทางการส่งออกของเกษตรกรไทย

ซึ่งเราต้องตั้งคำถามสำคัญว่า ใครจะเป็นผู้สืบทอดและพัฒนาภาคเกษตรของประเทศต่อไป คำตอบอยู่ที่การปลุกจิตสำนึกและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ให้มองเห็นว่าเกษตรกรรมไม่ใช่เพียงอาชีพดั้งเดิม แต่เป็นเกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน ที่เต็มไปด้วยโอกาสและความท้าทายในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งมีความแข็งแกร่งในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก

สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้นำด้านเครื่องจักรกลเกษตร ได้มองเห็นความสำคัญของปัญหานี้มาโดยตลอด มองเห็นคำตอบและลงมือภายใต้โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp 2025 เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน

นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กล่าวว่า ภาคเกษตรยังคงเผชิญปัจจัยท้าทายหลายปัจจัยที่เห็นกัน จึงต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ที่สามารถนำเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดภาคการเกษตรอย่างยั่งยืน และมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ปีนี้โครงการได้จัดเต็มกับ “เกษตรโลกใหม่ เกษตรอัจฉริยะ ปลูกให้ปัง ดังทุกโลก” โดยมุ่งเน้นการสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นแรงขับเคลื่อนวงการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน ผ่านการบ่มเพาะทักษะ 3 ด้านหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ การจัดการธุรกิจเกษตร และการสร้างตัวตนออนไลน์

กิจกรรมจัดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข สยามคูโบต้า ห้วยตาดข่า จังหวัดอุดรธานี โดยคัดเลือกเยาวชน 60 คนจากทั่วประเทศที่มีใจรักเกษตร และพร้อมจะกลับไปพัฒนาภาคเกษตรในพื้นที่ของตน

ในด้านเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้การใช้นวัตกรรมและเครื่องจักรกลที่ทันสมัย เช่น รถดำนาระบบจีพีเอส ระบบอินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่งสำหรับตรวจสอบสภาพดินและพืช และเทคโนโลยีศูนย์ขยะที่เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้เป็นพลังงาน

ด้านการจัดการธุรกิจเกษตร เน้นการบริหารต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิต และการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในฟาร์มต้นแบบ รวมถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์และการขายผ่านออนไลน์

สำหรับการสร้างตัวตนออนไลน์จะเน้นการสร้างเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ การทำเนื้อหาที่น่าสนใจ และการตลาดดิจิทัล เพื่อเป็นผู้มีอิทธิพลด้านเกษตรที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่

กิจกรรมในปีนี้จัดเป็น 6 ฐานเรียนรู้ ประกอบด้วย การทดลองขับเครื่องจักรกลเกษตรทันสมัย การปฏิบัติการศูนย์ขยะ การฝึกแปรรูปและขายสินค้าจริงผ่านการถ่ายทอดสด โรงเรียนดินและปุ๋ยเพื่อเรียนรู้การจัดการดินอย่างแม่นยำ ฟาร์มโคนมเพื่อสัมผัสชีวิตฟาร์มและการดูแลปศุสัตว์ และการจักสานและทอผ้า เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสำหรับเพิ่มรายได้เสริม

พร้อมจุดเด่นการเวิร์กช็อปใกล้ชิดกับผู้มีชื่อเสียง (KOL) และอินฟลูเอนเซอร์สายเกษตร เพื่อปั้นผู้มีอิทธิพลด้านเกษตรรุ่นใหม่ สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนมองเกษตรกรเป็นอาชีพแห่งอนาคต และสร้างแบรนด์และรายได้จากแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ

การปลุกคนรุ่นใหม่สู่เส้นทางเกษตรอัจฉริยะอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาการขาดแคลนเกษตรกร แต่เป็นการสร้างอนาคตของความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาดั้งเดิม เทคโนโลยีทันสมัย และจิตวิญญาณแห่งการเป็นผู้ประกอบการ.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม