"วันออกพรรษา" (ภาษาอังกฤษ : The End of Buddhist Lent Day) หรือ "วันมหาปวารณา" เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนา เนื่องจากถือเป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษา 3 เดือนของพระสงฆ์ ซึ่งวันออกพรรษาวันที่เท่าไหร่ มีประวัติที่มาอย่างไร ติดตามได้ที่นี่

วันออกพรรษาวันที่เท่าไหร่ 2568

วันออกพรรษา 2568 ตรงกับวันอะไร เป็นอีกหนึ่งคำถามที่มักได้ยินบ่อยหลังจากเข้าพรรษา ซึ่งวันออกพรรษา 2568 ตรงกับวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ตามปฏิทินจันทรคติตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี หากนับจากวันเข้าพรรษา เมื่อวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 รวมระยะเวลา 3 เดือน ตามพระพุทธบัญญัติ

ประวัติและความสำคัญวันออกพรรษา 2568 

วันออกพรรษา เป็นวันสิ้นสุดการจำพรรษาของพระสงฆ์ ตามพุทธประวัติถือเป็นวันออกพรรษาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก โดยในวันนี้ยังเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วันมหาปวารณา" ที่พระสงฆ์จะอนุญาตให้มีการว่ากล่าวตักเตือน เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง และซักถามข้อสงสัยซึ่งกันและกันอีกด้วย

ตามพุทธประวัติเดิม พระพุทธเจ้าได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาพระอภิธรรม 7 คัมภีร์โปรดพระมารดา หลังจากครบกำหนดจำพรรษา 3 เดือนแล้วได้เสด็จลงโลกมนุษย์ผ่านบันไดแก้วทิพย์ พุทธศาสนิกชนจะเตรียมนำข้าวสารอาหารแห้งออกมารับตักบาตร เพื่อรับเสด็จพระพุทธเจ้า หรือที่เรียกว่า "ตักบาตรเทโว" นั่นเอง

...

กิจกรรมที่นิยมทำในวันออกพรรษามีอะไรบ้าง

กิจกรรมทางศาสนาพุทธที่พุทธศาสนิกชนนิยมปฏิบัติในวันออกพรรษา 2568 คือ การทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารคาว-หวาน รักษาศีล ฟังธรรมที่วัด ตลอดจนร่วมกิจกรรมตักบาตรเทโว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ

การตักบาตรเทโว หรือตักบาตรเทโวโรหณะ แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก ในวันนี้จะมีการเตรียมข้าวต้มมัด หรือข้าวต้มลูกโยน พุทธศาสนิกชนจะยืนสองฝั่งทางลงจากอุโบสถ เตรียมสำหรับใส่บาตรขบวนพระภิกษุสงฆ์ที่จะเดินเรียงแถวลงมา โดยด้านหน้ามีการอัญเชิญพระพุทธรูปนำขบวน ซึ่งถือว่าเป็นการจำลองเหตุการณ์เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาโลกมนุษย์

วันออกพรรษา 2568 หยุดไหม

วันออกพรรษา 2568 ไม่นับเป็นวันหยุดราชการ แต่ถือเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาที่ประวัติที่มาและความสำคัญ นอกจากกิจกรรมทางศาสนาพุทธที่นิยมทำในวันดังกล่าวแล้ว ทางภาครัฐและภาคเอกชนยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ กิจกรรมร่วมทำบุญตักบาตรเทโว รักษาศีล ฟังเทศน์ เพื่อสั่งสมบุญบารมีและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับอีกด้วย

ที่มา : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ