ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ เผยว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดขณะนี้ ส่วนมากที่พบในเขตกรุงเทพฯ เป็นสายพันธุ์ล่าสุด คือ NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์ที่กำลังจะระบาดใหญ่ทั่วโลก เป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้ง่าย แต่อาการไม่รุนแรง

สื่อต่างชาติมีการรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา จีน เวียดนาม แม้อาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ไม่หนัก แต่เสี่ยงแพร่ระบาดเร็ว และกลุ่มเสี่ยงยังต้องระวัง

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อัปเดตข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดในขณะนี้บนเฟซบุุ๊กส่วนตัวว่า

"จากการตรวจสายพันธุ์ในขณะนี้เป็นจำนวนมาก โดยทำการศึกษาที่ศูนย์ของเรา ส่วนใหญ่เป็นในเขตกรุงเทพฯ สายพันธุ์ที่พบเป็นสายพันธุ์ล่าสุด คือ NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์ที่ทันสมัยกำลังจะระบาดใหญ่ทั่วโลก

สายพันธุ์ NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์ที่ติดง่ายมาก มาตั้งแต่สมัยโอมิครอน ซึ่งมีอำนาจการกระจายโรคอยู่ที่ 3-6 หมายถึงผู้ป่วย 1 คน สามารถกระจายไปให้ผู้อื่นได้อีก 3-6 คน ในระยะเวลา 3-5 วัน การกระจายแบบนี้คงใช้เวลาแค่ 2 หรือ 3 เดือนก็คงจะ กระจายไปได้เกือบหมดทั้งประเทศ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ความรุนแรงของโรค ไม่รุนแรง เพราะเป็นการติดเชื้อสายซ้ำอีก ดังนั้นผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงคล้ายโลกทางเดินหายใจประจำฤดูกาลโรคหนึ่ง ไม่ตรวจก็ไม่เป็นก็คือไม่รู้นั่นเอง การแพร่กระจายในช่วงนี้จึงกระจายได้เต็มที่ และก็จะลดลงหลังเดือนมิถุนายนไปแล้ว เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา

ไม่มีอะไรต้องวิตก เป็นการระบาดประจำฤดูกาลของปีนี้ และก็จะผ่านไป ปีหน้าก็คงเจอกันใหม่อีก ด้วยสายพันธุ์ใหม่ โควิดไม่ได้หายไปไหน"

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1

ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า โควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ถูกพบเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2025 ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้สมาชิกติดตามสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ซึ่งจัดเป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าติดตาม (Variant Under Monitoring หรือ VUM) โดยล่าสุดพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ใน 22 ประเทศ โดยสื่อต่างชาติต่างรายงาน ยังไม่ต้องตื่นตระหนกกับโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ และรายงานสถานการณ์การระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ในประเทศต่างๆ เช่น

  • ที่เวียดนาม พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 จำนวน 83% ของตัวอย่างผู้ป่วยในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม 2568
  • ที่อินเดีย พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ครั้งแรกในเดือนเมษายน 2025 ขณะนี้มีผู้ติดสายพันธุ์ใหม่นี้แล้วใน 20 รัฐ
  • ที่สหรัฐอเมริกา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ครั้งแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 ล่าสุดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริการายงานว่า ได้ตรวจนักเดินทางจากญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ฝรั่งเศส, ไทย, เนเธอร์แลนด์, สเปน, เวียดนาม, จีน และไต้หวัน ช่วงวันที่ 22 เมษายน ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม 2568 ที่เดินทางเข้าสนามบินหลายรัฐ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 หลายคน

ทั้งนี้โควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 จัดเป็นโควิดสายพันธุ์หลักในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบสายพันธุ์ใหม่นี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในฮ่องกง และไต้หวัน ก็มีผู้ป่วยมากขึ้นด้วย ซึ่งนักวิจัยของจีน ระบุว่า แม้โควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 ไม่ได้หลบภูมิคุ้มกันเก่งกว่าสายพันธุ์อื่น แต่สามารถเกาะกับเซลล์มนุษย์ได้เก่ง ซึ่งหมายถึงมีความเสี่ยงว่าจะแพร่ระบาดง่ายขึ้น

อาการโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1

อาการของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ NB.1.8.1 นี้ สื่อของอินเดียรายงานว่ามีหลายอาการคล้ายกับโควิดโอไมครอน ซึ่งบางคนอาจมีบางอาการ หรือไม่มีบางอาการ ดังนี้

  • เจ็บคอ
  • เหนื่อย
  • ปวดหัว
  • ไอ
  • มีไข้
  • ปวดเมื่อย
  • คัดจมูก หายใจไม่สะดวก
  • คลื่นไส้
  • สูญเสียการรับรส
  • ท้องเสีย

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ช่องทางการรักษาโควิด 2568 และการรับยา

...

สำหรับประเทศไทย ยังไม่มีการรายงานทางการเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์ NB.1.8.1 อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดที่อาการไม่หนัก รัฐบาลโดยนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยไว้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ว่า รัฐบาลโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข แนะนำให้หาหมอออนไลน์ ผ่าน 3 แอปพลิเคชัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดังนี้

  1. แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) ดำเนินการโดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม
  2. แอปพลิเคชัน Clicknic (คลินิก) ดำเนินการโดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม
  3. แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) ดำเนินการโดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม ร่วมกับ สปสช.

ส่วนแนวทางการดูแลผู้ป่วยโดยกรมการแพทย์ มี 4 แนวทางดังนี้

  1. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือสบายดี :ให้รักษาแบบผู้ป่วยนอก และไม่ให้ยาต้านไวรัส เนื่องจากส่วนมากหายได้เอง
  2. ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ : ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือโรคร่วมสำคัญให้ดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอก และดูแลตามอาการ ตามดุลยพินิจของแพทย์
  3. ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง : แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง ยังไม่ต้องให้ oxygen
  4. ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง : หากแพทย์ประเมินแล้วว่า การรักษาผ่านออนไลน์หรือระบบ Telemedicine ไม่เพียงพอ แนะนำให้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาล หรือเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน โดยจะได้รับการจ่ายยาต้านไวรัสทางการแพทย์

อัปเดตข้อมูลวันที่ 29 พ.ค. 2568

...