ช่วงนี้มีคนไข้หลายราย มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ตรวจพบว่าซีด และถ่ายออกมาเป็นตัวพยาธิในอุจจาระ จึงมาพบแพทย์สงสัยว่าอาจจะเป็น “พยาธิปากขอ”
“พยาธิปากขอ” หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า Hookworm เกิดจากการติดเชื้อปรสิต (parasite) ชนิดพยาธิตัวกลม โดยมี 2 ชนิดที่พบในคน ได้แก่ แองไคโลสโตมา ดูโอดินาเล่ (Ancylostoma duodenale) และนีเคเตอร์ อเมริกาน่า (Necator americanus)
พยาธิปากขอ พบได้ทั่วโลกกว่า 740 ล้านคน โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อน และประเทศที่สุขอนามัยไม่ดี มักพบได้บ่อยกว่า
วงจรชีวิตของพยาธิปากขอ
ตัวอ่อนของพยาธิปากขอ สามารถไชเข้าสู่ผิวหนัง มักเป็นที่เท้าในคนที่ไม่ใส่รองเท้าหรือใส่รองเท้าแตะที่เปิดให้พยาธิไชเข้าได้ แล้วจะเดินทางในร่างกายไปสู่ลำไส้ โดยที่จะมีลักษณะปากคล้ายตะขอตามชื่อ เกาะที่ผนังลำไส้ไว้ ทำให้เกิดอาการปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ทำให้ย่อยและดูดซึมอาหารได้ไม่ดี โดยพยาธิตัวแก่ สามารถผสมพันธุ์และสร้างไข่ ซึ่งจะถ่ายออกมากับอุจจาระคน แล้วมาเติบโตภายนอกร่างกายมนุษย์เป็นพยาธิตัวอ่อน แล้วไชกลับเข้าสู่ผิวหนังมนุษย์ได้อีก
...
บางรายตัวอ่อนของพยาธิสามารถออกจากระบบเลือดในปอด มาสู่ทางเดินหายใจ ทำให้ไอออกมา แล้วกลืนกลับเข้าไปในลำไส้
บางรายพยาธิตัวอ่อน อาจจะไม่พัฒนาเป็นพยาธิตัวแก่ แต่ฝังค้างอยู่ในเนื้อเยื่อ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะถูกกระตุ้นขึ้นมา และเดินทางเข้าไปในลำไส้อีก
อาการโรคพยาธิปากขอ
บางรายอาจไม่มีอาการ หากมีอาการ จะประกอบด้วย
- ผื่น มักพบบริเวณเท้า ที่พยาธิไชเข้าไป
- มีอาการไข้
- อ่อนเพลีย
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- น้ำหนักลด
- กินอาหารได้น้อยลง เบื่ออาหาร
- ไอ หรือมีเสียงวี้ดในปอด
สำหรับ อาการซีด หากเป็นรุนแรง จะมีอาการ เช่น อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่ หายใจไม่เต็มอิ่ม พัฒนาการด้านสติปัญญา และทางกายช้ากว่าปกติ ในเด็กบางรายหากติดเชื้อนาน ๆ และซ้ำซ้อน อาจทำให้ขาดธาตุเหล็กและโปรตีน
พยาธิปากขอ พบในสัตว์ได้ไหม
พยาธิปากขอของสัตว์เลี้ยง เช่น หมา แมว มักจะเป็นคนละสายพันธุ์กันกับที่สามารถติดเชื้อในมนุษย์ได้ บางครั้งตัวอ่อนของพยาธิปากขอของสัตว์อาจชอนไชเข้าผิวหนังคนได้ ทำให้เกิดเป็นรอยเคลื่อนที่ใต้ผิวหนัง มักจะเป็นเส้นเล็ก ๆ สีแดงนูน และคันมาก ซึ่งเรียกว่า การเคลื่อนที่ของพยาธิตัวอ่อนในชั้นใต้ผิวหนัง (cutaneous larva migrans) ที่สำคัญ คือ พยาธิปากขอของสัตว์ จะไม่เติบโตเป็นพยาธิตัวแก่ และไม่ออกไข่ในคน เพราะว่าสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
การรักษาโรคพยาธิปากขอ
หากพบว่ามีพยาธิปากขอ สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อกินยาถ่ายพยาธิที่มีประสิทธิภาพต่อพยาธิชนิดนี้ ได้แก่ ยาอัลเบนดาโซล (albendazole) ยามีเบนดาซอล (mebendazole) หากพบว่ามีอาการซีด อาจต้องได้รับธาตุเหล็กเสริมอีกด้วย
การป้องกันโรคพยาธิปากขอ
ไม่ควรเดินเท้าเปล่า สวมใส่รองเท้าให้มิดชิดหากอยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กนักเรียน รักษาสุขอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ จัดระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะการใช้ห้องน้ำที่สะอาด การระบายสิ่งปฏิกูลให้เหมาะสม มีการระบายน้ำฝนหรือน้ำขังที่อาจปนเปื้อนได้
...
แหล่งข้อมูล: อ. พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล