ปัจจุบันเทรนด์น้ำหอมได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก นอกจากกลิ่นหอมที่สะท้อนตัวตนและบุคลิกแล้ว ในทางวิทยาศาสตร์ยังส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์อีกด้วย
จากเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง พญ. ณัฏฐ์นรี บุญศิรภัสสร ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และ คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของปัญญ์ปุริ ผู้บุกเบิกแนวคิด Aromatic Wellness ในประเทศไทย เกี่ยวกับบทบาทของ "กลิ่น" ในฐานะเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึก และสุขภาวะที่ดี หรือ Wellbeing ของมนุษย์
พญ. ณัฏฐ์นรี ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจทางวิทยาศาสตร์ว่าย้อนไปในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 งานวิจัยด้านกลิ่นเคยถูกละเลย โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการรับกลิ่นไม่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดของมนุษย์เท่าสัตว์ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมีการค้นพบต่อมรับกลิ่นและระบบประสาทในการรับกลิ่นของมนุษย์ในปี 1990 ซึ่งนำไปสู่การได้รับรางวัลโนเบล และจุดประกายงานวิจัยด้านกลิ่นอย่างจริงจัง
จากการศึกษาพบว่า กลิ่นมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับระบบความจำและอารมณ์ของสมอง
กลิ่นและความทรงจำ (Olfaction and Memory)
เมื่อเราสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ เช่น การได้ยิน มองเห็น สัมผัส ร่วมกับกลิ่นนั้น ๆ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บไว้ในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ (Hippocampus) และความรู้สึก หรืออารมณ์ เมื่อเวลาผ่านไป หากเรากลับมาได้รับกลิ่นเดิมอีกครั้ง กลิ่นนั้นจะไปกระตุ้นสมองในบริเวณดังกล่าว ทำให้ภาพความทรงจำและอารมณ์ความรู้สึกในอดีตย้อนกลับมาได้ นี่จึงเป็นแนวคิดที่นำไปสู่การวิจัยใช้กลิ่นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ในการดึงความทรงจำในวัยเด็กกลับมา
...
กลิ่นติดต่อทางความสุข (Happiness Smell is Contagious)
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าอารมณ์สามารถ "ติดต่อ" กันได้ผ่านกลิ่นเหงื่อ โดยกลุ่มคนที่ดูหนังน่ากลัวและมีความกลัว จะปล่อยกลิ่นเหงื่อที่มีสารเคมีที่ต่างจากกลุ่มคนที่มีความสุข ซึ่งสามารถส่งผลต่ออารมณ์ของผู้ที่ได้ดมกลิ่นเหล่านั้นได้
เทรนด์ใหม่ Functional Fragrance กลิ่นหอมบำบัดสุขภาพจิต
คุณวรวิทย์เผยว่า หลังช่วงโควิด-19 ผู้บริโภคเริ่มตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่าง "กลิ่น" กับ "สุขภาพ" มากขึ้น
“จากที่เคยถูกมองว่าเป็นเพียงเรื่องความสวยงามหรือการดึงดูดใจ ตอนนี้กลิ่นได้เปลี่ยนเป็น Functional Fragrance ที่ใช้เพื่อสุขภาวะส่วนตัว (Wellbeing) มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความเครียดที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน และภาวะหมดไฟ โดยพบว่า ผู้บริโภคจำนวนมาก เช่น 78% ในอังกฤษ, 80% ในอเมริกา มองหากลิ่นเพื่อยกระดับอารมณ์ และทำให้รู้สึกสงบ ผ่อนคลาย”
ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้แบรนด์ชื่อดังระดับโลกเริ่มให้ความสำคัญ โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงหลักการ Neuroscience Fragrance และร่วมมือกับศูนย์วิจัยเพื่อยืนยันผลการบำบัดทางอารมณ์
Forest Bathing และกลิ่นจากธรรมชาติ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
แนวคิด Forest Bathing หรือ ชินริน-โยคุ (Shinrin-yoku) จากญี่ปุ่น เชื่อว่าการกลับสู่ธรรมชาติช่วยลดความเครียดที่เกิดจากเทคโนโลยี (Techno-stress) ได้ ซึ่งกลิ่นจากป่าเป็นปัจจัยสำคัญ ได้แก่
- ไพตอนไซส์ (Phytoncides) คือสารที่ต้นไม้ผลิตออกมาเพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อรา แบคทีเรีย หรือแมลง
- อัลฟ่า-พาย (Alpha-Pinene) เป็นกลิ่นไม้สนเมืองหนาวที่เป็นไพตอนไซส์ที่มีการวิจัยมากที่สุด พบว่าช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล, อะดรีนาลีน) และที่สำคัญคือเพิ่มภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ NK Cell Activity หรือเซลล์นักฆ่าตามธรรมชาติ คือเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง ที่มีหน้าที่ในการทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและตอบสนองต่อการก่อตัวของก้อนมะเร็ง
...
“มีงานวิจัยพบว่าการสูดดมกลิ่นไพตอนไซส์ในสภาพแวดล้อมปกติ เช่น ห้องนอน หรือที่ทำงาน สามารถให้ผลในการเพิ่ม NK Cell Activity คล้ายกับการไปเข้าป่าจริง ๆ” พญ. ณัฏฐ์นรี กล่าว
คุณวรวิทย์ กล่าวเสริมว่า ปัญญ์ปุริได้นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกลิ่นมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ Wellness Fragrance Series ภายใต้แคมเปญ "The Art of Slowness" เพื่อส่งเสริมการชะลอชีวิตให้ช้าลงและอยู่กับปัจจุบัน และได้ทำการวิจัยเพื่อยืนยันผลกระทบทางอารมณ์
โดยทำการศึกษาทดลองที่ศูนย์ทดสอบในเบลเยียม ด้วยระเบียบวิธี OSKVR (Olfactory Stimulation Therapy and Memory Reconstruction) โดยให้ผู้ที่มีอาการ Burnout ได้สัมผัสกลิ่น พบว่าความรู้สึกเครียดลดลงภายใน 5 นาที
ดังนั้น การนำกลิ่นหอมมาใช้ผสมผสานกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันและส่งเสริมการทำ Digital Detox เช่น นำกลิ่นมาใช้ร่วมกับการฝึกโยคะ และ Sound Healing จะช่วยเพิ่มสมาธิและความผ่อนคลาย
รวมถึงการออกแบบกลิ่นประจำสถานที่ (Scent Design) เช่น กลิ่นที่ใช้ในโรงแรมญี่ปุ่นอย่าง Hinoki (ไม้สน) ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หรือการใช้กลิ่นวานิลลา (กระตุ้นความรู้สึกอบอุ่นเหมือนวัยเด็ก) และลาเวนเดอร์ ในคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างความรู้สึกให้บ้านอบอุ่นและน่าอยู่มากขึ้น