วิธีสร้างกิจวัตรการทำงานจากที่บ้าน (WFH) ที่ใช่ เพื่อชีวิตที่ลงตัวและงานที่มีประสิทธิภาพ
ยุคปัจจุบัน การทำงานจากระยะไกล (Work From Home หรือ WFH) ได้กลายเป็นรูปแบบการทำงานที่แพร่หลายและเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผู้คนจำนวนมาก 

แม้จะมอบความยืดหยุ่น แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายในการรักษาประสิทธิภาพ สมาธิ และความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวโดยปราศจากโครงสร้างของออฟฟิศแบบเดิม 

การสร้างกิจวัตร WFH ที่เหมาะสมกับตนเองจึงไม่ใช่แค่ตารางเวลา แต่เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางสู่ความสำเร็จและความเป็นอยู่ที่ดี

ความสำคัญของการจัดกิจวัตรในการทำงานจากที่บ้าน (WFH)

กิจวัตรประจำวันที่ออกแบบมาอย่างดีเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานจากระยะไกล

สร้างโครงสร้างและความชัดเจน: ช่วยกำหนดขอบเขตระหว่างเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว ป้องกันปัญหาเส้นแบ่งที่เลือนราง ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียสมาธิ การผัดวันประกันพรุ่ง หรือภาวะหมดไฟ

บริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ: ช่วยให้สามารถจัดสรรเวลาสำหรับภาระหน้าที่ทางอาชีพ และความต้องการส่วนตัวได้อย่างสมดุล ทำให้ทุกชั่วโมงเกิดประโยชน์สูงสุด

ส่งเสริมประสิทธิภาพและสมาธิ: การมีตารางเวลาที่ชัดเจนช่วยลดสิ่งรบกวน และทำให้จดจ่อกับงานที่สำคัญได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้เทคนิคการบริหารเวลา เช่น การแบ่งช่วงเวลาทำงาน (Time Blocking)

ลดความเครียดและความเหนื่อยล้าทางจิตใจ: ขจัดภาระในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไปอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีพลังงานสมองเหลือสำหรับความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนเชิงกลยุทธ์

ป้องกันการทำงานหนักเกินไปและภาวะหมดไฟ: การกำหนดเวลาเริ่มต้น เลิกงาน และเวลาพักผ่อนที่ชัดเจน ช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

...

สร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance): เอื้อให้มีเวลาสำหรับผ่อนคลาย ทำงานอดิเรก และใช้เวลาคุณภาพกับครอบครัว ซึ่งสำคัญต่อความพึงพอใจในชีวิตโดยรวม

เคล็ดลับในการสร้างกิจวัตร WFH ที่สมบูรณ์แบบ

การสร้างกิจวัตร WFH ที่มีประสิทธิภาพคือการผสมผสานระหว่างโครงสร้างและความยืดหยุ่นที่ปรับให้เข้ากับความต้องการและจังหวะชีวิตของแต่ละบุคคลโดยมีแนวทางที่น่าสนใจดังนี้

อย่างแรก “ควรกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอน” เลือกเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการทำงานที่ชัดเจน (และยึดถือปฏิบัติตามนั้นอย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ “จัดสรรพื้นที่ทำงานเฉพาะ” ที่เหมาะสมแก่ตัวเอง ไม่จำเป็นต้องหรูหรา เพียงมีโต๊ะทำงาน แสงสว่างเพียงพอ และเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการทำงาน พร้อม “ใช้เทคนิคการแบ่งเวลา (Time Blocking)” จัดสรรช่วงเวลาสำหรับงานประเภทต่างๆ เช่น การตอบอีเมล การทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง หรือการประชุม อาจใช้เครื่องมือช่วยอย่างปฏิทินดิจิทัล (Google Calendar) หรือแอปพลิเคชันจัดการงาน (Todoist)

“การจัดลำดับความสำคัญของงาน” ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้ การทำงานที่สำคัญหรือซับซ้อนที่สุดในช่วงเวลาที่พลังงานสูงสุด และเก็บงานที่ไม่ซับซ้อนไว้ทำในช่วงที่พลังงานลดลง

“การพักผ่อนอย่างสม่ำเสมอ” การพักสั้นๆ ระหว่างทำงาน (เช่น เทคนิค Pomodoro: ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที) ช่วยให้สมองได้พักและรักษาความสดชื่น อาจใช้เวลาพักในการยืดเส้นยืดสาย พักสายตา หรือเดินเล่นสั้นๆ ผสมผสานการดูแลตนเอง (Self-Care) จัดสรรเวลาสำหรับการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอ เช่น การทำสมาธิ หรือกิจกรรมผ่อนคลายอื่นๆ

รวมถึง “การกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน” เช่น การสื่อสารตารางเวลาและขอบเขตความพร้อมในการทำงาน เพื่อให้เพื่อนร่วมงานและลูกค้าทราบ 

อาจใช้เครื่องมือช่วยบล็อกเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่รบกวนสมาธิในช่วงเวลาทำงาน รวมถึง “ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี” เลือกใช้เครื่องมือที่ช่วยในการจัดระเบียบ ติดตามโครงการ (เช่น Notion) หรือสื่อสารในทีม (เช่น Slack) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

“ทบทวนและปรับเปลี่ยน” ด้วยการประเมินกิจวัตรของตนเองเป็นประจำ (เช่น ทุกสัปดาห์) เพื่อดูว่าสิ่งใดได้ผล สิ่งใดควรปรับปรุง และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการที่เปลี่ยนไป

ประโยชน์ที่ได้รับจากกิจวัตร WFH ที่ดี

การมีกิจวัตร WFH ที่มั่นคงนำมาซึ่งประโยชน์หลายประการ จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดพบว่า การทำงานจากที่บ้านสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 13% และพนักงานยังรายงานความพึงพอใจในงานที่สูงขึ้น รวมถึงอัตราการลาออกที่ลดลงถึง 50%

  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การมีสมาธิและลดสิ่งรบกวนช่วยให้ทำงานได้มีคุณภาพและปริมาณมากขึ้น

  • ส่งเสริมสุขภาพจิต

ลดความเครียดและความวิตกกังวลจากความไม่แน่นอน สร้างความรู้สึกมั่นคงและควบคุมได้

  • ปรับปรุงสมดุลชีวิตและการทำงาน

ปกป้องเวลาส่วนตัวจากการรุกล้ำของงาน

  • สร้างวินัย

พัฒนาทักษะการจัดการตนเอง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเป้าหมายอื่นๆ ในชีวิต

  • แสดงความเป็นมืออาชีพ

...

การทำงานอย่างสม่ำเสมอและส่งมอบงานตรงเวลาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

แม้การทำงานจากที่บ้านจะมอบอิสระ แต่การสร้างกิจวัตรที่มีโครงสร้างและปรับให้เหมาะกับตนเอง คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รักษาความเป็นอยู่ที่ดี และสร้างความสำเร็จในระยะยาว ทั้งในด้านอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว

ข้อมูล : Forbes

ภาพ : istock