เบื่อแล้วใช่ไหมกับการทำงานแบบเดิม ๆ และความฝันที่จะออกไปผจญภัยในต่างแดนก็เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นทุกที ถ้าการลาพักร้อนสั้นๆ ไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความกระหายในการเดินทาง ลองมาดูว่าการย้ายไปทำงานต่างประเทศจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้อย่างไร พร้อมเจาะลึกเรื่องค่าครองชีพและประเทศน่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติ

หลายคนใฝ่ฝันอยากจะย้ายไปทำงานต่างประเทศ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ วัฒนธรรมที่แตกต่าง และโอกาสในการเติบโตในสายอาชีพ แต่ก่อนจะแพ็คกระเป๋าเดินทาง ชวนมาดูกันว่าการใช้ชีวิตในต่างโดยเฉพาะเรื่อง "ค่าครองชีพ" ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ William Russell บริษัทประกันสุขภาพระหว่างประเทศ ได้สำรวจและจัดอันดับไว้อย่างน่าสนใจ

ประเทศที่ค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ

  • สวิตเซอร์แลนด์ 
  • ไอซ์แลนด์ 
  • นอร์เวย์
  • เดนมาร์ก
  • เนเธอร์แลนด์ 

ทั้งหมดเป็น 5 อันดับประเทศ ที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพที่แพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือแม้แต่ค่าความบันเทิง ทุกอย่างล้วนมีราคาสูง ดังนั้น หากบริษัทของคุณมีแผนจะส่งคุณไปทำงานในประเทศเหล่านี้ อย่าลืมพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนให้ดีว่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่อาจจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ที่สำคัญคือ ควรคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามไลฟ์สไตล์ของคุณเอง การวางแผนล่วงหน้านี้จะช่วยให้คุณบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเทศที่ค่าครองชีพถูกที่สุดสำหรับชาวต่างชาติ

  • เม็กซิโก
  • ลิทัวเนีย
  • โปแลนด์ 
  • เกาหลีใต้
  • ฮังการี

5 ประเทศนี้ อยู่ในอันดับประเทศที่มีค่าครองชีพไม่สูงมากอีกด้วย การเลือกประเทศเหล่านี้จะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ มากขึ้น

...

รวมไปถึงหากคุณมีการเปลี่ยนแปลงจากพนักงานประจำมาเป็น Digital Nomad ที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ในโลก ประเทศที่ติดอันดับที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพมหานคร ดูไบ และลอนดอน คือ 3 อันดับแรกของเมืองยอดนิยมสำหรับ Digital Nomads จากการสำรวจของ Hotelwithtub ที่พิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความปลอดภัย ความสามารถในการซื้อ และจำนวน Digital Nomads ที่กลับมาใช้บริการซ้ำ

การเป็น Digital Nomad จึงเป็นอีกหนึ่งหนทางเปิดโอกาสให้คุณได้ผจญภัยและทำงานไปพร้อมกัน 

ข้อมูล : William Russell, ForbesHotelwithtub