ผู้ช่วยเหลือดูแล (Caregiver) ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง คือบุคลากรที่สำคัญในสังคมผู้สูงวัยปัจจุบัน เพราะหากไม่มีบุคลากร Caregiver จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งต่อผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง และลูกหลานคนในครอบครัว
ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง คือประชากรโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ติดบ้าน และกลุ่มติดเตียง ที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามแนวโน้มสังคมผู้สูงวัย
จากการเปิดเผยของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ล่าสุดโดยสรุปเกี่ยวกับการจ้างผู้ช่วยเหลือดูแล (Caregiver) ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ว่า สปสช. จะจ้าง Caregiver หรือผู้ช่วยเหลือดูแลผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงเพิ่มขึ้นประมาณ 1.8 หมื่นคน เพื่อดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงจำนวน 106,806 รายในปีนี้ โดยใช้งบประมาณ 1,115 ล้านบาท ภายใต้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทของรัฐบาล
สปสช. ยังเตรียมตั้งงบสำหรับจ้าง Caregiver ในปีงบประมาณต่อไป รวมถึงยังทำแผนจ้าง Caregiver ที่เป็นแผนระดับประเทศซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป
...
สำหรับสัดส่วน Caregiver ต่อผู้มีภาวะพึ่งพิงนี้ ให้ท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดความต้องการโดยอ้างอิงจากข้อมูลจำนวนผู้มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ เพื่อนำเสนอว่าในพื้นที่ควรมีจำนวน Caregiver กี่คน
แผนการจ้าง Caregiver ดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางการบริหารค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิง เพื่อการจ้างงาน Caregiver นอกเหนือจากงบกองทุนระบบดูแลระยะยาวสำหรับดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง (LTC) ที่อยู่ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โดยมีหลักการสำคัญคือ การจ้างจะอ้างอิงระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่นขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและการเบิกค่าใช้จ่าย พ.ศ. 2562