สำนักงานประกันสังคม ส่งความห่วงใยแก่ประชาชนที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตนในมาตรา 33, 39 และ 40 อย่างเร่งด่วน
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่าทันทีที่ทราบข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดศรีสะเกษตรวจสอบข้อมูล พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยมีการส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ แต่ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลสถานะผู้ประกันตนของผู้ประสบเหตุในครั้งนี้
กรณีลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน จากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน ไทย-กัมพูชา ลูกจ้างจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย
กรณีบาดเจ็บ
- ค่ารักษาพยาบาล ได้รับค่ารักษาเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 65,000 บาท กรณีโรงพยาบาลรัฐ จ่ายตามความจำเป็นจนสิ้นสุดการรักษา กรณีรักษาในโรงพยาบาลเอกชน จ่ายสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท
- ค่าทดแทนรายเดือน กรณีที่ต้องหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์ จ่ายไม่เกิน 1 ปีในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท/เดือน
...
กรณีเสียชีวิตหรือสูญหาย
- ค่าทดแทน ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท/เดือน ให้กับผู้มีสิทธิเป็นระยะเวลา 10 ปี
- ค่าทำศพ จำนวน 50,000 บาท
- เงินบำเหน็จ กรณีชราภาพจากกองทุนประกันสังคม
กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงาน
- ได้รับเงินร้อยละ 70 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท/เดือน ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 10 ปี
กรณีทุพพลภาพ
- ได้รับเงินร้อยละ 70 ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 14,000 บาท/เดือน ตลอดชีวิต
กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
- ภายหลังประสบอันตรายสำหรับลูกจ้าง จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39
ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ประสบอันตรายหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน ไทย-กัมพูชา จะได้รับสิทธิการดูแลดังต่อไปนี้
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- ผู้ประกันตนมีสิทธิเข้ารับรักษาได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งภายใน 72 ชม. อัตราตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์
กรณีเสียชีวิต
- ได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท
เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต
- จ่ายเงินสมทบเป็นเวลา 36 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 120 เดือน ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง 4 เดือน
- จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ได้รับอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง 12 เดือน
- ได้รับบำเหน็จชราภาพ
กรณีทุพพลภาพ
ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ดังนี้
- ทุพพลภาพรุนแรง ได้รับในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
- ทุพพลภาพไม่รุนแรง ได้รับทดแทนตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาตามประกาศกำหนด
กรณีว่างงาน (เฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 33)
- ผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินทดแทนขาดรายได้ในอัตราร้อยละ 60 ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน
ผู้ประกันตนมาตรา 40
ผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ประสบอันตรายหรือได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา จะได้รับสิทธิคุ้มครองในแต่ละกรณีและทางเลือกที่แตกต่างกัน เช่น
กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
- ทางเลือกที่ 1 นอนพักในโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป วันละ 300 บาท กรณีไม่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับวันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วันต่อปี
- ทางเลือกที่ 2 นอนพักในโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป วันละ 300 บาท กรณีไม่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับวันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วันต่อปี
- ทางเลือกที่ 3 นอนพักในโรงพยาบาล 1 วันขึ้นไป วันละ 300 บาท กรณีไม่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับวันละ 200 บาท ไม่เกิน 90 วันต่อปี
...
กรณีทุพพลภาพ
- ทางเลือกที่ 1 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500-1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 15 ปี
- ทางเลือกที่ 2 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500-1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 15 ปี
- ทางเลือกที่ 3 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500-1,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลาตลอดชีวิต
กรณีเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 1 ได้รับเงินทำศพ 25,000 บาท รับเพิ่ม 8,000 บาท เมื่อจ่ายสมทบครบ 60 เดือนก่อนเสียชีวิต
- ทางเลือกที่ 2 ได้รับเงินทำศพ 25,000 บาท รับเพิ่ม 8,000 บาท เมื่อจ่ายสมทบครบ 60 เดือนก่อนเสียชีวิต รับบำเหน็จชราภาพ
- ทางเลือกที่ 3 ได้รับเงินทำศพ 50,000 บาท รับบำเหน็จชราภาพ
ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ซึ่งให้บริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อสอบถามด้วยตนเองได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด และสาขาทั่วประเทศ
...