เคยฝันไหมว่าอยากมีชีวิตที่ไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงานทุกวัน แต่ยังมีเงินไหลเข้ากระเป๋าให้ใช้จ่ายแบบสบายๆ ฝันนั้นเป็นจริงได้ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Passive Income หรือการสร้างรายได้ที่เงินจะทำงานหาเงินให้เราเอง แม้ในเวลาที่เรานอนหลับพักผ่อน ท่องเที่ยว หรือใช้เวลาไปกับสิ่งที่เรารัก

แนวคิดหลักไม่ใช่การ "อยู่เฉยๆ แล้วรวยเลย" แต่เป็นการ "ลงแรงสร้างทรัพย์สิน หรือแรงงานในวันนี้ เพื่อเก็บเกี่ยวดอกผลในวันหน้าทรัพย์สินที่ว่านี้อาจเป็นสิ่งจับต้องได้ หรือเป็นผลงานดิจิทัลก็ได้ทั้งนั้น

มาดูกันว่า 10 ช่องทางยอดฮิตที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนมี Passive Income นั้นมีอะไรบ้าง

หมวดนักลงทุน (The Investor) ใช้เงินต่อเงิน

  • 1. ปล่อยเช่าอสังหาฯ (Real Estate Investor) ไม่ว่าจะเป็นคอนโดทำเลดี บ้านสักหลัง หรือแม้แต่ที่ดินเปล่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วปล่อยเช่า คือหนึ่งในวิธีคลาสสิกที่สร้างกระแสเงินสดให้ได้ทุกเดือน แค่ต้องบริหารจัดการผู้เช่าและดูแลทรัพย์สินให้ดี
  • 2. ลงทุนในตลาดหุ้น (Stock Investor) เลือกเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำผ่านการซื้อหุ้น แล้วรอรับ "เงินปันผล" ที่บริษัทแบ่งกำไรมาให้ผู้ถือหุ้นเป็นประจำทุกปี หรือลงทุนในกองทุนรวมต่างๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้ ก็เป็นอีกวิธีที่สร้างผลตอบแทนได้โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทั้งวัน

หมวดนักสร้างสรรค์ (The Creator) เปลี่ยนไอเดียเป็นรายได้

  • 3. สร้างรายได้จากเว็บไซต์ หรือ Blog ลองค้นหาตัวเอง ว่าคุณมีความรู้เรื่องไหนเป็นพิเศษ ลองสร้างเว็บไซต์หรือเขียนบล็อกให้ความรู้ในเรื่องนั้นๆ เมื่อมีคนเข้ามาอ่านเยอะพอก็จะสามารถสร้างรายได้จากค่าโฆษณา (Google AdSense), การรีวิวสินค้า (Affiliate Marketing) หรือแม้แต่ขายสินค้าของตัวเอง
  • 4. ดาวเด่นแห่งโลกวิดีโอ (YouTuber/Vlogger) สร้างช่อง YouTube หรือแพลตฟอร์มวิดีโออื่นๆ ในสไตล์ที่คุณถนัด ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยว, สอนทำอาหาร, แคสต์เกม หรือให้ความรู้ในหมวดที่ชื่นชอบ เป็นการลงทุนแรง เมื่อช่องเติบโต รายได้จากโฆษณาและสปอนเซอร์ก็จะตามมา
  • 5. ขายภาพถ่ายและวิดีโอออนไลน์ (Stock Photo/Video Seller) สำหรับคนรักการถ่ายภาพหรือวิดีโอ คุณสามารถนำผลงานสวยๆ ไปวางขายในเว็บไซต์ Stock Photo ต่างๆ ได้ เช่น Shutterstock, iStock หรือ Adobe Stock ได้ เมื่อมีคนดาวน์โหลดผลงานไปใช้ ก็จะได้รับส่วนแบ่งไปเรื่อยๆ ตามการดาวน์โหลด
  • 6. สร้างและขายคอร์สออนไลน์ (Online Course Creator) ลองเปลี่ยนความเชี่ยวชาญของตนเองให้เป็นคอร์สเรียนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการสอนภาษา, การตลาดดิจิทัล, การทำขนม หรือการเล่นดนตรี สร้างคอร์สเพียงครั้งเดียว แต่สามารถขายสร้างรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง

...

หมวดนักธุรกิจ (The Entrepreneur) สร้างระบบให้ทำงานเอง

  • 7. เจ้าของร้านค้าออนไลน์ (E-commerce Owner) สร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง หรือรับสินค้ามาขายต่อ (Dropshipping) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เมื่อวางระบบการสั่งซื้อ การชำระเงิน และการจัดส่งได้ดีพอ ธุรกิจก็สามารถเดินต่อไปได้โดยที่คุณไม่ต้องลงแรงกับงานมากนัก 
  • 8. พัฒนาแอปพลิเคชัน (Application Developer) ถ้าหากมีไอเดียแอปพลิเคชันเจ๋งๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้คน การสร้างแอปฯ แล้วเปิดให้ดาวน์โหลดอาจสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากโฆษณาในแอปฯ หรือการขายฟีเจอร์พรีเมียมต่างๆ
  • 9. ลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Owner) ซื้อสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจที่พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ เช่น ร้านสะดวกซื้อ, ร้านกาแฟ หรือร้านอาหาร โดยอาศัยระบบและการจัดการที่แข็งแกร่งของเจ้าของแบรนด์ ทำให้ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด และเพิ่มพูนรายได้ได้ดี
  • 10. ทำธุรกิจเครือข่าย (MLM - Multi-Level Marketing) หนึ่งรูปแบบธุรกิจที่เน้นการสร้างทีมขายและรับส่วนแบ่งรายได้จากยอดขายของทั้งเครือข่าย เหมาะสำหรับคนที่มีทักษะในการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์

แน่นอนว่า Passive Income ไม่ใช่เรื่องง่าย และใช้เวลา ทุกช่องทางต้องอาศัยการเรียนรู้ การลงแรง และ "เวลา" ในช่วงเริ่มต้น เพราะไม่มีเงิน หรือรายได้ไหนที่ได้มาฟรีๆ 

ข้อสำคัญ คือ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรืออสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้านและประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อนตัดสินใจ พร้อมกับการต้องมีความรู้จริง ดั่งผู้เชี่ยวชาญในช่องทางที่เลือก เพื่อให้สามารถสร้างทรัพย์สินที่มีคุณภาพและสร้างรายได้ให้คุณได้อย่างยั่งยืน

การเดินทางสู่อิสรภาพทางการเงินอาจไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่การเริ่มต้นศึกษาและลงมือทำตั้งแต่วันนี้ คือก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการสร้างชีวิต