จากบทสนทนาระหว่างนายสี จิ้นผิง และนายวลาดิมีร์ ปูติน ที่กล่าวถึงการมีอายุยืนยาวถึง 150 ปี ผ่านเทคโนโลยีชีวภาพและการปลูกถ่ายอวัยวะ
ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของวิทยาการทางการแพทย์ในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการอีกต่อไป แต่กำลังเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ ผ่าน "วิธีการฟื้นฟูสมัยใหม่" และ "การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ" ที่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ
วิธีการฟื้นฟูสมัยใหม่ (Modern Rejuvenation Methods)
ปัจจุบันวงการวิทยาศาสตร์ชะลอวัย (Longevity Science) กำลังมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจและต่อสู้กับความเสื่อมของร่างกายในระดับเซลล์ โดยมีหลากหลายแนวทางที่กำลังอยู่ระหว่างการวิจัยและพัฒนา ประกอบไปด้วย
เวชศาสตร์ฟื้นฟูสภาวะเสื่อม (Regenerative Medicine)
หัวใจสำคัญของแนวทางนี้คือการใช้เซลล์บำบัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเต็มเซลล์ (Stem Cells) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความสามารถในการแบ่งตัวและพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพตามวัย เช่น ผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ หรือแม้กระทั่งอวัยวะภายใน นอกจากนี้ยังมีการใช้ เอ็กโซโซม (Exosomes) ซึ่งเป็นสารที่เซลล์หลั่งออกมาเพื่อการสื่อสารระหว่างเซลล์ เพื่อกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและลดการอักเสบในร่างกาย
ปัจจุบันนี้สถาบันวิจัยทางการแพทย์ทั่วโลกกำลังศึกษาเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง เช่น สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ของสหรัฐอเมริกา และคลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูชั้นนำต่างๆ มีการให้บริการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์เพื่อความงามและสุขภาพในบางประเทศแล้ว แต่ยังคงต้องมีการควบคุมมาตรฐานและความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
...
การกำจัดเซลล์ชรา (Senolytics)
เมื่อเซลล์ในร่างกายเข้าสู่ภาวะชราภาพ (Senescence) พวกมันจะหยุดแบ่งตัวและหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความชรา ยาซีโนไลติกส์ (Senolytics) คือกลุ่มยาที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อกำจัดเซลล์ชราเหล่านี้ออกจากร่างกายอย่างจำเพาะเจาะจง
ปัจจุบันเริ่มมีการทดลองทางคลินิกในมนุษย์แล้วสำหรับยาบางชนิด เช่น การใช้ยาดาซาทินิบ (Dasatinib) ร่วมกับเควอซิทิน (Quercetin) ในผู้ป่วยโรคไตจากเบาหวานและโรคพังผืดในปอดที่ไม่ทราบสาเหตุ ผลการศึกษาเบื้องต้นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการลดจำนวนเซลล์ชราและบรรเทาอาการของโรคได้
ยีนบำบัด (Gene Therapy)
เทคโนโลยีขั้นสูงที่มุ่งเน้นการแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนยีนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชราภาพโดยตรง ตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัย ยีนโคลโธ (Klotho) ซึ่งเป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการมีอายุยืนยาว และ ยีนเทโลเมอเรส (Telomerase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยต่อความยาวของเทโลเมียร์ (Telomere) หรือส่วนปลายของโครโมโซมที่หดสั้นลงเมื่อเซลล์แบ่งตัว โดยการวิจัยในหนูทดลองพบว่าการเพิ่มการแสดงออกของยีนโคลโธสามารถยืดอายุขัยและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายได้ ขณะที่การบำบัดด้วยยีนเทโลเมอเรสก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการชะลอวัยในระดับเซลล์ อย่างไรก็ตาม การนำมาใช้ในมนุษย์ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัยและพัฒนา และต้องคำนึงถึงประเด็นด้านความปลอดภัยและจริยธรรมอย่างรอบคอบ
การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
นอกจากเทคโนโลยีล้ำสมัยแล้ว พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดีคือการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งรวมถึง โภชนาการต้านการอักเสบ (เช่น อาหารเมดิเตอร์เรเนียน) การออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงและความยืดหยุ่น การจัดการความเครียด และ การนอนหลับที่มีคุณภาพ
การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะที่ทำให้อายุยืน (Organ Transplantation for Longevity)
การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยโรคอวัยวะล้มเหลวมานานแล้ว และในปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้กำลังพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเอาชนะข้อจำกัดเดิมๆ และเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความก้าวหน้าในการปลูกถ่ายอวัยวะแบบดั้งเดิม ที่ปัจจุบัน อายุขัยของอวัยวะที่ปลูกถ่ายนั้นยาวนานขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น ไตที่ได้รับจากผู้บริจาคที่มีชีวิตอาจใช้งานได้นานถึง 20-25 ปี ตับประมาณ 20 ปี และหัวใจประมาณ 15 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพของผู้บริจาคและผู้รับ
การปลูกถ่ายอวัยวะจากสัตว์สู่คน (Xenotransplantation)
เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนอวัยวะบริจาค นักวิทยาศาสตร์จึงกำลังบุกเบิกการนำอวัยวะจากสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมู ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมด้วยเทคนิค คริสเปอร์ (CRISPR) เพื่อให้เข้ากันได้กับร่างกายมนุษย์และลดปฏิกิริยาการต่อต้านจากระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งปัจจุบันมีการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจและไตจากหมูสู่มนุษย์ที่ยังมีชีวิตแล้วในเคสทดลอง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ แม้ว่าผู้ป่วยจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการต่อยอดอันยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีนี้ในอนาคต
การพิมพ์อวัยวะสามมิติ (3D Bioprinting)
เทคโนโลยีที่อาจปฏิวัติวงการปลูกถ่ายอวัยวะโดยสิ้นเชิง โดยการใช้ "หมึกชีวภาพ" (Bio-ink) ซึ่งประกอบด้วยเซลล์ของผู้ป่วยเอง มาพิมพ์เป็นโครงสร้างอวัยวะสามมิติขึ้นมาใหม่ ข้อดีคือจะได้อวัยวะที่เข้ากันได้กับร่างกาย 100% และไม่ต้องรอรับบริจาค ที่ปัจจุบันนักวิจัยสามารถพิมพ์โครงสร้างปอดขนาดเล็กที่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้แล้วในสัตว์ทดลอง และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างอวัยวะที่ซับซ้อนและใช้งานได้จริงในมนุษย์
...
การเพาะเลี้ยงอวัยวะจากสเต็มเซลล์ เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสร้างอวัยวะใหม่ โดยการนำสเต็มเซลล์มาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการและกระตุ้นให้เจริญเติบโตเป็นอวัยวะที่ต้องการบนโครงเลี้ยงชีวภาพ (Scaffold)
โดยสรุปแล้ว แม้ว่าการมีชีวิตที่ยืนยาวเท่าที่จะทำได้ อาจยังเป็นเรื่องของอนาคตอันไกลโพ้น แต่ "วิธีการฟื้นฟูสมัยใหม่" และ "การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ" ที่ปูติน และสี จิ้นผิง กล่าวถึงนั้น ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่จริงและกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อยืด "อายุขัยอย่างมีสุขภาพดี" (Healthspan) ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และโอกาสที่มนุษย์ในศตวรรษนี้จะมีอายุยืนถึง 150 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไปในทางทฤษฎี