JobThai เผยข้อมูลตลาดแรงงานไทยช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2568 (ม.ค.–ก.ย.) พบว่า ตลาดแรงงานยังคงขยายตัว ด้วยจำนวนตำแหน่งงานเปิดรับรวมกว่า 1.75 ล้านอัตรา คิดเป็นการเติบโต 2.18% แม้จะอยู่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ความต้องการแรงงานสูงสุดยังคงกระจุกตัวอยู่ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งเป็นเสาหลักของประเทศ ได้แก่

  1. อาหารและเครื่องดื่ม (168,556 อัตรา) ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง สะท้อนความสำคัญของการบริโภคและการเติบโตของเทรนด์เดลิเวอรี
  2. ค้าปลีก (148,706 อัตรา) โดยเฉพาะกลุ่มร้านสะดวกซื้อและแฟชั่น/สุขภาพ ที่เติบโตตามแนวโน้มรักสุขภาพ
  3. ยานยนต์ (118,150 อัตรา) ได้รับแรงขับเคลื่อนจากนโยบายสนับสนุนการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
  4. บริการ (116,222 อัตรา) งานบริการเอาท์ซอร์สซิ่ง (Outsourcing) และบริการสุขภาพยังคงเป็นที่ต้องการสูง
  5. ก่อสร้าง (96,980 อัตรา) ได้แรงหนุนจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ยังคงเดินหน้า

จุดที่น่าจับตาคือ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ โดดเด่นเป็นพิเศษ ด้วยอัตราการเติบโตของตำแหน่งงานสูงถึง 30% (92,138 อัตรา) ตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะฐานการผลิตสำคัญของโลก

ทักษะใหม่ที่ตลาดกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน

ตลาดแรงงานปีนี้กำหนดโดยสองปัจจัยสำคัญคือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ การไลฟ์สดเชิงพาณิชย์

1. AI และเทคโนโลยีดิจิทัล 

ตลาดแรงงานต้องการการใช้งานเครื่องมือ AI ขั้นสูง เช่น ChatGPT, Gemini, Midjourney ในสายงาน IT, การตลาด, ออกแบบ และ HR รวมถึงความรู้ด้าน Machine Learning, Deep Learning, TensorFlow สำหรับสายงานวิศวกรรม/ไอที โดยคำค้นหาที่องค์กรนิยมใช้ในการคัดสรรบุคลากรคือ การใช้ AI และเครื่องมือเฉพาะทาง

...

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock


2. Live Commerce หรือ คอนเทนต์ 

องค์กรมองหาบุคลากรที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ไลฟ์สดและสตรีมมิ่งเพื่อการค้า โดยคำค้นหาที่องค์กรมักเลือกใช้คือ "ไลฟ์สด หรือ TikTok"

มุมมองจากผู้สมัคร

คำค้นหายอดนิยมจากฝั่งคนทำงานคือ "หยุดเสาร์–อาทิตย์", "นักศึกษาจบใหม่", "ไม่มีประสบการณ์", และ "ฝึกงาน" ซึ่งสะท้อนความต้องการความยืดหยุ่นและโอกาสในการเริ่มต้นอาชีพ

  • AI คือ ผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทน ผลสำรวจชี้ว่าทั้งคนทำงานและองค์กรกำลังเปิดรับ AI อย่างมีสติ
  • ด้านการใช้งานพบว่าเกือบ 50% ขององค์กร และ 64% ของคนทำงานมีการใช้ AI แล้ว โดย Gen Z (67%) เป็นกลุ่มที่ใช้มากที่สุด รองลงมาคือ Gen Y (64.16%) และ Gen X (55.11%)
  • ทัศนคติต่อ AI องค์กรส่วนใหญ่ (65%) มองว่า AI ควรทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยเสริมประสิทธิภาพ” ให้กับพนักงาน ไม่ใช่การมาแทนที่ ขณะที่คนทำงานกว่า 74% มีทัศนคติเชิงบวก มองว่า AI ช่วยให้งานง่ายและเร็วขึ้น

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock


กุญแจสู่ความอยู่รอดคือ Reskill และการปรับตัว

นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้บริหาร JobThai ชี้ว่า การเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญ โดยเน้นย้ำถึง 2 สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ

1. การพัฒนาทักษะแบบองค์รวม

ต้องควบคู่กันไปทั้ง Soft Skills (เช่น การสื่อสาร, การคิดวิเคราะห์, ความคิดสร้างสรรค์) และ ทักษะดิจิทัลเชิงลึก (การใช้ AI อย่างสร้างสรรค์)

2. การปรับโครงสร้างองค์กร

ภาคธุรกิจควรปรับแนวทางการทำงานให้สอดคล้องกับพนักงานยุคใหม่ เช่น การส่งเสริม Hybrid Work, การลงทุนในเทคโนโลยี, และการปรับระบบสวัสดิการ เพื่อรักษาบุคลากรคุณภาพ