เมื่อสังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ ภาพจำของคนอายุ 60+ ที่เคยถูกมองว่าต้องพักผ่อนอยู่บ้าน กำลังถูกท้าทายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
โลตัส ในฐานะร้านค้าปลีกที่ใกล้ชิดกับคนทุกวัย เล็งเห็นถึงศักยภาพและพลังของคนกลุ่มนี้ที่ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้ซื้อ แต่ยังเป็น "ผู้ขับเคลื่อน" สำคัญ จึงได้เปิดตัวแคมเปญ “เติมใจวัยเก๋า 60+” การสร้างพื้นที่และให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"เก๋าเข้าใจเก๋า" เมื่อพนักงานและลูกค้าคือคนวัยเดียวกัน สิ่งที่ทำให้แคมเปญนี้น่าสนใจและแตกต่าง คือการนำแนวคิด "ไม่มีใครเข้าใจวัยเก๋า ได้ดีเท่าวัยเก๋าด้วยกัน" มาทำให้เกิดขึ้นจริง ผ่านการบริการจากพนักงาน “60+ ยังแจ๋ว”
การตลาด ที่เป็นการสร้างอาชีพ และคุณค่าให้กับคนวัยเกษียณโดยตรง ทำให้ลูกค้ารุ่นใหญ่ที่มาใช้บริการรู้สึกอุ่นใจ สบายใจ และได้รับการดูแลจากคนที่เข้าใจความต้องการในวัยเดียวกันอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ การพูดคุย หรือการแนะนำสินค้าที่ตรงใจ นับเป็นการเปลี่ยนสถานะจาก "ผู้สูงวัย" ให้กลายเป็นทีมงานที่มีคุณค่าขององค์กร
วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้บริหารจากซีพี แอ็กซ์ตร้า ให้มุมมองว่า "เรานิยามความเป็นวัยเก๋าจากไลฟ์สไตล์จริงๆ ของคนยุคนี้ พวกเขาทันสมัย ใช้เทคโนโลยีเป็น ใส่ใจสุขภาพ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เราจึงไม่ได้มองพวกเขาเป็นแค่ลูกค้ากลุ่มหนึ่ง แต่เป็นกลุ่มคนที่มีศักยภาพสูง"
แคมเปญ "เติมใจวัยเก๋า 60+" ถูกคิดมาเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเก๋าฉลาดช้อป เข้าใจดีว่าวัยนี้ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิต จึงมอบส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้าจำเป็น ทุกวันพุธ และยังมีดีลพิเศษที่ศูนย์อาหาร ให้ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากขึ้น
...
เก๋าสะดวกสบาย แก้ปัญหาจุกจิกที่คนรุ่นใหญ่มักเจอ ด้วยบริการ ที่จอดรถพิเศษ, ช่องชำระเงินด่วน และ พนักงานช่วยถือของไปส่งที่รถ ทำให้การมาซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นเรื่องง่ายและไม่น่าเหนื่อยอีกต่อไป
เก๋าใส่ใจสุขภาพ การร่วมมือกับพันธมิตรอย่างห้างแว่นท็อปเจริญและร้านยาของโลตัสเอง ที่จะจัดให้มี บริการตรวจวัดสายตาและวัดความดันฟรี พร้อมคำแนะนำเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรใกล้บ้าน
เก๋าสนุกกับชีวิต เติมเต็มพลังใจด้วยกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ เช่น ร้องคาราโอเกะฟรี เมื่อช้อปครบตามกำหนด และมอบ ส่วนลดพิเศษจากโรงพยาบาลชั้นนำ เป็นต้น
แคมเปญทั้งหมดนี้ของโลตัส ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ให้แก่คนรุ่นใหญ่ และกำลังส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า องค์กรขนาดใหญ่กำลังปรับตัวเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ "คนทุกวัย" สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้อย่างมีคุณค่า
ไม่ว่าจะในฐานะลูกค้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี หรือในฐานะคนทำงานรุ่นใหญ่ที่นำประสบการณ์ชีวิตมาสร้างประโยชน์ต่อไป แถมยังสามารถกลับมาเป็นรายได้ในชีวิตได้อีกด้วย