โอเพนเอไอกำลังเพิ่มแนวทางป้องกันและหลีกเลี่ยงที่จะให้คำแนะนำที่เป็นเรื่องส่วนตัวเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะพฤติกรรมที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้ใช้งาน
โอเพนเอไอผู้พัฒนาแชตบอต ChatGPT จะเพิ่มระบบแจ้งเตือนผู้ใช้งานกรณีที่มีการใช้งานที่ยาวนานเกินไป พร้อมกันนี้ โอเพนเอไอจะหลีกเลี่ยงการให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้งานในประเด็นที่เป็นปัญหาส่วนตัว แต่จะเปลี่ยนแนวทางเป็นการตั้งคำถามกลับไปยังผู้ใช้งานแล้วชั่งน้ำหนักถึงข้อดีและข้อเสียแทน
โอเพนเอไอบอกด้วยว่ามีบางกรณีที่โมเดล 4o บกพร่องในการรับรู้ถึงอาการหลงผิดหรือการพึ่งพิงทางอารมณ์ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็จะมีการปรับปรุงโมเดลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจจับสัญญาณของความทุกข์ทางจิตใจหรืออารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ ChatGPT สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมและชี้ไปยังแหล่งข้อมูลที่อ้างอิงได้เมื่อจำเป็น
การอัปเดตครั้งนี้ของโอเพนเอไอ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้งานมองการใช้งาน ChatGPT ในฐานะนักบำบัดหรือเพื่อนสนิท หรือการใช้เป็นที่พึ่งพิงทางอารมณ์มากเกินไป
...
ทั้งนี้ โอเพนเอไอชี้แจงว่าการใช้งาน ChatGPT ให้มีประโยชน์ควรเป็นการซ้อมสำหรับบทสนทนาที่ยากลำบาก การขอคำแนะนำเพื่อไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และคำพูดให้กำลังใจที่ถูกปรับให้เหมาะกับแต่ละคน
ในช่วงต้นปี โอเพนเอไอได้ถอนอัปเดต GPT-4o ในส่วนที่มีแนวทางที่เห็นด้วยกับผู้ใช้มากเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจไม่น้อย จนนำมาสู่การปรับปรุงการเทรนโมเดลเอไอเพื่อไม่ให้เกิดการชี้นำและการประจบประแจงผู้ใช้งาน
ตอนนี้ โอเพนเอไอได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเช่นแพทย์และนักวิจัยเพื่อช่วยให้ ChatGPT ตอบสนองในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น เช่น เมื่อผู้ใช้แสดงสัญญาณของความทุกข์ทางจิตใจหรืออารมณ์ รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต, การพัฒนาเยาวชน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ โดย โอเพนเอไอ ระบุว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อการดำเนินงานมีความคืบหน้า
ในช่วงที่ผ่านมา ChatGPT ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Agent Mode ซึ่งสามารถทำงานออนไลน์แทนผู้ใช้ได้ เช่น การนัดหมาย หรือสรุปอีเมล แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานกำลังรอก็คือ การเปิดตัว GPT-5 ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมกับการใช้งานที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น
ที่มา: OpenAI