Galaxy S25 FE คือสมาร์ทโฟนรุ่นสุดท้ายของซีรีส์ Galaxy S25 แล้วก็เป็นรุ่นที่มีราคาประหยัดที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ปิดท้ายตระกูล Galaxy S25
Galaxy S25 FE มีการออกแบบที่ดูเกินกว่าราคา การออกแบบมีความหรูหรา ขอบจอที่ถูกเกลาให้บางลงเมื่อเทียบกับ FE รุ่นก่อนหน้า ทำให้ในภาพรวมของ Galaxy S25 FE มีความเป็นพรีเมียมจริงๆ
เมื่อลองสัมผัสเครื่องจริงๆ จะพบว่า Galaxy S25 FE จับ หยิบ และถือสบายกว่า Galaxy S25 Series รวมถึง FE รุ่นก่อนหน้าจริงๆ
หน้าจอของ Galaxy S25 FE มีขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว Full HD+ แบบ Dynamic AMOLED 2X รองรับรีเฟรชเรต 120Hz จากการใช้งานหน้าจอก็ถือว่าตามมาตรฐาน การตอบสนองการใช้งานต่างๆ ถือว่าดีทีเดียว ไม่มีอาการสะดุดให้เห็นจากการทดลองจับเครื่องในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
...
ตัวเครื่องใช้ชิปเซต Exynos 2400 ที่ซัมซุงพัฒนาขึ้นมาเอง ตามข้อมูลที่ซัมซุงเปิดเผย พวกเขาระบุว่ามีการใช้ Vapor Chamber ที่ขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยใหญ่กว่า Galaxy S24 FE ประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ และ Galaxy S24 Ultra ราว 18 เปอร์เซ็นต์
จากการลองใช้งานขณะที่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ คงต้องกล่าวว่าเครื่องที่ทดลองใช้งานนั้นมีการควบคุมอุณหภูมิไม่ดีเท่าไหร่ รอบตัวเครื่องร้อนง่าย รวมถึงการจัดการแบตเตอรี่จาก 100 เปอร์เซ็นต์ ลดเหลือ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าค่อนข้างไว
กล้องหลังของ Galaxy S25 FE มีด้วยกัน 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล f/1.8 กล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2 และกล้องเทเลโฟโต้ 3x ขนาด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเซลฟี่ขนาด 12 ล้านพิกเซล
ภาพถ่ายจาก Galaxy S25 FE
...
...
คุณภาพของภาพที่ออกมาจากกล้องของ Galaxy S25 FE โทนสีเป็นธรรมชาติดี เมื่อถ่ายในที่ร่ม
จุดน่าสนใจคือ Galaxy S25 FE รองรับการใช้งาน AI อย่าง Galaxy AI ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในจุดขายของรุ่นนี้ โดยจะรองรับการใช้งานเครื่องมืออย่าง Generative Edit ช่วยลบ-เติมองค์ประกอบในภาพ และชุด AI ทั้งการแปล Interpreter
...
แบตเตอรี่ของ Galaxy S25 FE ให้มาที่ 4,900 mAh รองรับการชาร์จไว 45 วัตต์ แต่การใช้งานในช่วงทดลองเครื่อง ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้วพบปัญหาแบตเตอรี่ที่ลดลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งตรงจุดนี้ต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งในเครื่องที่วางจำหน่ายจริงว่าจะพบปัญหาในลักษณะนี้หรือไม่
ทางด้านการอัปเดตซอฟต์แวร์ ซัมซุงยืนยันว่าจะอัปเดตระบบปฏิบัติการได้นาน 6 ปี ซึ่งเท่ากับกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของซัมซุง
สำหรับ Galaxy S25 FE มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีดำ Jet Black สีขาว สีฟ้า Icy Blue และสีน้ำเงิน Navy มีให้เลือกสองขนาด ได้แก่ 8GB+128GB และ 8GB+256GB
นอกเหนือจาก Galaxy S25 FE แล้ว ยังมีการเปิดตัว Galaxy Tab S11 และ Galaxy Tab S11 Ultra ซึ่งเน้นการทำงานด้านเวิร์กสเปซมากขึ้น ต่อจอนอกได้แบบขยายพื้นที่ มีการปรับ S Pen ใหม่ให้จับถนัดมือขึ้น รองรับการใช้งาน Gemini
ทั้งนี้ Galaxy Tab S11 มีขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล และ Galaxy Tab S11 Ultra ขนาดหน้าจอ 14.6 นิ้ว แบบ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด 2960×184 พิกเซล 8 ค่าความสว่างสูงสุด 1600 nits