iPhone Air ไลน์อัปใหม่ล่าสุดของแอปเปิล ซึ่งมาพร้อมกับความบาง แต่ก็มาพร้อมกับคำถามที่ว่าตัวเครื่องจะทนต่อการงอหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บริหารแอปเปิลแสดงความมั่นใจว่าผ่านมาตรฐานการงอในระดับสูง
หลังการเปิดตัว iPhone 17, iPhone 17 Pro และ iPhone Air เว็บไซต์ทอมส์ไกด์ได้สัมภาษณ์ เกร็ก “จอซ” จอซเวียก หัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับโลกของแอปเปิล และจอห์น เทอร์นัส รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง iPhone Air
ประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็คือ ข้อคลางแคลงใจว่า iPhone Air มีมาตรฐานความทนต่อการงอ มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเรื่องนี้ จอซได้ให้ผู้สัมภาษณ์ของทอมส์ไกด์ลองงอ iPhone Air อย่างเต็มแรง ซึ่งสุดท้ายตัวเครื่องโค้งเล็กน้อยแต่ไม่หัก อีกทั้งยังมีบางจังหวะที่ผู้สัมภาษณ์รับเครื่อง iPhone Air จากมือจอซพลาดอีกต่างหาก นั่นจึงทำให้ iPhone Air ดูมีความแข็งแรงมากขึ้น
...
จอห์น เทอร์นัส รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ ย้ำว่า iPhone Air มีค่าความแข็งแรงต่อการงอสูงกว่ามาตรฐานตัวชี้วัด ซึ่งจากการสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวได้งอสุดแรง สุดท้ายตัวเครื่องไม่เกิดการงอแต่อย่างใด ซึ่งเทอร์นัสอธิบายหลักการพัฒนา iPhone Air ว่า ถ้าใส่แรงมากพอ คุณจะทำให้มันยืดหยุ่นเล็กน้อย และจอซเสริมว่า แต่มันเด้งกลับ นั่นแหละคือไอเดียในการพัฒนาตัวเครื่อง
อ่านเพิ่มเติม:
- เปิดตัว iPhone Air เมื่อ Apple นำความบางมาเป็นจุดขาย
- เปิดตัว iPhone 17 รองรับจอ 120Hz ครั้งแรก ขนาดหน้าจอ 6.3 นิ้ว กล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล
- เปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max ชูดีไซน์ camera plateau ยูนิบอดี้เต็มเครื่อง
ในแง่ของโครงสร้าง iPhone Air แอปเปิลใช้แถบไทเทเนียมรัดรอบตัวเครื่อง หน้าจอเป็นแบบ Ceramic Shield 2 ที่แอปเปิลอ้างว่าทนรอยขีดข่วนได้มากขึ้น 3 เท่า และฝาหลัง Ceramic Shield ที่บอกว่าปกป้องการแตกร้าวได้ดีกว่ากระจกทั่วไป 4 เท่า นอกจากนี้ แอปเปิลยังได้ทบทวนเหตุการณ์ “Bendgate” ที่เคยเกิดขึ้นกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในปี 2014
คำถามสำคัญกว่าคือ iPhone Air ถูกสร้างมาเพื่อใคร เรื่องนี้แอปเปิลบอกว่ารุ่นนี้ถูกเข้ามาแทนที่ iPhone 16 Plus เพียงแต่เป็นการออกแบบใหม่หมดจด โดยมีเป้าหมายก็คือ ทำให้ความเป็นอุปกรณ์หายไป เหลือแค่คอนเทนต์ที่อยู่ในมือผู้ใช้งาน
จอซ กล่าวเสริมว่า การพัฒนา iPhone Air ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแอปเปิลต้องเอาส่วนประกอบจำนวนมากมาร้อยเข้าด้วยกัน ไม่ใช่แค่ชิป A19 Pro แต่ยังมีโมเด็ม C1X และชิป N1 ที่รวม Wi-Fi 7, Bluetooth และ Thread ในเวลาเดียวกัน ฝั่งวัสดุประกอบงานมีการใช้ Ceramic Shield ฝาหลังเพื่อสร้าง “Hollow Plateau” หรือพื้นที่ยกระดับบริเวณกล้องที่กลวงอยู่ภายใน
อย่างไรก็ดี ความบางของ iPhone Air ต้องแลกมากับสเปกที่ถูกลดทอนไป เช่น ตัวเครื่องไม่มีกล้องอัลตราไวด์ หรือเทเลโฟโต มีแต่เพียงกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล แต่เรื่องนี้แอปเปิลบอกว่าอย่าให้จำนวนของเลนส์กล้องหลอกให้เข้าใจผิด ซึ่งแอปเปิลย้ำว่า iPhone Air มันถ่ายได้ 4 ระยะ รวมถึงการซูม 2x คุณภาพระดับออปติคอล และตัวภาพก็ออกมาดีมาก แต่กล้องที่ดีที่สุดแอปเปิลย้ำว่าเป็น iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max
ขณะเดียวกัน เมื่อถามว่า iPhone Air ที่บางขนาดนี้คือสัญญาณของ iPhone แบบพับ หรือ iPhone Fold ได้หรือไม่ ซึ่งจอซให้คำตอบว่า ตอนนี้แอปเปิลขอโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และเทอร์นัสอธิบายถึงภาพรวมทางวิศวกรรมว่า เทคโนโลยีและชิ้นส่วนที่พัฒนาใหม่มักจุดประกายผลิตภัณฑ์อื่นๆ เสมอ
...
ที่มา: Tom’s Guide