อดัม มอสเซรี หัวหน้าผลิตภัณฑ์อินสตาแกรมย้ำอีกครั้งว่าแพลตฟอร์มเมตาไม่ได้แอบเปิดไมโครโฟนเพื่อฟังบทสนทนา ยืนยันทำไม่ได้เพราะละเมิดความเป็นส่วนตัวร้ายแรง และหากมีการเปิดไมค์ ผู้ใช้ย่อมเห็นไฟบอกสถานะบนหน้าจอ รวมถึงแบตเตอรี่ลดลงผิดปกติอยู่ดี
อดัม มอสเซรี หัวหน้าผลิตภัณฑ์อินสตาแกรม โพสต์วิดีโอบนอินสตาแกรมของตัวเองว่าแพลตฟอร์มของเมตาไม่ได้แอบเปิดไมโครโฟนบนมือถือของผู้ใช้งานเพื่อฟังบทสนทนาแล้วนำไปยิงโฆษณา ระบุการทำเช่นนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างร้ายแรง ที่ผ่านมา เมตาก็ปฏิเสธข่าวนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่บล็อกโพสต์ปี 2016 ไปจนถึงคำให้การของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กต่อสภาคองเกรสในปี 2018
อย่างไรก็ตาม คำชี้แจงรอบนี้เกิดขึ้นพร้อมกับประกาศใหม่ของเมตา ที่กล่าวว่า บริษัทกำลังจะนำข้อมูลการโต้ตอบของผู้ใช้งานกับผลิตภัณฑ์ AI ของเมตา มาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเลือกโฆษณาและคอนเทนต์ข้ามแอปพลิเคชันในเครือ ซึ่งหมายความว่า แม้ไม่ต้อง “ฟัง” ผ่านไมค์ โฆษณาก็ยังตรงตัวได้มากขึ้นจากสิ่งที่ผู้ใช้พิมพ์คุยกับบอต AI
มอสเซรีอธิบายว่า ระบบแนะนำและโฆษณาของเมตาแม่นยำได้เพราะทำงานร่วมกับนักโฆษณาที่ส่งข้อมูลผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์ ประกอบกับแบบจำลองของคนที่สนใจแบบเดียวกัน จึงไม่ต้องอาศัยเสียงสนทนา นอกจากนี้ ถ้าแอปเปิดไมค์จริง ผู้ใช้จะเห็นไฟแสดงสถานะบนจอ และแบตเตอรี่จะลดฮวบผิดปกติ
เมตาระบุว่า นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ ซึ่งจะมีผล 16 ธันวาคมนี้ จะเปิดทางให้นำข้อมูลจากการคุยกับ Meta AI และบริการ AI อื่นๆ ในเครือเมตา มาใช้เพื่อปรับโฆษณาให้ส่วนตัวขึ้นในหลายประเทศ ซึ่งอาจทรงพลังยิ่งกว่าการเดาจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่มีความใกล้เคียง เพราะผู้ใช้มักเปิดเผยความสนใจและแผนการส่วนตัวกับแชตบอตโดยตรง
...
มอสเซรีชี้ว่าความรู้สึกว่า “ถูกดักฟังอยู่” บ่อยครั้งเกิดจากจิตวิทยาอย่างการเห็นโฆษณามาก่อนแต่ไม่ทันสังเกต หรือการปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์บางแบบจนระบบเรียนรู้รสนิยมการใช้งาน ไม่ใช่เพราะมีการเปิดไมค์แอบฟังแต่อย่างใด
ที่มา: Adam Mosseri