นายกสมาคมอาคารชุดไทย ย้ำอาคารสูงไทยก่อสร้างหลังปี 2550 มีมาตรฐานรองรับแผ่นดินไหว ผ่านบททดสอบความแรง 8.2 ริกเตอร์ มีความเสียหายในวงจำกัด ฟากบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ออกมาตรการตรวจสอบอาคารชุด ฟื้นความเชื่อมั่นผู้อยู่อาศัยอาคารสูงทุกแห่ง
ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย ออกแถลงการณ์ย้ำว่า มาตรฐานการก่อสร้างอาคารสูงของไทยรองรับแผ่นดินไหว โดยการก่อสร้างอาคารสูงทุกอาคารในประเทศไทยหลังปี 2550 ต้องก่อสร้างตามมาตรฐานการก่อสร้างเพื่อรองรับแผ่นดินไหว ทำให้อาคารสูงทั้งคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงานไม่พังลงเป็นอันตรายแก่ชีวิตคนในอาคาร มีแต่ความเสียหายในวงจำกัด เช่น กระเบื้อง/หินอ่อนหลุดร่อนออก หรือผนังแตกร้าวมาจากแผ่นดินไหว ฝ้าบางจุดหลุดหล่น หรือความเสียหายกับโครงสร้างอาคารบางส่วน แต่ไม่ถึงขั้นร้ายแรงวิบัติพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดนี้ ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้
แสดงถึงมาตรฐานการก่อสร้างอาคารสูงของไทยจากบททดสอบแผ่นดินไหวสูงถึงขนาด 8.2 เป็นระดับสูงสุดที่มีมาในประเทศไทย ว่าการก่อสร้างตึกสูงของไทยได้มาตรฐานจริง ๆ โดยไม่มีตึกใดเลยที่เปิดใช้อาคารแล้วพังลงมากระทบต่อชีวิตผู้ใช้อาคารแม้แต่ตึกเดียวในครั้งนี้
หลังจากนี้ แต่ละอาคารคงต้องเข้าตรวจสอบความเสียหายของอาคารที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวทุกแห่ง เพื่อเข้าซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดและเสียหาย ให้เกิดความปลอดภัยรวมถึงสร้างความมั่นใจของผู้ใช้อาคารต่อไป
ด้านบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งในประเทศไทยได้ออกแถลงการณ์และดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย ดังนี้
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC: ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อดูแลความปลอดภัยของลูกบ้านหลังเหตุแผ่นดินไหว โดยทีมวิศวกรได้เข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารทุกโครงการเบื้องต้นแล้ว ไม่พบความเสียหายรุนแรงใดๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบโดยละเอียด พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกร่วมประเมินเพื่อเสริมความมั่นใจสูงสุดให้แก่ลูกบ้าน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอำนวยความสะดวกสำหรับลูกบ้านที่ต้องการให้เข้าตรวจสอบความเสียหายภายในห้องพัก โดยสามารถแจ้งผ่านนิติบุคคลประจำโครงการได้ทันที MQDC ยืนยันการรับประกัน 30 ปีสำหรับทุกโครงการตามเงื่อนไขที่กำหนด ครอบคลุม 4 ด้านสำคัญ ได้แก่
พร้อมขอบคุณลูกบ้านที่ให้ความไว้วางใจ และยืนยันว่าจะดูแลทุกท่านด้วยมาตรฐานสูงสุดในทุกขั้นตอน
บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN: CEO และผู้บริหารของ LPN พร้อมด้วยทีมวิศวกร ได้ เข้าตรวจสอบทุกโครงการ ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างเต็มที่ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจของลูกค้า บริษัทจะจัดทำรายงานผลการเข้าตรวจของแต่ละโครงการเพื่อแจ้งให้นิติบุคคลของแต่ละโครงการทราบต่อไป สำหรับลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ Call Centet โทร 02-689-6888 หรือติดต่อผ่าน Line ของนิติบุคคลประจำโครงการนั้น ๆ เพื่อการรับข่าวสาร หรือแจ้งซ่อมแซม และสอบถามข้อมูลทั่วไป สามารถติดต่อช่องทาง Line : LPN Connect
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI: ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการตรวจสอบอาคารสูงทุกโครงการกว่า 90 โครงการทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย อีกทั้งกรณีขอชี้แจงว่าโครงสร้างอาคารศุภาลัย มอนเต้ @เวียง เชียงใหม่ และศุภาลัย มอนเต้ 2 ไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด
ทั้งนี้นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และวิรัช ตั้งมั่นคงวรกูล โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนิติบุคคลโครงการ ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายโครงการคอนโดมิเนียมทั้งโครงการศุภาลัย มอนเต้ @เวียง เชียงใหม่ และศุภาลัย มอนเต้ 2 ได้สรุปผลจากการตรวจสอบ พบว่า โครงสร้างอาคารปลอดภัยไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด บริเวณชั้นล่างงานสถาปัตยกรรมภายนอกมีความเสียหายระดับปานกลาง ในขณะที่ห้องชุดและส่วนกลางชั้นบนมีความเสียหายน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการสื่อสารผลการตรวจสอบโดยพร้อมรายงานแนวทางแก้ไขและมาตรการเพิ่มเติมให้ผู้อยู่อาศัยได้รับทราบ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการอาคารสูงทุกแห่งของศุภาลัยมีความปลอดภัยสูงสุดและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัย
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD: ได้ส่งทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบโครงการทั้งที่กำลังก่อสร้างและส่งมอบแล้วอย่างเร่งด่วน โดยเน้นตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ลิฟต์โดยสาร และระบบสาธารณูปโภค พร้อมจัดเจ้าหน้าที่นิติบุคคลดูแลลูกบ้านอย่างใกล้ชิด
บริษัทฯ ยืนยันว่าทุกโครงการก่อสร้างตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด อีกทั้งเมื่อได้มีการประกาศใช้กฎกระทรวงการรับน้ำหนักฯ พ.ศ. 2550 จนถึงการประกาศใช้กฎกระทรวงกำหนดการรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคาร และพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว พ.ศ. 2564
บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA: ดำเนินการตรวจสอบอาคารทุกโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ รวมที่แล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยทีมวิศวกรของบริษัทฯ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง วิศวกรรมโยธา และวิศวกรรมงานระบบประกอบอาคาร โดยสรุปผลการตรวจสอบดังนี้
เหล่านี้ล้วนสอดคล้องกับพันธกิจและนโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นเรื่องคุณภาพของโครงการทุกโครงการ เพื่อส่งมอบ “ASSET OF LIFE” ให้กับลูกค้าทุกท่าน
อีกทั้งบริษัทฯ วางแผนการซ่อมแซมความเสียหาย และได้เริ่มดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจและความพึงพอใจต่อลูกค้า โดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโครงการที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงสุดแก่ลูกค้า
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA: เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทจัดทีมวิศวกรลงพื้นที่ตรวจสอบโครงสร้างอาคารสูงทุกโครงการอย่างเร่งด่วน โดยการตรวจสอบได้เสร็จสิ้นภายในเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารทั้งที่ส่งมอบแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยเน้นตรวจสอบโครงสร้างหลัก อาทิ ฐานราก เสา คาน ผนังรับแรง ระบบไฟฟ้า และท่อประปา พร้อมวางแผนสำรวจโดยละเอียดอีกครั้งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มีนาคมนี้
ทีมงานยืนยันว่าอาคารทุกหลังยังอยู่ในสภาพมั่นคงปลอดภัย เหมาะสำหรับการพักอาศัยและใช้งานได้ตามปกติ ความเสียหายที่ตรวจพบไม่มีผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของอาคาร เป็นเพียงร่องรอยจากความสั่นสะเทือนที่เกิดกับงานสถาปัตยกรรมเท่านั้น และได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเปิดศูนย์บริการพิเศษเพื่อช่วยเหลือลูกบ้านที่มีข้อกังวล โดยยืนยันว่าความปลอดภัยของลูกบ้านเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญสูงสุด และทุกโครงการได้รับการออกแบบตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล ลูกบ้านสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุได้ที่เฟซบุ๊ก Sena Development PCL, ศูนย์บริการพิเศษ 006-079-6663 หรือ Line OA: SENA SenX
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S: ชี้แจงกรณีมีภาพและเนื้อหาเกี่ยวกับโครงการ THE ESSE Sukumvit 36 ว่าโครงการดังกล่าวเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน ม.ค.2561 สร้างเสร็จพร้อมอยู่เมื่อเดือน ต.ค.2563 และได้รับการยืนยันจากวิศวกรโครงการหลังจากการตรวจสอบโดยละเอียด ไม่พบปัญหาอาคารทรุดหรือเสียหายอย่างแน่นอน
ทั้งนี้หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น บริษัทติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของลูกบ้านในทุกโครงการ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม เพื่อสร้างความอุ่นใจและความมั่นใจให้แก่ลูกบ้านทุกท่าน โดยได้จัดตั้งทีมวิศวกรและฝ่ายบริหารโครงการเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอาคาร โครงสร้าง ระบบสาธารณูปโภค และองค์ประกอบต่างๆ ภายในโครงการอย่างละเอียด โดยทีมวิศวกรจะดำเนินการเฝ้าติดตามและตรวจสอบสภาพอาคารผ่านระบบรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงจัดเตรียมมาตรการแก้ไขหากตรวจพบจุดที่ต้องปรับปรุงหรือมีความเสี่ยง
พร้อมกับยืนยันว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น โดยมีมาตรการที่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ได้แก่
บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML: กรณ์ ณรงค์เดช ประธานคณะกรรมการบริหาร RML ย้ำว่าให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของลูกบ้านและผู้ใช้อาคารทุกคน เราดำเนินการอย่างรวดเร็ว รอบด้าน และเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกโครงการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงสุด พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและชุมชนโดยรอบในทุกสถานการณ์ RML จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ข้อมูลและดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อความอุ่นใจของทุกคนในครอบครัว RML
โดยหลังเหตุการณ์ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุก เร่งตรวจสอบความปลอดภัยของลูกบ้านและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงการทั้งหมดทันที พร้อมยืนยันว่าทุกโครงการยังคงมีความแข็งแรง และไม่ได้รับความเสียหายใดๆ อีกทั้งจากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญประจำโครงการ พบว่าโครงการทั้งหมดของ RML ทั้งคอนโดมิเนียมและอาคารสำนักงาน ยังคงมีความมั่นคงแข็งแรง เนื่องจากได้รับการออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงว่าด้วยมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานแรงสั่นสะเทือน พ.ศ. 2550 และมาตรฐานกรมโยธาธิการและผังเมือง ฉบับที่ 1301/1302
โดยเฉพาะโครงการ ‘OCC’ (One City Centre) อาคารสำนักงานเกรด A+ ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ได้รับการตรวจสอบโดยทีมวิศวกรแล้วเช่นกัน พบว่าโครงสร้างยังคงแข็งแรงและปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมขั้นสูงที่สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ โครงสร้างมีคุณสมบัติ “ยืดหยุ่น” และ “สามารถโยกตัวได้ในระดับควบคุม” ซึ่งช่วยลดความเสียหายและป้องกันการถล่มจากแรงแผ่นดินไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ RML ได้จัดตั้งทีมเฉพาะกิจขึ้นโดยเร่งด่วน ประกอบด้วยวิศวกรอาคาร วิศวกรโครงสร้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง และทีมบริหารจัดการอาคารที่ปฏิบัติงานอยู่ในแต่ละโครงการ เพื่อดูแล ตรวจสอบ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีมาตรการเร่งด่วน ดังนี้
ทั้งนี้ ลูกบ้านสามารถติดต่อทีมงานได้ที่สำนักงานนิติบุคคลของโครงการ เราพร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลือด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอน
บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW : ยืนยันความแข็งแรงปลอดภัยโครงสร้างอาคารในทุกโครงการ พร้อมแจ้ง “4 มาตรการเร่งด่วน” เพื่อดูแลความปลอดภัยของลูกบ้าน และแนวทางปฏิบัติสำหรับการแจ้งซ่อม รวมถึงสิทธิการรับประกัน เพื่อให้ทุกท่านได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็ว ดังนี้
1. จัดส่งทีมวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้าตรวจสอบโครงการที่มีผู้พักอาศัยและโครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่อย่างเร่งด่วน โดยโครงสร้างอาคารทุกโครงการของแอสเซทไวส์มีความแข็งแรง ปลอดภัย 100% ตามมาตรฐานวิศวกรรม และตามข้อบังคับอาคาร กฎกระทรวง ปี 2550 และมาตรฐานการออกแบบอาคารต้านทานการสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว กรมโยธาธิการและผังเมือง 1301/1302 ขณะนี้ลูกบ้านสามารถเข้าพักอาศัยได้ตามปกติอย่างมั่นใจ และกำลังดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์สถาปัตยกรรมอาคารเชิงลึกในทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง ให้แล้วเสร็จ 100% ภายในวันที่ 1 เมษายน 2568
2. หากพบร่องรอยความเสียหายภายในห้องพัก เช่น รอยร้าว ผนังหลุดร่อน สามารถแจ้งขอรับบริการตรวจสอบและซ่อมแซมได้ตามขั้นตอน โดยแจ้งปัญหาผ่านนิติบุคคลอาคารชุด หรือโครงการที่พักอาศัย และเจ้าหน้าที่จะประสานงานกับทีมช่างเพื่อนัดหมายวันเข้าตรวจสอบ โดยมีทีมวิศวกรและช่างจะเข้าตรวจสอบและประเมินแนวทางการซ่อมแซม พร้อมแจ้งผลการตรวจสอบ และเริ่มดำเนินการซ่อมแซมตามขอบเขตการรับประกัน
3. การใช้สิทธิการรับประกัน และเงื่อนไขการเคลมต่างๆ ลูกบ้านสามารถใช้สิทธิการรับประกันงานซ่อมแซมตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด โดยครอบคลุมถึงโครงสร้างอาคาร – เสา คาน พื้น และองค์ประกอบสำคัญที่รองรับน้ำหนักของอาคาร การป้องกันการรั่วซึม – ระบบหลังคา ผนัง และระเบียงของอาคาร ระบบท่อน้ำและไฟฟ้า – ป้องกันการรั่วซึมของท่อประปาและการลัดวงจรของระบบไฟฟ้า การใช้งานของประตูและหน้าต่าง – ระบบเปิด-ปิด กันฝน และรักษาความปลอดภัย
4. หากต้องการแจ้งปัญหา หรือต้องการสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้ Line นิติบุคคล, Application Jenie, Line: AssetWiseClub และ Contact Center 02-168-0000
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/business_marketing
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney