การต่อสู้ของทรูวิชั่นส์

Business & Marketing

Marketing & Trends

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

การต่อสู้ของทรูวิชั่นส์

Date Time: 15 ก.ค. 2568 04:04 น.

Summary

การกว้านซื้อลิขสิทธิ์เอกซ์คลูซีฟครั้งใหญ่ มาจากงบที่เหลือจากการประมูลพรีเมียร์ลีกที่ทรูวิชั่นส์ต้องจ่ายปีล่าสุดที่ 1,600 ล้านบาท ต้นทุนของจัสมินที่ 2,000 ล้านบาทในปีแรก ซึ่งถูกเปรียบเปรยว่าเป็นการซื้อไอโฟนในราคา 300,000 บาท

Latest

เดิมพันครั้งใหญ่ SCB บอกเล่าถึง"ความอยู่รอด"ของธนาคารเก่าแก่ 100 ปี ในวันที่ AI และDigital กลืนกิน

การเปิดฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (English Premier League-EPL)2025/2026 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 ส.ค.2568 นอกจากจะสร้างความคึกคักให้กับคอบอลแฟนานุแฟนของการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพที่กล่าวได้ว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดในโลกแล้ว

ในแง่มุมธุรกิจ การเปิดฤดูกาลใหม่ปีนี้ คือจุดเริ่มต้นของความจริง (Moment of Truth) ในศึกมะรุมมะตุ้ม “ล่าคอนเทนต์” ระหว่างบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกรายใหม่ 6 ฤดูกาลรวด (2025/26-2030/31) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ลาว กัมพูชา, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส พันธมิตรเอกซ์คลูซีฟของจัสมิน และบริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในนามทรูวิชั่นส์ ซึ่งก่อนหน้านี้ครองสิทธิส่วนใหญ่ในถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในไทยมาอย่างยาวนาน

ความจริงที่ว่า ประกอบด้วย ความคาดหวังของจัสมินต่อยอดผู้สมัครรับชมผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิง Monomax ธุรกิจเครือญาติของจัสมิน ซึ่ง “โสรัชย์ อัศวะประภา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS เคยบอกไว้ว่า รายได้หลักจะมาจากจำนวนผู้สมัครแพ็กเกจรับชมผ่าน Monomax ในราคาเดือนละ 299 บาท ในปีแรกหากมีผู้สมัครใหม่ 1 ล้านคน จะสามารถบรรลุจุดคุ้มทุนได้ เนื่องจากจัสมินมีต้นทุนค่าลิขสิทธิ์ในปีแรกที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท (ราคาปีต่อไปจะไต่ขึ้นตามเงื่อนไข)

ฝั่งของเอไอเอส ซึ่งควักกระเป๋า 1,000 ล้านบาท ซื้อสิทธิความเป็นพันธมิตรเอกซ์คลูซีฟ ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ ลีกบนเอไอเอสเพลย์ แพลตฟอร์มสตรีมมิงให้ลูกค้าทั้งมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้าน ได้รับชมในราคาเดือนละ 199 บาท สิ่งนี้คือความสำเร็จชวนอวดอ้าง เพราะพรีเมียร์ลีกตกอยู่ในมือทรูมาเนิ่นนาน ที่มากไปกว่านั้นคือความ “ฟิน” และแรงลุ้นว่าจะมีลูกค้าทรูหนีมาซบเอไอเอสมากน้อยเพียงใด เพราะแข่งขันตาต่อตาฟันต่อฟันกับทรูมาตั้งแต่จำความได้ ทั้งในธุรกิจมือถือ อินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์บ้าน รวมทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิง (เอไอเอสคือเอไอเอสเพลย์และทรูคือทรูไอดี)

มาที่ฝั่งของผู้ตั้งรับอย่างทรูกันบ้าง ปัจจุบันทรูวิชั่นส์ ธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมที่อยู่มายาวนาน มีลูกค้าแบบบอกรับสมาชิกอยู่ที่ 1.2 ล้านคน คนกลุ่มนี้ชำระค่าบริการรายเดือนสูงสุด 2,155 บาท (4 จอ) เพื่อรับชมความบันเทิงแบบพรีเมียมที่ไม่มีบนแพลตฟอร์มทั่วไป โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬาทั่วโลก จุดแข็งโป๊กของทรูวิชั่นส์

หลังสูญเสียพรีเมียร์ลีก ทรูวิชั่นส์เดินเครื่องปรับองคาพยพคอนเทนต์ครั้งใหญ่ ซื้อลิขสิทธิ์กีฬาซีเกมส์ 2025 และอาเซียนพาราเกมส์ 2025 มาประดับจอ รวมทั้งยังเพิ่งเซ็นสัญญากับ beIN Sports เริ่มต้น 1 ก.ค.2568 ส่งตรงถ่ายทอดสดฟุตบอลยุโรปและระดับนานาชาติ อาทิ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, เทนนิสเอทีพี ทัวร์, เทนนิส ออสเตรเลียน โอเพ่น, เทนนิส เฟรนช์ โอเพ่น, ยูไนเต็ด คัพ, กอล์ฟทีจีแอล รวมทั้งมอเตอร์สปอร์ต เช่น ฟอร์มูล่า 1, ปอร์เช่ ซูเปอร์คัพ, เฟอร์รารี่ ชาเลนจ์ เป็นต้น ทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเอกซ์คลูซีฟเฉพาะบนทรูวิชั่นส์เท่านั้น นอกเหนือ

จากฟุตบอลกัลโซ่ เซเรีย อา, ฟุตบอลโคปปา อิตาเลีย รวมทั้งความบันเทิงอื่น เช่น ซีรีส์จีน In the name of blossum : งามบุปผาสกุณา 2 และ ซีรีส์ไทย Dating Game เป็นต้น

การกว้านซื้อลิขสิทธิ์เอกซ์คลูซีฟครั้งใหญ่ มาจากงบที่เหลือจากการประมูลพรีเมียร์ลีกที่ทรูวิชั่นส์ต้องจ่ายปีล่าสุดที่ 1,600 ล้านบาท ต้นทุนของจัสมินที่ 2,000 ล้านบาทในปีแรก ซึ่งถูกเปรียบเปรยว่าเป็นการซื้อไอโฟนในราคา 300,000 บาท

โอกาสเดียวกัน ทรูวิชั่นส์ยังเริ่มขยับขยายฐานผู้ชมจากเทคโนโลยีเคเบิลและดาวเทียม ซึ่งเริ่มล้าสมัยสู่การเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ทรูวิชั่นส์ นาว (True visions NOW)แพลตฟอร์มสตรีมมิง OTT เพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

“มนัสส์ มานะวุฒิเวช” ประธานคณะผู้บริหาร ด้านธุรกิจข้อมูลและลูกค้าองค์กร ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า หากจัสมินและ Monomax สามารถทำให้ผู้ชมที่ดูการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในไทยแบบละเมิดลิขสิทธิ์ เปลี่ยนใจยอมจ่ายเงินได้ ถือว่าเรียนจบ เพราะนี่คือสิ่งที่ทรูวิชั่นส์ต่อสู้อย่างหนักมาตลอดหลายปี

ในทางตรงกันข้าม โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JAS ออกจะดูมั่นใจ เพราะผลการศึกษาที่ว่าจ้างหลายสถาบันระดับนานาชาติทำ บ่งชี้ว่าตลาดยังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะเมื่อจัสมินเปิดราคาแพ็กเกจออกมาค่อนข้างต่ำที่เดือนละ 299 บาทหวังกวาดต้อนผู้ชมที่เคยดูฟรีแบบเถื่อนเข้ามา เปรียบเทียบกับราคาเดิมของทรูวิชั่นส์ที่ตกประมาณ 400-500 บาทต่อเดือน แม้เป็นการรวมคอนเทนต์ที่หลากหลายไม่เฉพาะแต่พรีเมียร์ลีก

กระนั้น The Moment of Truth ที่เริ่มใกล้เข้ามา จะยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดเสียทีเดียว ตราบใดที่สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งรีบนับศพทหาร.

ศุภิกา ยิ้มละมัย

คลิกอ่านคอลัมน์ “The Issue” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ