อนาคตธุรกิจปั๊มน้ำมัน…ที่อาจไม่มี “น้ำมัน”เป็นพระเอกอีกต่อไป เมื่อ Net Zero มาแรง EV กำลังแย่งซีน

Business & Marketing

Marketing & Trends

Tag

อนาคตธุรกิจปั๊มน้ำมัน…ที่อาจไม่มี “น้ำมัน”เป็นพระเอกอีกต่อไป เมื่อ Net Zero มาแรง EV กำลังแย่งซีน

Date Time: 24 ก.ค. 2568 14:30 น.

Video

อธิบาย Palantir ทำธุรกิจอะไรกันแน่ ? บริษัทแปลกๆ ที่อยู่ดีๆก็ดัง | Digital Frontiers EP.45

Summary

เจาะอนาคตธุรกิจปั๊มน้ำมัน…ที่อาจไม่มี “น้ำมัน” เป็นพระเอกอีกต่อไป เมื่อ Net Zero มาแรง EV กำลังแย่งซีน แล้วธุรกิจเดิม จะอยู่ตรงไหนของเกมนี้?

Latest


ในวันที่เป้าหมาย “Net Zero” กลายเป็นวาระร่วมของโลก และ “EV” ไม่ใช่แค่กระแส แต่เริ่มกลายเป็นความจริงบนท้องถนน  มีข้อมูลวิเคราะห์ธุรกิจปั๊มน้ำมันในประเทศไทยกำลังเผชิญจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่

จากธุรกิจขายน้ำมันที่เคยรุ่งเรือง…สู่การตั้งคำถามว่า “น้ำมันจะยังเป็นพระเอกของเกมนี้ได้นานแค่ไหน?”

ธุรกิจที่รายได้ยังโต แต่กำไรกลับหด

วิจัย LH เผยว่า ปี 2567 ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทย มีมูลค่ารวมกว่า 1.04 ล้านล้านบาท โดยแม้รายได้เพิ่มเฉลี่ยปีละกว่า 11% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

แต่ในขณะเดียวกัน “กำไรสุทธิ” กลับลดลงต่อเนื่อง โดยปีล่าสุดกำไรรวม หายไปถึง 24.8% จาก 4,588 ล้านบาทเหลือเพียง 3,452 ล้านบาท เท่านั้น 

สาเหตุหลักคือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ราคาน้ำมันที่ลดลงตามตลาดโลก การควบคุมราคาขายปลีกของรัฐ รวมถึงต้นทุนดำเนินงานที่พุ่งขึ้นจากค่าแรงและการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านธุรกิจ


ผ่าโครงสร้าง ตลาดนี้ใหญ่โตแค่ไหน?

ประเทศไทยมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ราว 26,450 แห่ง (ข้อมูล Q1/2568) แบ่งเป็น

  • ปตท. (PTTOR) ครองส่วนแบ่งสถานีมากสุดที่ 2,583 แห่ง หรือ 28.6%
  • ตามด้วย PTG และ บางจาก ที่มีสถานีราว 2,000 แห่งขึ้นไป
  • Shell, Caltex, Susco และผู้ประกอบการอิสระรวมกันกว่า 17,000 แห่ง แม้กระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่หลายรายกำลังทยอยปิดกิจการจากแรงกดดันทางธุรกิจ

ข้อมูลตรงนี้เอง บ่งบอกได้ว่า จำนวนสถานีรวมลดลง แต่ผู้เล่นรายใหญ่ยังคงขยายสถานีต่อเนื่อง เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด และสร้างแพลตฟอร์มให้บริการแบบครบวงจร


EV มาแรง ธุรกิจขายน้ำมันยังไหวไหม? 

ต้นทางยังมีการวิเคราะห์ต่อว่า จากการที่ปัจจุบัน กระแสยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทั้งจากแรงหนุนของรัฐและราคาน้ำมันที่ยังผันผวน ผู้บริโภคเปลี่ยน นโยบายโลกก็เปลี่ยน กดดันให้ธุรกิจนี้ ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย 

ดั่งจะเห็นบรรยากาศการลงทุนใหม่ๆ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ที่ต่างหันมาลงทุนติดตั้ง EV Charging Station เพิ่มมากขึ้น เช่น PTTOR กับ “EV Station PluZ” หรือบางจากที่ผนวก EV เข้ากับโมเดลธุรกิจใหม่ในสถานี

ในขณะเดียวกัน รายได้จากธุรกิจน้ำมัน (Oil) ยังเป็นสัดส่วนหลัก:

  • PTTOR: รายได้จาก Oil 89.2% | Non-oil 10.8%
  • PTG: Oil 92.0% | Non-oil 8.0%
  • บางจาก: Oil 79.0% | Non-oil 21.0%

แม้พี่ใหญ่ของวงการ ยังจะพึ่งพิงรายได้จาก “น้ำมัน” เป็นหลัก แต่สัญญาณก็ชัดเจนว่า Non-oil กำลังกลายเป็นอนาคตของธุรกิจนี้

จากปั๊มเติมน้ำมัน สู่ Lifestyle Hub

ธุรกิจ Non-oil ไม่ใช่แค่รายได้เสริมอีกต่อไป แต่คือเส้นชีวิตใหม่ของธุรกิจ เราเริ่มเห็นปั๊มน้ำมันหลายแห่งแปลงโฉมเป็นพื้นที่ Co-working space, Café, ร้านสะดวกซื้อ, ศูนย์ซ่อมรถยนต์, พื้นที่พักผ่อน หรือแม้แต่ Community space ที่มีสวนสีเขียวและฟิตเนสขนาดย่อม

ทีมวิจัย LH ชี้ว่า โมเดลธุรกิจใหม่นี้ไม่ใช่แค่เรื่องภาพลักษณ์ แต่คือกลยุทธ์ “รักษาฐานลูกค้า – ดึงคนเข้าปั๊ม – สร้าง Loyalty” เพื่อชดเชยกำไรจากการขายน้ำมันที่นับวันจะน้อยลงเรื่อย ๆ 

มุ่งหน้าสู่การเป็นศูนย์รวมด้าน Mobility และ Lifestyle ครบวงจรมากยิ่งขึ้น  เพื่อช่วยให้สามารถแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้ .

ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

อุมาภรณ์ พิทักษ์

อุมาภรณ์ พิทักษ์
เศรษฐกิจ การเงิน ลงทุน และ อสังหาริมทรัพย์