กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดงาน IP Fair 2025 อย่างยิ่งใหญ่ โชว์ศักยภาพทรัพย์สินทางปัญญาไทย ปั้นผู้ประกอบการสู่ธุรกิจแห่งอนาคต
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งานมหกรรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ IP Fair 2025 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย พร้อมรับมือภาวะเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทายและผันผวน
โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้ผลิตสินค้าได้ตามเทรนด์ความต้องการของตลาด เพิ่มโอกาสทางการค้า และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และในโอกาสที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ได้ขอพระราชทานถวายรางวัลความเป็นเลิศด้านการสร้างสรรค์ หรือ WIPO Award for Creative Excellence แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เพื่อยกย่องพระปรีชาสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์อันเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ
โดยเฉพาะทางด้านแฟชั่นและการออกแบบ ที่ได้ทรงพระราชทานลายผ้าให้แก่ชุมชนช่างทอผ้าในแต่ละภูมิภาคนำไปผลิตตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผ้าท้องถิ่น ทั่วประเทศ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และเสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก ภายในงาน IP Fair จึงมีการจัดแสดงนิทรรศการพระกรณียกิจสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ให้ทุกท่านได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพอย่างใกล้ชิด
นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน IP Fair 2025 จะเป็นแรงบัลดาลใจให้ผู้ประกอบการ ตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงรายใหญ่ เกิดการต่อยอดความคิดไปสู่ธุรกิจ การจัดแสดงผลงานการคิดค้นสร้างสรรค์ของบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรม เช่น นวัตกรรมทางการแพทย์ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นวัตกรรมพลิกโฉมการดูแลสิ่งแวดล้อมของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
พร้อมด้วยผลงานนวัตกรรมของเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ในพาวิลเลี่ยนของศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Technology and Innovation Support Center: TISC) ) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกและกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งเสริมนักวิจัยและผู้ประกอบการให้มีการเชื่อมโยงนวัตกรรมสู่การจับคู่ทางธุรกิจ ในงานยังมีการจัดแสดงนิทรรศการของซอฟต์พาวเวอร์ไทย อาทิ หมูเด้ง ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผลงานศิลปะ Art Toy เป็นต้น ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและส่งต่อพลังสร้างสรรค์ให้แก่ผู้เข้าชมงาน
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญในงานนี้ คือ กิจกรรมส่งเสริมเรื่องราวแห่งความสำเร็จของสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) และพื้นที่ IP Local Market เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าคุณภาพจากหลากหลายพื้นที่ เพิ่มการรับรู้และการจดจำต่อสินค้า สร้างยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าจากการเจรจาธุรกิจและกระจายรายได้กว่า 150 ล้านบาท ภายในงาน จึงสะท้อนภาพรวมของระบบนิเวศทรัพย์สินทางปัญญาอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในด้าน การสร้างสรรค์ การคุ้มครอง และการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างของความสำเร็จเหล่านี้ จะเป็นแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนและเปิดมุมมองให้ผู้เข้าชมงานได้จุดประกายไอเดียของตนเอง นำไปต่อยอดทางธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งภายในประเทศและตลาดโลก ซึ่งจะสร้างความเติบโตให้เศรษฐกิจฐานรากอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ตามนโยบายพาณิชย์พึ่งได้ ประชาชนไว้วางใจ และนโยบายSMEs ต้องรอด สร้างสินค้าไทยให้มีศักยภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในเวทีการค้าโลก ซึ่งจะนำไปสู่ต้นแบบธุรกิจใหม่ๆ และก้าวสู่ธุรกิจแห่งอนาคตต่อไป
ชวนคนรุ่นใหม่ปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ : บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ จำกัด ร่วมกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโครงการ From Waste to WOW Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri การประกวดออกแบบประติมากรรมศิลปะ น้องกล้วยกรุงศรีจากวัสดุรีไซเคิล ภายใต้แนวคิด GO Sustainable with krungsri ไปกับน้องกล้วยกรุงศรี เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 15-25 ปี
พร้อมปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ที่สะท้อนจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านผลงานศิลปะที่สร้างจากวัสดุใช้แล้ว ชิงรางวัลมูลค่ารวมกว่า 250,000 บาท ซึ่งผลงานที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับโอกาสจัดแสดงในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) มหกรรมด้านความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และงาน Melody Of Life ครั้งที่ 16 เทศกาลดนตรีรักโลกที่ใหญ่ที่สุดกลางใจเมือง โดยสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง31 สิงหาคม 2568
ร่วมสนับสนุน : กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ผู้นำด้านการสร้างความกินดีมีสุขในภูมิภาคอาเซียนมากว่า 50 ปี ประกาศการเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ (Official Gold Sponsor) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ ต่อยอดความสำเร็จของโครงการ ASEAN Victory Project® ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องหลายประเทศในภูมิภาค ตอกย้ำความมุ่งมั่นของอายิโนะโมะโต๊ะในการสนับสนุนโภชนาการผ่านความเชี่ยวชาญด้าน AminoScience เสริมศักยภาพนักกีฬาควบคู่กับวัฒนธรรมอาหารท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี