ตลาดสี่มุมเมือง ผลักดันตลาดผักพื้นบ้าน ผักคัดบรรจุ ด้วยกลยุทธ์เศรษฐกิจวัฒนธรรม ภายใต้ โครงการวัตถุดิบท้องถิ่นกินดีวิถีไทยเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นางสาวปณาลี ภัทรประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ตลาดสี่มุมเมือง กล่าวว่า ตลาดสี่มุมเมือง จับมือหน่วยงานราชการและเอกชน โดยมี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม, สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ศูนย์วิจัยและพัฒนาพืชผักเขตร้อน ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และศูนย์ผักโลก
ร่วมกันผลักดัน ตลาดผักพื้นบ้าน/ผักคัดบรรจุ สี่มุมเมือง แหล่งจำหน่ายวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นทั้งส่ง–ปลีกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่กว่า 4,900 ตารางเมตร มีแผงค้ากว่า 250 แผง รองรับปริมาณวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นกว่า 70 ตันต่อวัน มูลค่าเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 4 ล้านบาทต่อวัน หรือกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เชื่อมโยงทุนวัฒนธรรมกับเศรษฐกิจไทย ภายใต้แนวคิด ผลักดันทุนวัฒนธรรมสู่ทุนเศรษฐกิจ และต่อยอดเป็น โครงการวัตถุดิบท้องถิ่นกินดีวิถีไทย” ที่มุ่งยกระดับคุณค่าผักพื้นบ้านสู่การสร้างเศรษฐกิจชุมชนและเวทีโลก
ทั้งนี้ ตลาดผักพื้นบ้าน/ผักคัดบรรจุ สี่มุมเมือง ในฐานะแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตอกย้ำความเป็นตลาดกลางที่เชื่อมโยงวัตถุดิบสดใหม่จากทุกภูมิภาค—เหนือ อีสาน ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ส่งตรงถึงผู้บริโภคเมืองตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมวัตถุดิบ ผักพื้นบ้าน วัตถุดิบอาหารป่า และพืชผักสมุนไพรที่หาซื้อไม่ได้จากตลาดทั่วไป
เฉพาะโซนตลาดวัตถุดิบอาหารท้องถิ่น มีวัตถุดิบจำหน่ายกว่า 100 รายการ อาทิ ไข่มดแดง แม่เป้ง ลูกอ๊อด อึ่งไข่ หอยนา ปลาน้ำโขง ฯลฯ รวมถึงวัตถุดิบภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่าง น้ำใบย่านาง ผักเสี้ยนดอง สะตอสด–ดอง ลูกเหรียงสด–ดอง อ้อดิบ เขียดตากแห้ง หัวกลอย กล้วยตานี ลิ้นฟ้า ฯลฯ
นอกเหนือจากการเป็นแหล่งรวมวัตถุดิบหายาก ตลาดฯ ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงเกษตรกร ผู้รวบรวม และผู้ขาย กับกลุ่มผู้ซื้อทั้ง HORECA (โรงแรม ร้านอาหาร ร้านข้าวแกง), ตลาดสด และผู้ค้าปลีก ตอบโจทย์ทั้ง B2B และ B2C โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องการวัตถุดิบเฉพาะถิ่นมีคุณภาพอีกด้วย
สำหรับสินค้าจาก ตลาดผักพื้นบ้าน/ผักคัดบรรจุ นี้ เป็นมากกว่าวัตถุดิบอาหารท้องถิ่น แต่คือ สินค้าวัฒนธรรม ที่ทั้งกินได้ และมีอัตลักษณ์ ตลาดสี่มุมเมืองมุ่งมั่นยกระดับทุนวัฒนธรรมนี้ให้กลายเป็นทุนเศรษฐกิจ ผ่านการสร้างระบบตลาดที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงเกษตรกร ผู้ค้า และผู้ซื้อ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับอาหารไทยในเวทีโลกโดยตลาดสี่มุมเมืองพร้อมทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางวัตถุดิบที่รวบรวมความหลากหลายจากทุกภูมิภาค ให้เชฟ ร้านอาหาร และผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในคุณภาพ
นายประภาส ภิญโญชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พืชผักพื้นบ้านไทยมีศักยภาพสูงในการก้าวสู่ตลาดโลก จุดแข็งอยู่ที่คุณค่าทางโภชนาการและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์เชิงภูมิศาสตร์ (GI) ที่ตลาดต่างประเทศให้ความสำคัญ
โดยการสร้างแบรนด์ภูมิภาคให้วัตถุดิบท้องถิ่นจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การยกระดับมาตรฐานการผลิต การรับรองคุณภาพ ไปจนถึงการตลาดเชิงรุก พร้อมทั้งเสริมเรื่องเล่าด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลก ในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราพร้อมใช้เครือข่ายสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตร 11 แห่งทั่วโลก เข้าร่วมงานแสดงสินค้า สร้างพันธมิตรการค้า และผลักดันความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนา
ทั้งนี้เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาหารไทยถือเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่สามารถผสานกับการตลาดเชิงสร้างสรรค์ได้อย่างทรงพลัง โดยเล่าเรื่องผ่านมิติสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และความเป็นธรรมในห่วงโซ่การผลิต ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริโภคต่างประเทศให้ความสำคัญ ในระยะยาว
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าและยืดอายุการตลาดของวัตถุดิบท้องถิ่น ควบคู่กับการส่งเสริมการบริโภคที่มีคุณประโยชน์และราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้วัตถุดิบท้องถิ่นไทยสร้างทั้งรายได้และเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มั่นคงแก่ชุมชน
เดลฟีน ลาร์รูส ผู้อำนวยการฝ่ายการมีส่วนร่วมระดับโลก และผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ (ESEA) ศูนย์ผักโลก เปิดเผยว่า ผักพื้นบ้านของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีคุณค่ามหาศาล ทั้งในเชิงโภชนาการ ความมั่นคงทางอาหาร และศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ จากงานวิจัยของศูนย์ฯ เราพบว่าผักพื้นเมืองจำนวนมากอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ
และสารไฟโตเคมิคอลที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการขาดสารอาหารที่เป็นปัญหาหลักในประเทศกำลังพัฒนา ผักอย่างมะรุม ผักโขม และมะระขี้นก ไม่เพียงมีคุณค่าทางสุขภาพสูงกว่าผักเชิงการค้าทั่วไป
แต่ยังเป็นวัตถุดิบที่เข้าถึงง่ายในท้องถิ่น ช่วยเสริมความมั่นคงทางอาหารให้กับครัวเรือนที่มีรายได้น้อย และยังสร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรรายย่อย โดยเฉพาะผู้หญิงในชนบท เรามองว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างยิ่งในการพัฒนาผักพื้นบ้านให้ตอบโจทย์ตลาดโลก
หากสามารถยกระดับด้วยงานวิจัย การสร้างแบรนด์ และการเล่าเรื่องราวเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอาหารไทยได้ จะยิ่งสอดรับกับเทรนด์สุขภาพและความยั่งยืนระดับสากล สิ่งสำคัญคือการสื่อสารให้เข้าใจง่ายและน่าเชื่อถือ ผ่านการเล่าเรื่อง ประสบการณ์การกิน และสูตรอาหาร ไม่ใช่เพียงแค่การบอกสารอาหารในเชิงวิชาการ เพื่อให้ผู้บริโภคทั่วโลกเห็นคุณค่าที่แท้จริงของผักพื้นบ้านไทยและเอเชียอีกด้วย
สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ค้าปลีก และผู้สนใจวัตถุดิบบ้านเกิดที่มีคุณภาพจากทั่วประเทศ ซึ่งเต็มไปด้วยคุณค่า เรื่องราว และเอกลักษณ์ สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือสั่งซื้อผ่าน ตลาดสี่มุมเมืองออนไลน์ ได้แล้ววันนี้ สดใหม่เหมือนมาเลือกด้วยตัวเองที่ www.simummuangonline.com
กล่องสุ่มผู้พัน : KFCประเทศไทยฉลองเดือนเกิดผู้พันปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ เปิดตัวกล่องสุ่มลิมิเต็ดสุดคิวท์ บบี้ แซนเดอร์ส คอลเลกชัน (KFC BABY SANDERS COLLECTION) เมื่อผู้พันแซนเดอร์สแปลงร่างมาเป็นฟิกเกอร์สุดน่ารักในหลากหลายลุคให้แฟนๆได้สะสมกันถึง 6 คาแรกเตอร์ ในราคาแลกซื้อสุดพิเศษเพียงกล่องสุ่มละ 79 บาท ตั้งแต่ 28 สิงหาคม - 24 กันยายน 2568 (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
พร้อมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษ ให้ทุกคนได้ร่วมฉลองวันเกิดผู้พันแซนเดอร์สอย่างยิ่งใหญ่ ขนขบวนฟิกเกอร์ไซซ์ยักษ์ สูงกว่า 2.7 เมตร ทั้ง 6 คาแรกเตอร์เดินสายโชว์ตัวทั่วกรุง ให้แฟนๆ ได้แชะรูปตลอดทั้งเดือนกันยายนนี้ เก็บโมเมนต์เริ่มที่แรก Discovery Plaza สยามเซ็นเตอร์ ตอกย้ำภาพลักษณ์ KFC ในฐานะแบรนด์ที่เข้าใจอินไซต์ผู้บริโภค และจับ Pop Culture มาตีความในสไตล์ที่สนุก เข้าถึงง่าย และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เข้าใจผู้บริโภค : บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP รุดหน้านำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มฟังชันนัลดริงก์ประกาศความสำเร็จก้าวสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคด้วยการปรับสูตรเครื่องดื่มทั้งหมดให้มีน้ำตาลน้อยกว่า 6% และเพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ พร้อมยืนยันความอร่อยที่ยังคงรสชาติถูกใจผู้บริโภคด้วยนวัตกรรม ตอกย้ำสถานะผู้นำที่มุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของไทย
เพื่อผู้ป่วย : รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย รับมอบวิกผมแท้ จำนวน 50 หัวภายใต้โครงการวิริยะรวมใจกัน ปันเส้นผม เพื่อผู้ป่วยมะเร็งจาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นางสาวพิศเพลิน วิริยะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร เป็นผู้แทนมอบ พร้อมด้วย ดร.อรณัฏฐ์ อชีรญาวัฒน์ประธานกรรมการมูลนิธิจากนางฟ้าถึงคุณวันใหม่เพื่อส่งต่อวิกผมแท้ธรรมชาติที่มีคุณภาพและความปลอดภัยแก่ผู้ป่วยมะเร็งยากไร้ทั่วประเทศ ซึ่งวิกผมเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งการรักษาสภาพจิตใจและช่วยเสริมสร้างความมั่นใจแก่ผู้ป่วย ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติอีกครั้งโดยพิธีมอบจัดขึ้น ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ