ธุรกิจชาไทยเก่าแก่กว่า 8 ทศวรรษ "ชาตรามือ" ขยับขยายตลาดหาลูกค้าใหม่อย่างจริงจัง ด้วยการเปิดแบรนด์ใหม่ CTM"\ ที่เน้นชาสเปเชียลตี้ราคาพรีเมียม เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่กล้าจ่าย 70-200 บาทต่อแก้ว
นางสาวพราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช ทายาทรุ่นที่ 3 ของธุรกิจชาตรามือ เปิดเผยว่า ได่เปิดตัวแบรนด์ใหม่ล่าสุด "CTM (Captivating Tea Muse)” เซ็นทรัลพาร์ค กรุงเทพฯ เพื่อขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมที่มีกำลังซื้อสูง
การเปิดแบรนด์ใหม่ครั้งนี้ สะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ของชาตรามือในการแบ่งส่วนตลาด โดย CTM จะเน้นเสิร์ฟชาสเปเชียลตี้หลากหลายชนิดในราคาเริ่มต้น 70 บาทขึ้นไปจนถึง 200 บาท ขณะที่แบรนด์หลักชาตรามือยังคงเน้นผู้บริโภคทั่วไปในช่วงราคา 40-45 บาท
ทั้งนี้ ตลาดชาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ชาร้อนหรือชานมธรรมดา แต่รวมไปถึงชาชนิดต่างๆ เช่น มัทฉะ ชาหอมระเริง และเครื่องดื่มผสมชาที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
"การแตกแบรนด์เกิดจากการที่ชาตรามือมีคาแรกเตอร์ชัดเจนเป็นชาไทยต้นตำรับ ที่มีภาพลักษณ์ดั้งเดิมและเข้าถึงง่าย แต่บริษัทมีชาหลากหลายชนิดที่ยังไม่เคยมีเวทีนำเสนอชัดเจน หากนำไปใส่ในร้านชาตรามือ อาจทำให้ภาพแบรนด์หลักสับสน"
จุดแข็งหลักที่ CTM เน้นย้ำคือการใช้เครื่องสกัดชาสดแก้วต่อแก้ว ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยรายแรกที่นำเทคนิคนี้มาใช้ โดยร้านเสิร์ฟเมนูชามากกว่า 40 รายการ โดยมีเมนูเด่นคือ "Captivating Series" 6 รายการ ประกอบด้วย ชานมอู่หลงนางงาม ชาจัสมินบลูม ชาต้งติ่งเกาลัด ชาขาวไอวอรี่นมปั่น ชาไทยซีทีเอ็มเครมบรูเล่ และชาส้มโอทับทิมสยาม
สำหรับมัทฉะที่ใช้นั้นเป็นเกรด Ceremonial นำเข้าจากญี่ปุ่น พร้อมเพิ่มลูกเล่นด้วยผลไม้สดและท็อปปิ้งที่จับคู่กับชาแต่ละประเภท โดยมองว่าการดื่มชาเป็นศิลปะ ที่สร้างแรงบันดาลใจ
นางสาวพราวนรินทร์ กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 80 ปีในอุตสาหกรรมชา พร้อมความเข้าใจห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่เกษตรกรจนถึงผู้บริโภคปลายทาง ชาตรามือใช้วัตถุดิบจากไร่ชาไทยเป็นหลัก มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง เปิดสาขาใหม่ปีละ 30 สาขาภายในประเทศ และ 10 สาขาในต่างประเทศ
ปัจจุบันชาตรามือมีสาขาในประเทศ 225 สาขา และขยายไปต่างประเทศ 130 สาขาใน 13 ประเทศ ด้วยรูปแบบการให้สิทธิ์ วิสัยทัศน์ระยะยาวของบริษัทคือการขยายสัดส่วนยอดขายต่างประเทศให้ถึง 90% จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 30% เนื่องจากเห็นว่าชาไทยได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
บริษัทตั้งใจทำให้ชาตรามือเป็น "Global Brand" โดยใช้กลยุทธ์ R&D และการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อเจาะตลาด Mass ในประเทศที่ยังเข้าไม่ถึง ยังคงโฟกัส "ชาที่ดี ดื่มได้ทุกคน" โดยไม่เน้นทำตลาดพรีเมียมสุดโต่ง
นอกจากการเปิดแบรนด์ CTM แล้ว ชาตรามือยังเตรียมเปิดตัวคอมบูฉะ (Kombucha) ภายใต้แบรนด์หลักในราคาเริ่มต้นประมาณ 35 บาท วางจำหน่ายทั้งในร้าน โมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และมีโอกาสเข้าร้านสะดวกซื้อ จุดประสงค์ของผลิตภัณฑ์ Ready to Drink คือการเพิ่มช่องทางใหม่ให้กับผู้บริโภค เข้าถึงกลุ่มที่ไม่สะดวกชง หรือผู้ที่อยู่ต่างประเทศ