รัฐผ่อนเกณฑ์ขายเหล้า–เบียร์ วันพระใหญ่ ให้ขายได้ในสนามบินระหว่างประเทศ–โรงแรม ผับ เธค บาร์ ร้านเหล้า สถานที่จัดกิจกรรมระดับชาติ มั่นใจ ออกได้ทันก่อนวันพระใหญ่ 11 พ.ค.นี้ แต่เวลาขายยังคงเดิม ด้านสมาคมภัตตาคารเห็นด้วยหนุนเศรษฐกิจโต แต่ต้องคุมเข้ม อ้อนอยากให้ปลดล็อกเวลาขายมากกว่า
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยปี 2568 Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยยังคงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ 5 วัน คือ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
แต่ยกเว้นการขายได้ในกรณีดังต่อไป 1.ภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ 2.การขายในสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ 3. การขายในสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หรือบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งนี้ ตามที่ รมว.สาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.มหาดไทย ซึ่งจะต้องมีมาตรการคัดกรอง และรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และการจำกัดการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่เหมาะสมแก่เด็กและเยาวชน
4.การขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และ 5.การขายในสถานที่ซึ่งใช้จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติ และคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกัน ตามรายชื่อสถานที่ที่ รมว.สาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังมีการพิจารณาตั้งคณะกรรมการประกอบการพิจารณาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยจะให้ไปศึกษาผลกระทบหลังจากนี้ เพื่อดูความเหมาะสม และความถูกต้องของมาตรการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงเดิม เนื่องจากหากเปลี่ยนแปลงในขณะนี้จะขัดกับประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 เรื่องการกำหนดเวลาในการจำหน่ายสุราและการดื่มสุราในสถานที่ขายสุราได้เฉพาะตามเวลาที่กำหนด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมาย โดยหลังจากนี้ คณะกรรมการจะนำมติไปสอบถามความเห็นของประชาชนผ่านเว็บไซต์ โดยใช้เวลา 15 วัน ก่อนสรุปส่งให้ รมว.สาธารณสุข เพื่อส่งต่อมายังนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยช่วงเวลาที่เปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังคงแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เวลา 10.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. โดย “เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะออกมาได้ทันก่อนวันที่ 11 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา”
ทั้งนี้ ตามประกาศเดิมวันพระใหญ่ ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกพื้นที่ ยกเว้นการขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศเท่านั้น
ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมสนับสนุนการผ่อนปรนเกณฑ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในพื้นที่โซนท่องเที่ยวและโรงแรม ซึ่งจะช่วยยกเลิกข้อจำกัดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงสถานบริการที่ถูกกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากภาครัฐ ทั้งนี้ การขอใบอนุญาตดังกล่าวเป็นกระบวนการที่เข้มงวด ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างเสรี
“ร้านอาหารที่มีดนตรีสด ผับ บาร์ และคาราโอเกะที่ได้รับใบอนุญาตจะได้รับการผ่อนปรน ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งเจ้าของกิจการ พนักงาน รวมถึงผู้ให้บริการขนส่ง เช่น รถตุ๊กๆและแท็กซี่ ตลอดจนร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียง อย่างไร ก็ตาม ภาครัฐต้องมีมาตรการควบคุมอย่างรัดกุม หากมีการเปิดให้บริการอย่างไร้การกำกับดูแล อาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น อุบัติเหตุ บนท้องถนนที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์”
นางฐนิวรรณกล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไร ก็ตาม สิ่งที่ทางสมาคมเรียกร้องมาโดยตลอด คือการปรับระยะเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งยังไม่ได้รับการพิจารณา นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมาทางสมาคมเสนอให้ปลดล็อกเริ่มจากเมืองท่องเที่ยวก่อน และทำเป็นโซนนิ่งในบางพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งสถานบันเทิง เช่น ภูเก็ต สมุย ป่าตอง
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่