ไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ของไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,945.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.83% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 กำไรสุทธิที่ 534.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227.72% อันมีผลมาจากการบริหารต้นทุนและรายได้ที่ดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มบริการไปรษณีย์ในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น 20.17% กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์มีรายได้เพิ่มขึ้น 13.15% ขณะที่ปริมาณชิ้นงานไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เพิ่มขึ้น 7.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยบริการที่โดดเด่นยังคงเป็นบริการส่งด่วนอีเอ็มเอส (EMS) ที่เพิ่มขึ้น 5.94%
นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าออนไลน์ ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ของไปรษณีย์ไทยมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,945.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.83% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 กำไรสุทธิที่ 534.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227.72% อันมีผลมาจากการบริหารต้นทุนและรายได้ที่ดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มบริการไปรษณีย์ในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น 20.17% กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์มีรายได้เพิ่มขึ้น 13.15% ขณะที่ปริมาณชิ้นงานไตรมาสที่ 1 ปี 2568 เพิ่มขึ้น 7.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยบริการที่โดดเด่นยังคงเป็นบริการส่งด่วนอีเอ็มเอส (EMS) ที่เพิ่มขึ้น 5.94%
“แม้ไตรมาสแรกจะดูสดใส แต่ 1 ในความเสี่ยงด้านนโยบายระหว่างประเทศที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือ นโยบายภาษีศุลกากรต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff Policy) ซึ่งอาจส่งผลต่อการขนส่งระหว่างประเทศทั่วโลก ซึ่งไปรษณีย์ไทยต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานนโยบายดังกล่าว และข้อยกเว้นภาษีนำเข้ากับสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์สหรัฐฯ (De Minimis Exemption) กับการไปรษณีย์สหรัฐอเมริกาด้วย”
อย่างไรก็ตามได้วางกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต รองรับความเสี่ยงกลุ่มธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศ และสร้างระบบนิเวศในเอสเอ็มอีไทยที่อาจได้รับผลกระทบด้านการส่งออก เช่น การเสริมสร้างความร่วมมือกับสหภาพสากลไปรษณีย์ การไปรษณีย์สมาชิกอาเซียน ASEANPOST เพื่อปรับปรุงคุณภาพบริการไปรษณีย์ระหว่างประเทศให้ดีขึ้น ครอบคลุมการขนส่งทางอากาศ ทางราง และทางเรือ โดยปัจจุบัน บริการระหว่างประเทศของไปรษณีย์ไทย ครอบคลุม 205 ปลายทาง 193 ประเทศ เข้าถึงพื้นที่เฉพาะที่ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ อาจยังไม่สามารถเข้าถึงได้ เช่น เกาะ ภูเขา และปลายทางห่างไกล เช่น อียิปต์ เอสโตเนีย อาร์เจนตินา และประเทศที่เป็นเกาะเล็ก ๆ เช่น หมู่เกาะมาร์แชลล์ กวม หมู่เกาะมารีนา เป็นต้น
“ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปี เรายังจะเน้นจุดแข็งหลัก เช่น บริการส่งด่วนอีเอ็มเอส, บริการขนส่งที่หลากหลาย ทั้งสิ่งของขนาดใหญ่ สินค้าควบคุมอุณหภูมิ ยาและเวชภัณฑ์ นมแม่ สินค้าทางการเกษตร ปลาสวยงาม สินค้าอัตลักษณ์ไทย, บริการทางการเงิน นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์ม Thailandpostmart คัดสรรสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งเป็นสินค้าดีจากทั่วประเทศมาจำหน่าย”