เสียงสะท้อนเศรษฐกิจไทยใน “วันแม่”

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เสียงสะท้อนเศรษฐกิจไทยใน “วันแม่”

Date Time: 12 ส.ค. 2568 04:03 น.

Summary

เมื่อพูดถึงวันแม่ “มิสเตอร์พี” จึงอยากจะชวนมาคุยกันถึง “เสียงสะท้อนจากวันแม่” ในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะในแง่มุมเศรษฐกิจของคนไทยในขณะนี้ แต่ขอเริ่มต้นจากมุมมองน่ารักๆกันก่อน เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา “ไทยรัฐโพล” ของเราได้ทำการสำรวจหัวข้อ “คุณบอกรักคุณแม่กันบ่อยแค่ไหน?” มีผู้ตอบแบบสอบถาม 3,856 คน ซึ่งผลสำรวจชี้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการบอกรักแม่เป็นอย่างมาก

Latest

ตำนาน 70 ปี "นันยาง"รองเท้าคู่ใจ ส่งรุ่นลิมิเต็ด“พิทักษ์ 68”เคียงข้างทหารไทย 

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 ขอถวายพระพร แด่ “แม่แห่งแผ่นดิน” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ และขอสุขสันต์วันแม่แด่แม่ทุกคนในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากให้กำลังใจเป็นพิเศษ สำหรับคุณแม่ของเหล่าทหารกล้าที่ประจำการชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ทุกท่าน

เมื่อพูดถึงวันแม่ “มิสเตอร์พี” จึงอยากจะชวนมาคุยกันถึง “เสียงสะท้อนจากวันแม่” ในแง่มุมต่างๆ โดยเฉพาะในแง่มุมเศรษฐกิจของคนไทยในขณะนี้ แต่ขอเริ่มต้นจากมุมมองน่ารักๆกันก่อน

เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา “ไทยรัฐโพล” ของเราได้ทำการสำรวจหัวข้อ “คุณบอกรักคุณแม่กันบ่อยแค่ไหน?” มีผู้ตอบแบบสอบถาม 3,856 คน ซึ่งผลสำรวจชี้ว่า คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการบอกรักแม่เป็นอย่างมาก โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 58.86% ที่มองว่า “สำคัญมาก” และอีก 28.59% มองว่า “สำคัญ” แต่เมื่อถามถึงความถี่ในการบอกรัก “คุณบอกรักแม่ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่” พบว่า ผู้ตอบถึง 22.28% ยอมรับว่า “ไม่เคยบอกรักแม่เลย” ขณะที่กลุ่มส่วนใหญ่ 40.31% เลือกที่จะบอกรักใน “วันพิเศษ” เช่น วันแม่ หรือวันเกิดเท่านั้น มีเพียง 19.00% ที่บอกรักแม่ทุกวัน แสดงให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังคงเขินอายที่จะบอกรักแม่

ทั้งนี้ การบอกรักตรงๆอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย คนไทยส่วนใหญ่จึงมักจะใช้การกระทำแทน โดยวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การกอดแม่ 28.33% รองลงมาคือ การพาแม่ไปเที่ยวหรือรับประทานอาหาร 24.60%

สอดคล้อง ผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงวันแม่ ประจำปี 2568 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งระบุว่า แม้ลูกๆจะกังวลเกี่ยวกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่ก็น่าชื่นใจที่ลูกๆส่วนใหญ่ยังคงให้ความสำคัญ และตั้งใจที่จะซื้อของขวัญให้แม่ พาแม่ไปทำบุญ หรือพาแม่ออกไปเที่ยว บางคนพาไปเที่ยวต่างประเทศ บางคนไปต่างจังหวัด หรือแค่ออกไปเที่ยวห้าง ทานข้าวกันก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพเศรษฐกิจ เสียงสะท้อนที่ผ่านมาในโพลวันแม่วันนี้ผู้ตอบ 84.4% มองเศรษฐกิจไทยว่า แย่ลง และ 74.6% ตัวเองมีสถานะการเงินส่วนตัวไม่ดีขึ้น ทำให้เมื่อถามถึงงบประมาณที่ใช้ช่วงวันแม่ 58.7% ตอบไม่เปลี่ยนแปลง อีก 23.1% ตอบเพิ่มขึ้น และ 8.2% บอกลดลง เนื่องจากต้องการประหยัด เก็บเงินไว้ใช้ ค่าครองชีพสูงขึ้น เศรษฐกิจยังไม่ดี รายได้ลดเป็นหนี้มากขึ้น ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น และยังไม่พร้อมใช้เงิน นอกจากนี้ เมื่อถามเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน พบว่า 57.9% บอกเหมือนเดิม อีก 22.7% บอกแย่ลง โดย 59.9% บอกมีเงินเพียงพอแต่ไม่เหลือเก็บ และอีก 25.4% ไม่เพียงพอและต้องกู้ยืมเป็นประจำหรือเป็นครั้งคราว ขณะที่มีเพียง 14.7% มีเพียงพอและมีเหลือเก็บ และมองตรงกันว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจอาจจะยังไม่ดีขึ้น

ในวันแม่วันนี้ “มิสเตอร์พี” จึงอยากขอเป็นกำลังใจแก่คนไทยทุกคน ขอให้ความสุขที่ได้รับในวันแม่ และการระลึกถึงความสุขในการอยู่กับแม่ของคนที่แม่อาจจะไม่ได้อยู่ด้วยแล้วเป็นพลังให้เราสามารถผ่านพ้นกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมทั้งการเมืองที่ไม่แน่นอนในเวลานี้ไปได้ด้วยกัน.

มิสเตอร์พี

คลิกอ่านคอลัมน์ “กระจก 8 หน้า” เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ