ส่อง 40 บริษัทอสังหาฯไทย รายได้-กําไร ครึ่งปีแรกร่วง! สต็อกบ้าน-คอนโดฯ ค้าง 7 แสนล้าน

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ส่อง 40 บริษัทอสังหาฯไทย รายได้-กําไร ครึ่งปีแรกร่วง! สต็อกบ้าน-คอนโดฯ ค้าง 7 แสนล้าน

Date Time: 18 ส.ค. 2568 16:05 น.

Video

ทำไมกองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลาย ? | Thairath Money Night Stand EP.8

Summary

ส่องผลประกอบการ 40 บริษัทอสังหาฯไทย ครึ่งปีแรก 2568 พบ รายได้-กําไร ร่วงแรง! ยอดขายลด ดันสต็อกบ้าน-คอนโดฯ ค้าง 7 แสนล้าน สะท้อนคนไทย กังวลเศรษฐกิจ ไม่กล้า “ก่อหนี้” ชิ้นใหญ่

Latest


รายได้และกําไร ครึ่งปีแรก 2568 ของ 40 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ลดลง 15.21% และ 37.17% ตามลําดับ

นี่ไม่ใช่แค่ตัวเลขในงบการเงินของผู้ประกอบการ แต่คือ “กระจกสะท้อน” บรรยากาศเศรษฐกิจไทยที่เต็มไปด้วยความกังวล คนไทยจำนวนมากไม่กล้าก่อหนี้ใหม่ แม้จะเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของชีวิต อย่างบ้านหรือคอนโดมิเนียมก็ตาม

ภาวะดังกล่าวสะท้อนชัดว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกำลังหดตัว เมื่อรายได้โตช้า หนี้ครัวเรือนสูง และดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับแพง ทำให้ความฝันการมีบ้านถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญของเศรษฐกิจไทยกำลังชะลอตัวอย่างน่ากังวล

จนอาจกล่าวได้ว่า ...วันนี้ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการที่ชะงัก แต่คือเศรษฐกิจทั้งระบบที่กำลังสะท้อน “ความกลัวหนี้” ของคนไทย 

ข้อมูลของ LWS Wisdom บริษัทวิจัยในเครือ แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ณ 6 เดือนแรก ของปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) งบการเงินรวมของ 40 บริษัทอสังหาฯ 

  • มีรายได้ อยู่ที่ 131,217.08 ล้านบาท ลดลง 15.21%
  • มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 8,369.92 ล้านบาท ลดลง 37.17% (ขาดทุน 18 บริษัท)

TOP 10 บริษัทอสังหาฯทำรายได้สูงสุด 

อันดับ 1 : เอพี ไทยแลนด์  (17,786.61 ล้านบาท) ลดลง 0.33%

อันดับ 2 : แสนสิริ  (15,677.66 ล้านบาท) ลดลง 19.44% 

อันดับ 3 : แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (12,107.57 ล้านบาท) ลดลง 17.77%

อันดับ 4 : ศุภาลัย  (10,667.34 ล้านบาท) ลดลง 16.70%

อันดับ 5 : เฟรเซอร์สฯ ( 10,336.18 ล้านบาท) ลดลง 0.77%

อันดับ 6 : เอสซี แอสเสท (7,891.04 ล้านบาท) ลดลง 8.77%

อันดับ 7 : สิงห์ เอสเตท ( 6,947.38 ล้านบาท) ลดลง 12.18%

อันดับ 8 : พฤกษา  (6,944.37 ล้านบาท) ลดลง 29.59%

อันดับ 9 : ออริจิ้น (4,998.72 ล้านบาท ) ลดลง 24.83%

อันดับ 10 : พราว เรียล เอสเตท (3,773.78 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 111.52% 

TOP 10 บริษัทอสังหาฯ ทำกำไรสูงสุด

อันดับ 1 : แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (2,212.48 ล้านบาท)

อันดับ 2 : แสนสิริ  (2,028.11 ล้านบาท) 

อันดับ 3 : เอพี ไทยแลนด์  (1,870.04 ล้านบาท) 

อันดับ 4 : ศุภาลัย  (1,509.27 ล้านบาท)

อันดับ 5 : เฟรเซอร์สฯ (1,192.82 ล้านบาท)

อันดับ 6 : ควอลิตี้เฮ้าส์ (736.36 ล้านบาท)

อันดับ 7 : เอสซี แอสเสท (531.08 ล้านบาท)

อันดับ 8 : ออริจิ้น (430.97 ล้านบาท)

อันดับ 9 : แอสเซท ไวส์  (399.89 ล้านบาท )

อันดับ 10 : จี แลนด์ (230.97 ล้านบาท)

ขณะที่ ภาวะโครงการบ้านและคอนโดฯ ขายออกยาก ส่งผลให้ สินค้าคงเหลือ บวกกับสินค้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาของบริษัทอสังหาฯ มีมูลค่ารวมกันสูงอยู่ที่ 725,404.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.89%

ด้าน “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ชี้ว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ จะเริ่มว่ามีความชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3-4 และเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัว และ ฟื้นตัวในระยะต่อไป ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ การดำเนินงานประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นจากวิกฤติ เพื่อรอวันกลับมาฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง 

ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาฯ ถือเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 8–10% ของ GDP และเชื่อมโยงกับแรงงานก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง และภาคการเงินโดยตรง การที่รายได้-กำไรของผู้ประกอบการชะลอลง พร้อมกับสต็อกคงค้างที่สูงขึ้น จึงเป็นภาพสะท้อนของภาวะ “ความไม่มั่นใจ” ของผู้บริโภคที่ไม่กล้าก่อหนี้ในช่วงนี้

แม้จะยังไม่ใช่สัญญาณวิกฤติ แต่สถานการณ์ดังกล่าวเป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะหากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกำลังซื้อไม่ฟื้น การชะลอตัวในภาคอสังหาฯ อาจกดดันต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากขึ้นในระยะต่อไป


ที่มา : LWS 

อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney





Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ