บินไทยโวผู้โดยสารเพิ่ม 50% ปักหมุดเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางท่องโลก

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่การบินไทยกลับมาซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขณะที่อุตสาหกรรมการบินกลับมาคึกคัก ปริมาณผู้โดยสารเดินทางพุ่งสูงขึ้นเกือบทุกเส้นทางบิน โดยมีอัตราปริมาณการบรรทุกผู้โดยสารกว่า 77-80% ดังนั้นเพื่อให้การบินไทยพร้อมแข่งขันในตลาดการบินอย่างเต็มที่ จึงได้เร่งปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการในทุกมิติ พร้อมวางกลยุทธ์ระยะสั้น กลาง และยาว โดยมีเป้าหมายเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดที่เคยสูญเสียไป และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้การบินไทย ได้วางกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตทั้งด้านรายได้และปริมาณผู้โดยสาร มุ่งเน้นการเป็น "Network Airline" หรือสายการบินที่เน้นการเชื่อมต่อการเดินทาง โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (ฮับ) ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ ลดการพึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป และช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรายได้ในทุกฤดูกาล ไม่เพียงการเติบโตในช่วงฤดูกาลการท่องเที่ยว (ไฮซีซัน) เท่านั้น เช่น การขนส่งผู้โดยสารจากสหภาพยุโรป (อียู) มาประเทศไทย แล้วเดินทางต่อไปยังเอเชียแปซิฟิก

อย่างไรก็ดี กลยุทธ์ด้าน Network Airline การบินไทยได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ในช่วงฟื้นฟูกิจการที่ผ่านมา ซึ่งกลยุทธ์นี้ ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ที่ผ่านมา การบินไทยมีผลประกอบการดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ และพบว่าสัดส่วนผู้โดยสาร Network เพิ่มสูงขึ้นถึง 40-50% เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รายได้และปริมาณผู้โดยสารของการบินไทยเติบโตอย่างเห็นเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันการบินไทยยังสามารถบริหารจัดการชั่วโมงการใช้เครื่องบินได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของการบินไทยด้วย

“ปัจจุบันการบินไทยจะไม่ได้เน้นรับผู้โดยสารที่เป็นคนไทยและนักท่องเที่ยวไทยเท่านั้น หากใครขึ้นเครื่องบินจะพบว่าผู้โดยสารในแต่ละเส้นทางบินจะเป็นผู้โดยสารที่เป็นต่างชาติส่วนใหญ่ซึ่งสัดส่วนของผู้โดยสารจะเป็นต่างชาติ 80% เป็นคนไทยเพียง 20% เท่านั้น”

นอกจากนี้ ในอนาคตการบินไทยจะมุ่งเน้นพัฒนาบริการที่ชั้นธุรกิจ (Business Class) และเพิ่มบริการในชั้นประหยัดพรีเมียม (Premium Economy) เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร โดยจะไม่เน้นชั้นเฟิสต์คลาส (First Class) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำกำไรได้น้อย สามารถให้บริการผู้โดยสารได้จำนวนไม่มาก ขณะเดียวกันการบินไทยจะยังคงมุ่งเน้นตอกย้ำการบริการความเป็นไทย โดยเฉพาะอาหารที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ "Street to Sky" นำอาหารจากร้านดังในประเทศไทยขึ้นเสิร์ฟหรือให้บริการบนเครื่องบิน ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี

 นายชาย กล่าวด้วยว่า แม้การบินไทยจะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่การบินไทยยังคงเผชิญความท้าทายในการรักษาและปกป้องสิ่งที่ทำมาได้จากการฟื้นฟู โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้วัฒนธรรมที่ไม่พึงประสงค์ในอดีตกลับมาอีกครั้ง ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่ดี อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารมั่นใจว่าการบินไทยในวันนี้แข็งแกร่งกว่าในอดีตมาก และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยปัจจุบันการบินไทยมีเครื่องบินให้บริการ 75 ลำ และมีแผนจัดซื้อเครื่องบินเข้าประจำฝูงบินให้ครบ 150 ลำในอีก 10 ปีข้างหน้า

ส่วนเป้าหมายหลังกลับเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้พบว่าราคาหุ้นของการบินไทยปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อย ทั้งนี้ การบินไทยมีเป้าหมายผลักดันหุ้น THAI เป็นหุ้น VI (Value Investor) ไม่ใช่หุ้นที่หวือหวา แต่เน้นเป็นหุ้นคุณค่า และมีความมั่นคงระยะยาว ซึ่งหุ้นการบินไทย ปิดตลาด ณ วันที่ 22 ส.ค. 68 อยู่ที่ 12.90 บาท บวก 0.90 บาท