"ฉันทวิชญ์" ยันอุบัติเหตุการเมือง ไม่ทำเจรจาการค้าอัตราภาษีกับสหรัฐฯ สะดุด รับต้องรอครม.ใหม่เคาะรายละเอียด-ตัดสินใจเชิงนโยบาย กรมประมง แจ้งข่าวดี! สหรัฐฯ ไฟเขียวไทยส่งออกสัตว์น้ำได้ทุกรายการ
นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการสานต่อเจรจาการค้าและภาษีสหรัฐอเมริกา หลังเกิดการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ว่า การเจรจากับสหรัฐ เชิงเทคนิคยังสามารถเจรจาต่อได้ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นเจ้าภาพในการเจรจาร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่สามารถดำเนินการต่อได้ แต่ต้องรอนโยบายจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ แต่คาดว่าระหว่างนี้เชิงเทคนิคจะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อถามว่า สถานการณ์ทางการเมืองไม่มีผลต่อการเจรจาใช่หรือไม่ นายฉันทวิชญ์ ยอมรับว่า ใช่ ในช่วงหนึ่งเดือนนี้การเจรจาในเชิงเทคนิคของหน่วยงานภาครัฐไทยและสหรัฐ สามารถดำเนินการต่อได้ไม่สะดุด
ส่วนหากมีรัฐบาลใหม่มา จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมและมีผลต่อการเจรจาหรือไม่ รมช.พาณิชย์ ยอมรับว่า อาจจะมีบางที่ต้องใช้การตัดสินเชิงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ และรัฐสภาต้องพิจารณา แต่ขอยืนยันว่าการเจรจาระหว่างไทยสหรัฐ ในเชิงเทคนิคสามารถดำเนินการต่อได้แน่นอน
เมื่อถามว่า เรื่องภาษีศุลกากรรายการสินค้าที่ประเทศไทยจะยกเว้นให้สหรัฐกว่าหมื่นรายการ เรื่องนี้จะต้องรอ ครม.ชุดใหม่ใช่หรือไม่ รมช.พาณิชย์ยอมรับว่า ใช่ ซึ่งที่ผ่านมามีการเจรจาในเชิงเทคนิคมาแล้ว และขั้นตอนต่อไปก็ต้องผ่าน ครม.ชุดใหม่ หรือชุดปัจจุบัน และเข้าสู่สภาฯ เพื่อที่จะพิจารณาในรายละเอียดต่อไป พร้อมยืนยันว่าในเรื่องอัตราภาษดังกล่าว ยังไม่มีผลกระทบในปัจจุบัน
ขณะที่นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐฐาลสหรัฐฯ โดยองค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NOAA) ได้ประกาศผลการพิจารณาความเทียบเคียงตามกฎหมายว่าด้วยการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเพื่อคุ้มครองสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ( MMPA) อย่างเป็นทางการใน Federal Register และเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ สำหรับรายการสินค้าประมงทั้งหมด 2,500 รายการ จากประเทศคู่ค้า 135 ประเทศทั่วโลก โดยผลการพิจารณาปรากฏว่าประเทศไทยเป็น 1 ใน 89 ประเทศที่ผ่านการประเมิน และรายการสัตว์น้ำที่ได้จากเครื่องมือประมงของประเทศไทยผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด อีกทั้ง การประมงของประเทศไทยที่อยู่ในบัญชีรายชื่อการประมงต่างประเทศ (List of Foreign Fisheries: LOFF) ผ่านเกณฑ์การเทียบเคียงมาตรการทางกฎหมายของไทยกับ MMPA ของทางสหรัฐอเมริกาเรียบร้อยแล้ว สามารถส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาได้ทุกรายการ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมประมงและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในฐานะคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้มีการจัดส่งข้อมูลการดำเนินการของไทยภายใต้กฎหมาย MMPA ให้กับสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 เพื่อประเมินความเท่าเทียมทางกฎหมาย (Comparability Findings) และยืนยันว่าสินค้าสัตว์น้ำของไทยไม่ได้มาจากการจับที่กระทบต่อการบาดเจ็บ ตาย และการดำรงอยู่ของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม ควบคู่ไปกับการดำเนินการด้านต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์สัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมจากการทำประมง
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินโครงการการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องมือประมงและวิธีการทำการประมงเพื่อป้องกันการติดโดยบังเอิญของสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น การทดลองติดเครื่องส่งสัญญาณ (Pinger) ในอวนติดตาและอวนจมปูในพื้นที่อ่าวไทยตอนบนและอ่าวไทยฝั่งตะวันออกที่มีการรายงานการแพร่กระจายของโลมาอิรวดี ซึ่งจากผลการทดลองพบว่าได้ผลดี ไม่มีการพบเห็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมมาติดอวน
“การดำเนินการทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยที่จะดำเนินแนวทางการทำประมงอย่างรับผิดชอบ ไม่ทำลายสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม และไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลการประเมิน MMPA ของสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ เป็นสิ่งยืนยันและสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มงวดของมาตรการป้องกันการติดสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมในการทำประมงของประเทศไทยอย่างชัดเจน”