ตำนาน 70 ปี "นันยาง"รองเท้าคู่ใจ ส่งรุ่นลิมิเต็ด“พิทักษ์ 68”เคียงข้างทหารไทย 

Economics

Thai Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ตำนาน 70 ปี "นันยาง"รองเท้าคู่ใจ ส่งรุ่นลิมิเต็ด“พิทักษ์ 68”เคียงข้างทหารไทย 

Date Time: 11 ก.ย. 2568 08:15 น.

Summary

เปิดกลยุทธ์ “นันยาง” และแง่มุมการทำการตลาดที่มักมีกิมมิคเกาะกระแส ล่าสุดออกรุ่น“พิทักษ์ 68” รองเท้าผ้าใบลวดลายพรางทหาร เพื่อระดมทุนช่วยเหลือทหารผ่านศึก

Latest

"แม่โขง-ล้านช้าง”เงินสะพัด

กลยุทธ์ “นันยาง”บริษัทที่ยังคงยึดหลักอนุรักษ์นิยม(Conservative) ในการผลิตสินค้า แต่แง่มุมการทำการตลาดมักมีกิมมิคเกาะกระแส สร้างรุ่นพิเศษจำนวนจำกัด(Limited Edition) ออกมาให้ฮือฮา! ลึกกว่าที่นึก เพราะนี่คือกลยุทธ์จุดเชื่อมของยุคสมัย ภายใต้โจทย์ “สินค้าเหมือนเดิมจะขายได้ยังไง?” ล่าสุดออกรุ่น“พิทักษ์ 68” รองเท้าผ้าใบลวดลายพรางทหาร เพื่อระดมทุนช่วยเหลือทหารผ่านศึก  

บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในเครือซอโสตถิกุล แบรนด์รองเท้าผ้าใบและช้างดาวคู่ใจคนไทยมากว่า 70 ปี ได้เปิดเผยเบื้องหลังการดำเนินธุรกิจและปรัชญาการทำงานที่ยึดหลัก "ฟังก์ชันเหนือแฟชั่น" พร้อมเล่าถึงการสนับสนุนทหารในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดย “จักรพล จันทวิมล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน บริษัทได้เข้าไปช่วยเหลือทหารด้วยการส่งรองเท้าช้างดาวเพื่อการพักเท้าในช่วงแรก ต่อมาจึงส่งรองเท้าผ้าใบเพื่อใช้ในการลุยป่า

"เราทราบมาพอสมควรว่ารองเท้าของเราเป็นรองเท้าอเนกประสงค์ ใช้ได้กับทุกสภาพและทุกอาชีพ โดยเฉพาะรองเท้าผ้าใบของเราที่เหมาะสมกับการลุย เพราะมันไม่ลื่นเมื่อลุยป่าในสภาพเปียกชื้น และทนทานสำหรับการเดินหลายกิโลเมตรในแต่ละวันที่ทหารต้องลาดตระเวนดูแลประเทศให้เรา”

.กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเกินคาด

แม้หลายคนจะจดจำนันยางในฐานะ "รองเท้านักเรียน" แต่ “จักรพล”เผยว่า ความจริงแล้วกลุ่มลูกค้าของบริษัทมีความหลากหลายมากกว่าที่คิด โดย 70% เป็นกลุ่มนักเรียน ขณะที่อีก 30% ที่ไม่ค่อยได้พูดถึงเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล่นกีฬา เตะตะกร้อ คนทำปฏิบัติอาชีพทั่วไป แรงงาน สามล้อ วินมอเตอร์ไซค์ ขับแท็กซี่ และไปถึงกลุ่มข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และผู้พิทักษ์ป่า

"ทหารพราน หรือทหารที่อยู่ในปฏิบัติหน้าที่จริง เขาใช้รองเท้าของเรามาพอสมควรแล้ว เพราะเหมาะกับการลุยเหตุผลที่น่าสนใจคือเรื่องความปลอดภัยจากการเหยียบระเบิด ตามที่ทหารผ่านศึกให้ข้อมูลว่า เมื่อเหยียบระเบิด รองเท้าผ้าใบจะช่วยลดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ โดยแรงอัดของระเบิดจะทำให้ต้องตัดเพียงข้อเท้า เทียบกับรองเท้าคอมแบทที่แรงอัดจะบีบทำให้ต้องตัดเหนือเข่า ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตหลังเกิดเหตุอย่างมหาศาล”


.พระราชทานและการสนับสนุนต่อเนื่อง

การช่วยเหลือทหารของนันยางไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งเดียว แต่เป็นการดำเนินการหลายขั้นตอน เริ่มจากครอบครัวซอโสตถิกุล ผู้บริหารบริษัท และเพื่อนๆ มอบรองเท้าแตะช้างดาว 9,999 คู่ ต่อมาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชประสงค์มอบรองเท้าผ้าใบประมาณ 6,000 คู่แก่ทหารแนวหน้า โดยบริษัทได้น้อมเกล้าถวายและพระองค์ท่านได้พระราชทานต่อให้กับทหาร เมื่อประชาชนทั่วไปเห็นการกระทำของเรา เขาก็รวบรวมกันมาซื้อรองเท้าที่ร้านตัวแทนของเราในพื้นที่ใกล้เคียง เราก็ให้ราคาพิเศษและช่วยดำเนินการส่งให้ ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "รองเท้าพิทักษ์ 68" ซึ่งเป็นรองเท้าผ้าใบลายพรางทหารในราคา 699 บาท (เทียบกับรองเท้าปกติ 300-400 บาท) เปิดให้สั่งพรีออเดอร์เพียง 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-12 ส.ค.2568 โดยใช้แนวคิด "วันที่ 8 เดือน 8" เป็นจุดเริ่มต้น

"เราประกาศเป็นโครงการว่าเราจะทำรองเท้าคู่นี้ ใครอยากจะร่วมกับเราบ้าง แล้วก็อธิบายไปเลยว่าเรื่องราวของมันเป็นยังไงบ้าง  กำไรทั้งหมดจะมอบให้กับองค์การทหารผ่านศึกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยได้รับการสั่งซื้อกว่า 10,000 คู่ สร้างกำไร 2 ล้านบาท ได้นำไปแบ่งบริจาคให้องค์การทหารผ่านศึก 1 ล้านบาท โรงพยาบาลพระมงกุฎ 500,000 บาท มูลนิธิขาเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ 250,000 บาท และมูลนิธิสายใจไทย 250,000 บาท”

.ปรัชญา Conservative แต่สร้างสรรค์

“จักรพล”เผยปรัชญาการทำธุรกิจว่า นันยางเป็นแบรนด์ที่เน้น "ฟังก์ชัน" มากกว่า "แฟชั่น" โดยมุ่งเน้นการใช้งานจริงแทนความสวยงาม ข้อดีคือไม่ต้องเปลี่ยนรูปแบบบ่อย ไม่มี End of Season ไม่ต้องลดราคา 90% เหมือนสินค้าแฟชั่น ขายได้ต่อเนื่องตลอดปี แม้กำไรจะน้อยกว่าสินค้าแฟชั่น

    "รองเท้าผ้าใบนันยางและรองเท้าแตะช้างดาว มันเหมือนรองเท้าที่ใส่ลุยใส่ไปทั่วไป ทำให้เราอยู่ได้มานาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ข้อเสียก็คือกำไรน้อย เพราะเราไม่ได้แฟชั่นสวย แต่ข้อดีคือเราไม่ต้องลดราคาในช่วง Off Season เพราะเราไม่มีซีซั่น"

การทำงานแบบ Conservative ไม่ได้หมายความว่าไม่สร้างสรรค์ “จักรพล”อธิบายว่า Conservative หมายถึงไม่เสี่ยงในการดำเนินธุรกิจหลัก แต่วิธีการนำเสนอสามารถทำได้หลายแบบ แนวทางการสื่อสารของนันยางมีหลักการสำคัญคือ สินค้าต้องขายได้ก่อน การกุศลถือเป็นโบนัส ไม่ใช่การเรียกร้องให้ซื้อเพื่อทำบุญ แต่ให้ผู้บริโภคซื้อเพราะชอบสินค้าก่อน การทำ Limited Edition ของนันยางมักจะมีเรื่องราวและความหมาย โดยเฉลี่ยปีละครั้ง เพื่อให้เป็น Limited Edition ประจำปี ส่วนใหญ่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า จะเกิดขึ้นตามกระแสสังคม

.รุ่นลิมิเต็ดที่สร้างปรากฏการณ์

“จักรพล” กล่าวว่า นันยางมีประวัติการทำ Limited Edition ที่สร้างกระแสหลายครั้ง เริ่มต้นจากรองเท้าสีแดงเมื่อลิเวอร์พูลได้แชมป์ปี 2019 ซึ่งใช้แนวคิด ถ้าลิเวอร์พูลได้แชมป์เราจะผลิตรองเท้าสีแดง เปิดขายเพียง 90 นาทีเท่ากับเวลาเล่นฟุตบอล ขายได้หลักหมื่นคู่ ปัจจุบันราคาตลาดมืดสูงถึง 2,500 บาทตอนนั้นไม่เคยผลิตสีแดงมาก่อน

ปี 2022 ทำรองเท้า Blackpink ช้างดาวสีดำ-ชมพู ใช้เงื่อนไขว่าถ้าเพลง Pink Venom ได้เกิน 80 ล้านวิวใน 24 ชั่วโมงแรก บริษัทจะผลิตรองเท้าแตะช้างดาวสีชมพู หรือล่าสุดมีรองเท้าหมูเด้ง ตามกระแสสัตว์ดาราจากเขาเขียว ซึ่งทุกอย่างเกิดจากวิธีคิดที่ว่า "ทุกอย่างอยู่ที่วิธีคิด"

จุดเด่นของรองเท้านันยางคือการใช้ยางพารา 100% ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวในประเทศที่ยึดหยัดใช้วัตถุดิบนี้ ทำให้รองเท้าทนทานจนมีสำนวนว่า หายก่อนรองเท้าพัง วิสัยทัศน์ของนันยางกำลังเปลี่ยนผ่านจากผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้เป็นแพลตฟอร์มและสื่อ เน้น Real Time Marketing ตอบสนองกระแสสังคมทันที เพื่อเป็นจุดเชื่อมของสินค้าแบบเดิม

"สิ่งที่ทำให้การตลาดยากคือสินค้าเหมือนเดิมจะขายได้ยังไง นักเรียนสมัยเรากับสมัยปัจจุบันความคิดต่างขนาดไหน ห่างกัน 5 ปี เด็ก ป.6 กับ ม.6 ก็คิดไม่เหมือนกันแล้ว ดังนั้นเป็นหน้าที่ของแบรนด์ที่ต้องปรับตัวไปกับเด็กที่เปลี่ยนไปในทุกยุคทุกสมัย”

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ