ทีโอเอเดินหน้าผู้นำสีอาเซียน

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ผู้ผลิต และจำหน่ายสีทาอาคารรายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงราคาหุ้น TOA ที่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งปรับตัวขึ้นจากราคาจองโดยมาปิดตลาดที่ 32.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.50 บาท จากราคาจองซื้อที่ 24 บาทว่า เนื่องจาก นักลงทุนเชื่อมั่นในพื้นฐานที่ดีของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจสีของคนไทย ที่มีการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับที่ปรึกษาทางการเงินมีการกระจายหุ้นในสัดส่วนที่เหมาะสม ทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปสร้างโรงงานผลิตสีแห่งใหม่ในต่างประเทศอีก 3 แห่ง ได้แก่ อินโดนีเซีย เมียนมา และกัมพูชา ซึ่งจะใช้เงินลงทุนรวม 1,184 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 102.5 ล้านแกลลอนต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 88 ล้านแกลลอนต่อปี โดยหวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในอาเซียนและขึ้นเป็นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในอินโดนีเซียที่ TOA ได้เข้าไปรุกตลาดมา 5-6 ปีแล้ว ถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ส่วนเมียนมาและกัมพูชาก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพเพราะเศรษฐกิจกำลังมีการเติบโตที่ดี

สำหรับผลประกอบการปี 60 แม้คาดว่ารายได้และกำไรจะต่ำกว่าปี 59 ที่มีรายได้ 16,500 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,520 ล้านบาท เนื่องจากภาวะตลาดในประเทศปีนี้ซบเซาจากภาวะเศรษฐกิจ และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดย 6 เดือนแรก บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 7,710 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 894.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 10% เนื่องจากเศรษฐกิจ ที่เริ่มดีขึ้นและโรงงานในต่างประเทศสร้างเสร็จ

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง ในฐานะที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า TOA เป็นบริษัทสีของคนไทยที่ครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศได้สูงสุดท่ามกลางการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติ โดยมีจุดแข็งด้านแบรนด์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม มีความพร้อมด้านฐานการผลิต รวมถึงมีทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีประสบการณ์สูง โดยหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินยิ่งขึ้น.