กรุงศรี Q2 โกยกำไร  8,295 ล้าน โต 1%  ตั้งสำรองลดลง-คุมต้นทุนได้ แม้รายได้ดอกเบี้ยหด

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กรุงศรี Q2 โกยกำไร 8,295 ล้าน โต 1% ตั้งสำรองลดลง-คุมต้นทุนได้ แม้รายได้ดอกเบี้ยหด

Date Time: 18 ก.ค. 2568 18:59 น.

Video

ตลาดหลักทรัพย์ฯ 50 ปี ขยายโอกาสตลาดทุน เปลี่ยนอนาคตด้วยความรู้การเงิน | Money Issue EP.39

Summary

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา หรือหุ้น BAY กำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 8,295 ล้านบาท โต 1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากตั้งสำรองลดลงและควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แม้จะต้องเผชิญกับการชะลอตัวของสินเชื่อโดยรวมก็ตาม

Latest


ทยอยประกาศผลประกอบการกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ล่าสุด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BAY เผยกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568 แตะระดับ 8,295 ล้านบาท เติบโตขึ้น 1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

เบื้องหลังการเติบโตของกำไรในครั้งนี้ มีปัจจัยสำคัญมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ค่าตั้งสำรอง) ถึง 12.9% ควบคู่กับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะต้องเผชิญกับการชะลอตัวของสินเชื่อโดยรวมก็ตาม


กรุงศรี Q2 โกยกำไร 8,295 ล้าน โต 1%

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น BAY รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า มีกําไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2568  อยู่ที่จํานวน 8,295 ล้านบาท กําไรสุทธิยังคงเพิ่มขึ้น 1.0% หรือจํานวน 86 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและค่าใช้จ่ายในการดาเนินงาน แม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลง

เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 10.1% หรือจํานวน 762 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ที่เกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่มี ประสิทธิภาพ รวมถึงการลดลงของค่าใช้จ่ายในการดําเนินงาน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของธนาคารในการ เพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานและการควบคุมต้นทุน

วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่จํานวน 1,866,038 ล้านบาท ลดลงจํานวน 29,831 ล้านบาท หรือ 1.6% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2567

ทั้งนี้ จากยุทธศาสตร์เชิงรุกที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพในอุตสาหกรรม เป้าหมาย ส่งผลให้สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตในระดับปานกลางที่ 2.8%

ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมและสินเชื่อเพื่อรายย่อยปรับลดลงที่  4.0% และ 3.9% ตามลําดับ

จากความพยายามเชิงรุกในการบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนทางการเงิน ภายใต้บริบทที่ความต้องการสินเชื่อชะลอตัว ส่งผลให้เงินรับฝากรวมลดลงจํานวน 19,782 ล้านบาท หรือ 1.1% จากสิ้นเดือนธันวาคม 2567 มาอยู่ที่ จํานวน 1,802,447 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของเงินรับฝากประจํา

อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 3.39% เทียบกับ 3.23% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบระมัดระวังต่อเนื่อง

ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น อยู่ที่ 10,290 ล้านบาท ลดลง 12.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 217 เบสิสพอยท์ สะท้อนการรักษาระดับผลขาดทุนจากเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพียงพอ

นอกจากนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนภาคเอกชน การบริโภค และ ความต้องการสินเชื่อ กรุงศรียังคงสามารถรักษาระดับผลการดําเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงครึ่งแรกของปี 2568

สะท้อนยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นการบริหารต้นทุน พร้อมเสริมประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนบริหารผลขาดทุน ด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระดับที่เหมาะสม ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 กรุงศรี (ธนาคาร และบริษัทในเครือ) มี กําไรสุทธิจํานวน 15,829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% หรือจํานวน 77 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2567

ผลการดําเนินงานดังกล่าวข้างต้นส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและ ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานแม้ว่ารายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับลดลง สอดคล้องกับการปรับลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการลดลงของเงินให้สินเชื่อ


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ