SCC กำไร Q2 พุ่ง 368% ที่ 1.73 หมื่นล้าน เหตุรับรู้กำไรพิเศษ พร้อมประกาศจ่ายปันผล 2.50 บาท

เข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่างทยอยประกาศผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งเป็นที่จับตาของนักลงทุนอย่างใกล้ชิด

หนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ที่น่าสนใจคือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น SCC ที่ได้รายงานกำไรสุทธิพุ่งสูงถึง 17,337 ล้านบาท เติบโต 368% อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นใน PT Chandra Asri Pacific Tbk (CAP) เป็นหลัก

นอกจากนี้ ด้วยภาพรวมผลการดำเนินงานที่ยังคงความมั่นคง คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 สิงหาคม 2568

กำไรพุ่ง 368% รับปรับโครงสร้างธุรกิจ

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือหุ้น SCC รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/68 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า กำไรสำหรับงวดอยู่ที่ 17,337 ล้านบาท ซึ่งรวมรายการพิเศษ 15,170 ล้านบาท มาจากรายการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวกับ PT Chandra Asri Pacific Tbk. (CAP) รวม 16,712 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างการดำเนินงานและธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวม 1,542 ล้านบาท

สำหรับกำไรสำหรับงวดที่ไม่รวมรายการพิเศษ อยู่ที่ 2,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก เงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment) ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์จากการบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับการปรับราคาสินค้าในประเทศ รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของเอสซีจีพี รายได้จากการขายอยู่ที่ 124,685 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA เพิ่มขึ้น 7% เป็นผลมาจากเงินปันผลรับจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment) ที่เพิ่มขึ้น ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของเอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ จากยอดขายที่ปรับเพิ่มขึ้น การบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับการปรับราคาสินค้าในประเทศ

กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 13,629 ล้านบาท หรือ 368% ซึ่งรวมรายการพิเศษ กำไรสำหรับงวดที่ไม่รวมรายการพิเศษ ลดลง 1,541 ล้านบาท หรือ 42% สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายจากลองเซินปิโตรเคมิคอลส์คอมเพล็กซ์ (LSP) เพิ่มขึ้น (จากค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ย) ประกอบกับในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 เอสซีจี เคมิคอลส์ (เอสซีจีซี) มีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 913 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อน มีขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือ 363 ล้านบาท รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และผลการดำเนินงานที่ลดลงของเอสซีจีพีและเอสซีจีสมาร์ทลีฟวิง และเอสซีจี ดิสทริบิวชั่นแอนด์รีเทล

รายได้จากการขายลดลง 3% ส่วนใหญ่จากทุกธุรกิจ ยกเว้น เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับราคาสินค้าในประเทศ

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจาก EBITDA ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่อยู่ในระดับที่มั่นคง คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 ในอัตรา 2.50 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท คิดเป็น 92% ของกำไรสำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ไม่รวมรายการพิเศษ

โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 กำหนดวันที่ XD ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 14 สิงหาคม 2568

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney