ปลดล็อก “ขายเหล้าบ่าย 2” มีแต่หุ้นใหญ่ได้ประโยชน์ ? ข่าวนี้หนุนธุรกิจหรือแค่จิตวิทยา

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ปลดล็อก “ขายเหล้าบ่าย 2” มีแต่หุ้นใหญ่ได้ประโยชน์ ? ข่าวนี้หนุนธุรกิจหรือแค่จิตวิทยา

Date Time: 12 ก.ย. 2568 12:38 น.

Video

เบื้องหลัง McDonald’s โมเดลทำเงินสุดฉลาด จริงๆ รวยจากอะไร ? | Digital Frontiers EP.42

Summary

จับตาหุ้นได้ประโยชน์การปลดล็อกเวลาขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น. โบรกฯ ชี้ผู้ได้ประโยชน์ เช่น ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL) และค้าส่ง (CPAXT) ที่มีลูกค้าเป็นโรงแรม

Latest


นับเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจบริการของไทยที่น่าจับตา จากประเด็นการยกเลิกคำสั่งคณะปฏิวัติฉบับที่ 253 ซึ่งบังคับใช้มาอย่างยาวนานกว่า 53 ปี โดยมีสาระสำคัญคือ การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น.

การปลดล็อกช่วงเวลาที่เคยเป็น "สุญญากาศทางธุรกิจ" ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม ในอีกด้านหนึ่งก็มีเสียงสะท้อนจากภาคประชาชนที่แสดงความกังวลต่อผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นเช่นกัน

ในมุมมองของตลาดหุ้น ข่าวนี้ได้สร้างมุมมองเป็นบวกในช่วงแรกต่อหุ้นในหลายอุตสาหกรรม แต่เมื่อดูรายละเอียดของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฉบับล่าสุด พบว่าผลประโยชน์อาจไม่ได้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างอย่างที่คิด เนื่องจากร้านอาหารทั่วไปยังไม่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าว


ปลดล็อก “เวลาขายแอลกอฮอล์” 14.00-17.00 น.

กว่า 53 ปีที่คนไทยต้องอยู่ภายใต้กฎที่ว่า ห้ามขายแอลฯ ในเวลาบ่าย แต่ล่าสุดราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ว่าสมควรแก้ไขเพิ่มเติมเนื่องจาก พ.ร.บ. นี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล โดยบังคับใช้เมื่อพ้น 60 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้น 

แม้ว่าจะมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลให้ "ยกเลิก" ประกาศคณะปฏิวัติฉบับปี 2515 ซึ่งเป็นต้นเหตุของการห้ามจำหน่ายสุราในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. ก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ การห้ามดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้อยู่กับร้านค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่

ในกรณีนี้ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน ผู้ผลักดันกฎหมายสุราก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร - Taopiphop Limjittrakorn" ระบุว่า สาเหตุเป็นเพราะยังมี "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี" อีกฉบับหนึ่งที่ยังคงกำหนดช่วงเวลาห้ามขายดังกล่าวไว้

ทำให้ผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงบ่ายได้จริง ถูกจำกัดวงอยู่เพียง 3 กลุ่มเท่านั้น ได้แก่ 

1. ร้านค้าภายในท่าอากาศยานนานาชาติ

2. สถานบริการที่จดทะเบียนตามกฎหมาย 

3. โรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง


เปิดลิสต์หุ้นไหนได้ประโยชน์ตัวจริง ?

บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การปลดล็อกดังกล่าวมีศักยภาพที่จะผลักดันยอดขายของร้านอาหารและธุรกิจที่เกี่ยวข้องให้เติบโตสูงถึง 20-25% ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการ แต่ยังส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวโดยตรง เนื่องจากสามารถตอบสนองพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มักรับประทานอาหารในช่วงบ่าย และขจัดปัญหาความไม่พึงพอใจที่เคยเกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตาม หากมองในภาพรวมของกลุ่มค้าปลีก (ไม่รวมสินค้าไอที) คาดว่า กำไรในไตรมาส 3/68 อาจเป็นจุดต่ำสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นและเผชิญภาวะการบริโภคชะลอตัว แต่คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีในไตรมาส 4/68 จากปัจจัยฤดูกาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทำให้ประมาณการกำไรทั้งปี 2568 ของกลุ่มจะยังเติบโตได้ประมาณ 1% มาอยู่ที่ 7.78 หมื่นล้านบาท โดยมีแรงหนุนสำคัญจาก CPALL และ CPAXT

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ฯ มองว่า CPAXT จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้สูงสุด เนื่องจากเป็นผู้ขายส่งตรงไปยังกลุ่มร้านอาหารและโรงแรม ตามมาด้วย BJC, CRC และ CPALL (ซึ่งได้ประโยชน์ผ่านการถือหุ้นใน CPAXT) รวมถึงกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวอย่างโรงแรม (CENTEL, ERW) และสนามบิน (AOT)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเมินว่าเป็นจิตวิทยาบวกต่อยอดขายหุ้นค้าส่งและค้าปลีก ที่มีโอกาสขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับร้านอาหาร เช่นหุ้น BJC, CPALL, CPAXT เป็นต้น

นอกจากนี้ ผลบวกต่อธุรกิจเชื่อมโยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่าง CBG และ คาดกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นสนามบิน AOT สายการบิน AAV BA กลุ่มโรงแรมในประเทศ ERW, CENTEL เป็นต้น


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ