AI ทำเด็กจบใหม่ลำบาก Goldman Sachs เตือนแรงงานเทคเริ่มน่าห่วง บริษัทใหญ่รอใช้ AI แทนเต็มรูปแบบ

นักเศรษฐศาสตร์จาก Goldman Sachs เผย ตลาดแรงงานในสหรัฐอเมริกาเริ่มได้รับแรงสั่นสะเทือนจากการเข้ามาของ Generative AI แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่รุนแรง แต่เริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่า เด็กจบใหม่และแรงงานในวัย 20-30 ปีที่อยู่ในตลาดเทคโนโลยีมีอัตราว่างงานเพิ่มขึ้น 3% นับตั้งแต่ต้นปี 2025

Joseph Briggs นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสฝ่ายวิจัยระดับโลกของ Goldman Sachs เผยผ่านรายการพอดแคสต์ของ CNBC ว่า แม้ว่าในปัจจุบันตลาดแรงงานโดยรวมยังไม่ถูก AI กระทบอย่างรุนแรง แต่ก็เริ่มมีสัญญาณที่ชัดเจน คือ การชะลอการจ้างงานในภาคเทคโนโลยี ซึ่งกระทบต่อพนักงานรุ่นใหม่มากที่สุด

"ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนการจ้างงานในภาคเทคโนโลยีโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วง 3 ปีหลัง เรากลับเห็นการชะลอตัวจนต่ำกว่าระดับแนวโน้มเดิม" Joseph Briggs กล่าว

แรงขับเคลื่อนของ AI นับจากการเปิดตัว ChatGPT ในปี 2022 นั้นส่งผลให้บริษัทอย่างเช่น Nvidia และบิ๊กเทคอื่น ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่าใครไม่อยู่ในสนาม AI คือกลุ่มล้าหลัง อีกทั้งธุรกิจเล็กใหญ่ทั่วโลกก็กำลังหันมาพึ่ง AI มองว่าเป็นการลงทุนระยะยาว และจะสามารถลดต้นทุนได้ในอนาคต

ด้านผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีเอง ก็เริ่มออกมาพูดถึงผลกระทบของ AI ต่อการทำงานของพนักงานมากขึ้น อย่าง Google และ Microsoft เผยไว้ว่า AI ตอนนี้สามารถสร้างโค้ดได้เองแล้วราว 30% ในบางโปรเจกต์ ขณะที่ Marc Benioff ซีอีโอ Salesforce ระบุเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า AI ทำงานแทนคนได้มากถึง 50% แล้วในบริษัทฯ

กลยุทธ์ "หยุดรับเด็กใหม่"

แม้การดึงเอา AI มาใช้ทำงานอัตโนมัติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและจะสร้างกำไรให้ผู้ถือหุ้น แต่ก็สร้างความกังวลว่าหลายอาชีพอาจถูกกระทบในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Joseph Briggs อ้างอิงจากรายงาน "Quantifying the Risks of AI-Related Job Displacement" มองว่า พนักงานสายเทควัยหนุ่มสาว คือกลุ่มแรกที่จะเห็นการแทนที่อย่างชัดเจน เพราะงานของคนกลุ่มนี้ง่ายต่อการทำให้เป็นอัตโนมัติ โดยอัตราการว่างงานในกลุ่มพนักงานเทคอายุ 20-30 ปี เพิ่มขึ้นมาแล้ว 3% ตั้งแต่ต้นปี 2025 ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้นในกลุ่มแรงงานเทคโดยรวมและแรงงานหนุ่มสาวในสาขาอื่น ๆ

George Lee อดีตนายธนาคารสายเทคโนโลยีและผู้ร่วมบริหาร Goldman Sachs Global Institute เผยว่า ซีอีโอบริษัทเทคเลือกที่จะชะลอการจ้างพนักงานจูเนียร์ เพื่อเตรียมรับมือการใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อที่จะปรับองค์กรให้คล่องตัวและปรับตัวได้ไวขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการประเมินอีกว่า ในสถานการณ์ตอนนี้ราว 6-7% ของแรงงานทั้งหมดอาจตกงานเพราะการเข้ามาของ AI แต่ถ้าการนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจเกิดเร็วกว่าเดิม ไม่ว่าจะเพราะเทคโนโลยีก้าวกระโดด หรือเศรษฐกิจชะลอตัวจนบริษัทต้องลดต้นทุน ผลกระทบอาจรุนแรงยิ่งกว่านี้

และหากนักวิจัย AI สามารถสร้าง AGI (Artificial General Intelligence) หรือ AI ที่มีความสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้เหมือนมนุษย์ ไม่จำกัดเพียงงานเฉพาะด้าน ผลกระทบต่อตลาดแรงงานจะลึกและแรงกว่าที่เคยวิเคราะห์ไว้มาก

ทั้งนี้ "การวิเคราะห์นี้ไม่ได้รวมความเป็นไปได้หากเกิดมี AGI ขึ้นมาจริง ๆ เพราะยากที่จะคาดเดาผลกระทบ แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจคือ มันจะทำให้เกิดการแทนที่แรงงานได้มากขึ้น และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวกว่าที่เราเห็นในปัจจุบันอย่างแน่นอน" Joseph Briggs กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: CNBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney