จากยูนิคอร์นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สู่แอปที่แทบไม่มีใครใช้ภายในเวลาเพียง 2 ปี Clubhouse คือบทเรียนของสตาร์ทอัพที่มีทั้งเงินทุนมหาศาลและกระแสไวรัลทั่วโลก แต่กลับพลาดในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน เรียนรู้สาเหตุที่ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลเสียงสุดฮอตในยุคโควิด กลายเป็นเพียงตำนานที่คนแทบลืมไปแล้วในวันนี้
ทุกวันนี้ยังมีใครใช้ Clubhouse อยู่ไหม? ช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียสายเสียงนี้เคยเป็นกระแสไวรัลที่หลายคนคาดการณ์ว่าจะเปลี่ยนวิถีการสื่อสารของเราไปตลอดกาล แต่เพียงไม่กี่ปีให้หลัง Clubhouse กลับซบเซาราวกับไม่เคยมีตัวตน รายการ Digital Frontiers ทางช่อง YouTube: Thairath Money หยิบยกกรณีศึกษาของ Clubhouse มาวิเคราะห์เจาะลึก 3 สาเหตุหลักที่ทำให้ Clubhouse ล้มเหลว ให้เห็นถึงบทเรียนราคาแพงว่าทำไมการสร้าง "แพลตฟอร์ม" ต้องมีมากกว่าแค่นวัตกรรมและกระแส
Clubhouse เริ่มต้นในปี 2020 ช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดหนัก ประชาชนทั่วโลกต้องกักตัวอยู่ในบ้าน ทำให้ทุกคนกระหายการเชื่อมต่อทางสังคมในรูปแบบใหม่ๆ Paul Davison และ Rohan Seth สองนักธุรกิจรุ่นใหม่มองเห็นโอกาสและได้สร้างแพลตฟอร์มที่แตกต่างจากทุกโซเชียลมีเดียที่เคยมีมา
แอปพลิเคชันนี้ฉีกกฎเดิมๆ ของโซเชียลมีเดียที่เน้นรูปภาพและวิดีโอ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์มที่เน้นเสียงเพียงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมหรือสร้าง "ห้อง" พูดคุยสดได้ เหมือนรายการวิทยุสดหรือพอดแคสต์ที่ผู้ฟังสามารถยกมือและขึ้นมาพูดคุยได้ด้วย
Clubhouse เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงมีนาคม-เมษายนปี 2020 โดยเริ่มต้นให้ใช้เฉพาะบน iOS เท่านั้น กลยุทธ์การเติบโตในช่วงแรกของพวกเขานั้นชาญฉลาดมาก ด้วยการ:
ความนิยมของ Clubhouse พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว:
ช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีการสร้างห้องสนทนามากกว่า 700,000 ห้องต่อวัน และกลายเป็นพื้นที่สำหรับการพูดคุยกับคนดังแบบเรียลไทม์
ความนิยมที่พุ่งทะยานดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนชั้นนำอย่าง Andreessen Horowitz จนทำให้ Clubhouse มีมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2021 ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีในการก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์น
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น Clubhouse ที่เคยร้อนแรง เริ่มดิ่งลงอย่างรวดเร็วและน่าใจหาย:
ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มนี้ดำเนินธุรกิจด้วยการ "เผาเงิน" จากนักลงทุน แต่เมื่อความนิยมลดลง โมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนกลับยังไม่เกิดขึ้น
1. ความแปลกใหม่ที่กลายเป็นข้อจำกัด
สิ่งที่ทำให้ Clubhouse โดดเด่นในตอนแรกกลับกลายเป็นกับดักในภายหลัง:
2. ถูกคู่แข่งลอกเลียนและปรับปรุงให้ดีกว่า
เมื่อ Clubhouse เริ่มได้รับความนิยม คู่แข่งรายใหญ่ไม่รอช้าที่จะสร้างฟีเจอร์คล้ายกัน:
คู่แข่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ลอกเลียนฟีเจอร์ แต่ยังปรับปรุงให้ดีขึ้น Twitter Spaces อนุญาตให้บันทึกการสนทนาได้ตั้งแต่เริ่มต้น และมีฐานผู้ใช้อยู่แล้วหลายร้อยล้านคน ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องโหลดแอปเพิ่ม
3. ล้มเหลวในการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน
แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์:
ความพยายามในการฟื้นตัว เมื่อความนิยมเริ่มลดลง Clubhouse พยายามปรับตัวหลายวิธี:
แต่การปรับตัวเหล่านี้ไม่สามารถหยุดการร่วงลงของแพลตฟอร์มได้ เพราะปัญหาหลักคือการขาดเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้อยากกลับมาใช้งานซ้ำๆ
มรดกที่ยั่งยืนที่สุดของ Clubhouse ไม่ใช่ตัวแพลตฟอร์มเอง แต่เป็นการจุดประกายกระแสโซเชียลออดิโอทั่วทั้งอุตสาหกรรม แม้ว่าตัวแอปจะลดบทบาทลงอย่างมาก แต่อิทธิพลของมันยังคงอยู่
กรณีศึกษานี้ได้ให้บทเรียนสำคัญหลายประการ
บทเรียนจาก Clubhouse แสดงให้เห็นว่าในโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเร็ว การสร้างกระแสและได้รับเงินลงทุนมหาศาลอาจไม่ใช่ปัจจัยเพียงพอสำหรับความสำเร็จในระยะยาว แต่ความยั่งยืนเกิดจากการสร้างคุณค่าที่แท้จริงและระบบที่เอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง