มือใหม่หัดลงทุนก็ทำได้ วิธีใช้ Google Finance ฟรีๆ วิเคราะห์หุ้น-กองทุน-ค่าเงิน แบบครบวงจร

Tech & Innovation

Tech Companies

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มือใหม่หัดลงทุนก็ทำได้ วิธีใช้ Google Finance ฟรีๆ วิเคราะห์หุ้น-กองทุน-ค่าเงิน แบบครบวงจร

Date Time: 10 ก.ย. 2568 16:58 น.

Video

เบื้องหลังการลงทุนคริปโตของ นาโอมิ นิชิยาม่า เริ่มต้นเพราะใครกันนะ? l Money Secret EP.5

Summary

เปิดวิธีใช้ ฟีเจอร์หลัก "Google Finance" แพลตฟอร์มติดตามตลาดการเงินฟรีจาก Google เครื่องมือใหม่สำหรับสายหุ้นสายการเงิน ที่มาพร้อมกับเครื่องมือ AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาดเงินและตลาดหุ้นเชิงลึก

Latest


"Google Finance” แพลตฟอร์มติดตามตลาดการเงินฟรีจาก Google เครื่องมือใหม่สำหรับสายหุ้นสายการเงิน ที่มาพร้อมกับเครื่องมือ AI วิเคราะห์ข้อมูลตลาดเงินและตลาดหุ้นเชิงลึกลดขั้นตอนยุ่งยากและเพิ่มความยืดหยุ่นในการวิเคราะห์ตลาด เข้าถึงข้อมูลบริษัทจดทะเบียน ข้อมูลตลาด ราคาหุ้น กองทุน ETF และค่าเงินแบบเรียลไทม์ทั่วโลก พร้อมกราฟเชิงโต้ตอบและข่าวธุรกิจที่อัปเดตอยู่เสมอ และที่สำคัญยังมี ‘แชตบอต AI’ ตอบคำถามเชิงลึกได้สะดวกยิ่งขึ้น 



สรุปฟีเจอร์หลักของ Google Finance

  • การค้นหาข้อมูลบริษัท (Company Research) ผู้ใช้สามารถค้นหาชื่อบริษัทหรือสัญลักษณ์หุ้น (Ticker) เพื่อดูราคาหุ้น ข้อมูลการเงิน และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง
  • วอทช์ลิสต์และพอร์ตการลงทุน (Watchlists and Portfolios) ผู้ใช้สามารถสร้างวอทช์ลิสต์ส่วนตัวเพื่อติดตามหุ้นที่สนใจ และจัดการพอร์ตเพื่อดูผลตอบแทนรวมแบบเรียลไทม์
  • ข้อมูลตลาด (Market Data) ผู้ใช้สามารถเข้าถึงราคาหุ้น กองทุน ETF ดัชนีตลาด ค่าเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ในรูปแบบเรียลไทม์
  • กราฟเรียลไทม์ (Interactive Charts) แดชบอร์ดจะแสดงกราฟราคาพร้อมตัวเลือกการปรับช่วงเวลาและอินดิเคเตอร์ เพื่อช่วยวิเคราะห์แนวโน้มและประสิทธิภาพของหุ้น
  • ข่าวการเงิน (Financial News) พาร์ทรวมข่าวอัปเดตที่เกี่ยวข้องกับหุ้น ธุรกิจการเงิน และแนวโน้มตลาดจาก Google News ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลล่าสุด
  • การเชื่อมต่อกับ Google Sheets (Google Sheets Integration) ผู้ใช้สามารถใช้ฟังก์ชัน GOOGLEFINANCE() เพื่อดึงข้อมูลการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์เข้าสู่ Google Sheets และเปลี่ยนสเปรดชีตธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องมือติดตามพอร์ตลงทุนเพื่อการวิเคราะห์เชิงลึกได้

การเข้าถึง Google Finance

  • ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บไซต์โดยตรง google.com/finance  
  • ผู้ใช้สามารเข้าผ่าน Google Search เพียงค้นหาชื่อบริษัทหรือชื่อหุ้น ใน Google ข้อมูลจาก Google Finance จะปรากฏเป็นผลการค้นหาอันดับต้นๆ
  • ผู้ใช้สามารถเข้าผ่าน Google Sheets ด้วยการใช้สูตร =GOOGLEFINANCE()เพื่อดึงข้อมูลการเงินเข้ามาในสเปรดชีตโดยตรง

ยกตัวอย่าง โครงสร้างคำสั่ง (Syntax)

=GOOGLEFINANCE(ticker, [attribute], [start_date], [num_days|end_date], [interval])

  • Ticker คือ สัญลักษณ์ย่อของหุ้น/หลักทรัพย์ เช่น หุ้น Apple "AAPL" สามารถระบุชื่อกระดานซื้อขายเพื่อความชัดเจน เช่น "NASDAQ:AAPL" (ต้องใส่เครื่องหมายคำพูดเสมอ)

  • attribute (ใส่หรือไม่ก็ได้) คือ การระบุชนิดข้อมูลที่ต้องการ เช่น "price" หรือ "eps" ถ้าไม่ใส่ ค่าเริ่มต้นคือ "price"

  • start_date (ใส่หรือไม่ก็ได้) คือ การระบุวันที่เริ่มดึงข้อมูลย้อนหลัง

  • num_days|end_date (ใส่หรือไม่ก็ได้) จำนวนวันหรือวันที่สิ้นสุดของช่วงเวลาที่ต้องการข้อมูล

  • interval (ใส่หรือไม่ก็ได้) คือ ความถี่ของข้อมูล เช่น "DAILY" หรือ "WEEKLY"


ทำไม Google ทำ Google Finance ?

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ที่ต้องการข้อมูลหุ้นจะต้องเข้าไปค้นหาตามเว็บไซต์หรือฐานข้อมูลการเงิน แล้วคัดลอกข้อมูลมาวางในสเปรดชีตเพื่อวิเคราะห์ต่อ วิธีนี้ใช้เวลามากและมีความเสี่ยงเรื่องความผิดพลาด อีกทางเลือกคือการเขียนสคริปต์ดึงข้อมูล แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย จ้างโปรแกรมเมอร์ และขาดความยืดหยุ่น

ปัจจุบันเมื่อผู้ใช้ค้นหาหุ้นอย่าง "AAPL" ในหน้า Google Search ข้อมูลราคาหุ้นสด กราฟ และตัวเลขทางการเงินสำคัญจะปรากฏทันทีในหน้าเสิร์ช สิ่งนี้ทำให้ Google ยังคงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการค้นหาทุกอย่างบนโลกออนไลน์

ความเคลื่อนไหวในฐานะแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์กับการก้าวสู่โลกการเงินของ Google ครั้งนี้อาจช่วยเสริมพลังให้กับเสิร์ชเอนจินหลัก อีกทั้งยังรักษาผู้ใช้อยู่ในระบบนิเวศของ Google และต่อยอดฐานข้อมูลเชิงลึกที่มีมูลค่าสูง

แม้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้จะถูกเก็บเป็นความลับ แต่ข้อมูลรวม (Aggregated Data) จากสิ่งที่ผู้คนนับล้านค้นหาช่วยให้ Google มองเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจและการลงทุนว่าหุ้นตัวไหนหรืออุตสาหกรรมใดกำลังมาแรง อีกทั้งยังสามารถนำมาปรับปรุงคุณภาพการค้นหาและบริการของ Google เช่น เพิ่มความแม่นยำในการทำโฆษณาแบบเจาะกลุ่ม เช่น หากผู้ใช้สนใจเรื่องการลงทุน พวกเขาจะมีโอกาสเห็นโฆษณาจากโบรกเกอร์หรือตราสินค้าทางการเงินมากขึ้น



ที่มาข้อมูล Google Finance

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ -   


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ