ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มุ่งหน้าสู่การผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เมื่อ 3-4 ปีก่อน นอกจากจีนและสหรัฐอเมริกาแล้ว BMW Audi และ Mercedes-Benz รวมถึง Porsche ต่างก็พากันสร้างรถไฟฟ้าที่สวยงาม แต่กลับขายไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ตัวเลขยอดขายไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ทำให้บริษัทรถยนต์เยอรมันต้องใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการปล่อยของใหม่ออกมาขาย รถใหม่ที่ดูโอเคและน่าจะทำตลาดได้ดีกลับขายไม่ออกโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่คู่แข่งต่างพยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธในการผลิตรถรุ่นใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างสมดุลระหว่างรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน BMW กลับทุ่มสุดตัวกับกลยุทธ์ Power of Choice ด้วยการเทงบลงทุนให้กับทีมพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายใน ควบคู่กับการลงทุนในโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน การไปต่อกับเครื่องยนต์ไม่ใช่แค่ BMW แบรนด์เดียว Audi Porsche และ Mercedes-Benz ก็ร่วมผสมโรงพัฒนาเครื่องรุ่นใหม่ควบคู่ไปกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

“เครื่องยนต์สันดาปภายในคือรากฐานของเรา” Klaus von Moltke หัวหน้าฝ่ายการผลิตระบบส่งกำลัง และผู้จัดการโรงงานเครื่องยนต์ Steyr ของ BMW กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Automobilwoche เมื่อไม่นานนี้

...

คำพูดของ Klaus von Moltke เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ของ BMW ที่ยังไม่ละทิ้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ทั้งเบนซินและดีเซล) การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าของลูกค้าเป็นเพียงการเปลี่ยนผ่านเพื่อทดลอง หรือไม่ก็ยังคงลังเลที่จะเปลี่ยน หรือรอจนกว่าทุกอย่างจะลงตัวและมีความน่าใช้มากกว่านี้ ตัวเลขยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ค่อยๆลดลง บ่งบอกถึงความต้องการในอนาคต โครงสร้างทางวิศวกรรมของแบรนด์เยอรมัน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเมื่อกว่า 100 ปีก่อน ทั้งหมด สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีสันดาปภายใน แน่นอนว่าเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่คำตอบ การพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่จะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ใช่แค่ BMW ค่ายดาวสามแฉก Mercedes สี่ห่วง Audi รวมถึงม้าป่าสตุ๊ดการ์ท Porsche ต่างดิ้นรนเอาตัวรอดจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ตกต่ำ ด้วยการหันไปพัฒนาและสร้างเครื่องยนต์สันดาปที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จริงๆแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ในยุโรป หรือในโลก ยกเว้นจีนและกลุ่มสแกนดิเนเวีย ยังคงนิยมรถเครื่องยนต์มากกว่ารถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า การเดินทางระยะไกลที่ใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงไม่นาน ด้วยเวลาที่เรียบเร่งในการทำธุรกิจ พร้อมๆกับการเดินทางไกลโดยไม่ต้องรอ ทำให้รถเครื่องยนต์สันดาปมียอดขายดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้า 

เมื่อทุกแบรนด์เก่าแก่ เริ่มถอยห่างจากความทะเยอทะยานในการผลิตเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า หลังจากในช่วงแรกๆ ที่กระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงพุ่งเข้าใส่อย่างฉับพลัน แต่ยอดขายที่ไม่ดีของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดหลักๆ ทำให้แผนเก่าต้องถูกระงับทั้งหมด  โปรดักซ์ใหม่ๆ ในจีนก็ขายไม่ออก หรือมียอดขายดิ่งฮวบ เนื่องจากโดนรถจีนตัดราคาขายหลายเท่าจนยากที่จะต่อสู้ ในยุโรป บ้านเกิด รถไฟฟ้าหรูก็ขายสู้รถเครื่องสันดาปไม่ได้ ทำให้ BMW Mercedes-Benz Audi และ Porsche รวมถึงแบรนด์ญี่ปุ่นทุกแบรนด์ ยังคงปฏิเสธการกำหนดวันสิ้นสุดของสายการผลิตเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล พูดง่ายๆว่าลากขายไปต่อด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้เครื่องสะอาดขึ้น แรงขึ้น ด้วยการเสริมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริด Klaus von Moltke กล่าวว่า เครื่องยนต์ของ BMW ยังอยู่ต่อไปอีกนาน นั่นคือรากฐานของความเป็นจริงในตลาดรถหรูที่เห็นได้จากตัวเลขยอดขาย “เครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นเงินทุนสำหรับธุรกิจในอนาคตของ BMW” จากยอดขายที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการของลูกค้าจำนวนมากที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะกลายเป็นรายได้ที่นำไปจ่ายให้กับโครงการพัฒนาระบบส่งกำลังสันดาปภายในเทคโนโลยีใหม่ที่สะอาดกว่าเดิม รวมถึงการพัฒนาระบบขับเคลื่อนของยานยนต์ไฟฟ้าให้ไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ 

...

เครื่องยนต์ดีเซลแรงบิดสูง ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในอนาคต แต่อยู่ในรูปแบบที่สะอาดและยั่งยืนกว่าเดิม ช่างและวิศวกรของ BMW กำลังทดสอบ HVO100 อย่างจริงจัง HVO100  เป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียนที่ผลิตจากน้ำมันพืชที่ผ่านการไฮโดรทรีต ไม่มีดีเซลฟอสซิลที่ก่อมลพิษสูงหลังจากเผาไหม้ HVO100 สามารถลดการปล่อย CO₂ ได้ถึง 90% ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการสตาร์ทขณะเครื่องยนต์เย็น รถยนต์เครื่องดีเซลรุ่นใหม่ของ BMW บางรุ่นได้รับการส่งมอบให้กับตัวแทนจำหน่ายพร้อมเติมน้ำมัน HVO100 มาเรียบร้อย แม้ว่าความพร้อมในการใช้งานเชื้อเพลิงดีเซล HVO100 จะยังคงจำกัดอยู่ในโรงงานของ BMW แต่อีกไม่นาน ในอนาคตอันใกล้ เชื้อเพลิงหมุนเวียนจะเข้ามาแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลแบบเก่าเพื่อทำให้มลพิษของเครื่องดีเซลลดลง ส่งผลดีต่อโลจิสติกที่ต้องพึ่งพาแรงบิดของเครื่องดีเซลในการขนส่งสินค้า

...

Steyr ประเทศออสเตรีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ BMW ถือเป็นจุดศูนย์กลางของแนวทางแบบสองทางแยก (เอาทั้งเครื่องและมอเตอร์) ปี 2024 โรงงานแห่งนี้ผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายที่ประทับตราสัญลักษณ์ BMW ประมาณ 1.2 ล้านเครื่อง ปัจจุบัน โรงงาน BMW ในออสเตรีย กำลังเร่งผลิตระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามากถึง 600,000 คันต่อปี และเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัวยานยนต์โมเดลใหม่ที่ใช้แพลตฟอร์ม Neue Klasse โดยจะเริ่มต้นด้วย BMW iX3 เจเนอเรชันถัดไปในช่วงปลายปีนี้

ในปี 2022 BMW กำหนดให้โรงงาน Steyr เป็นศูนย์กลางระบบส่งกำลังไฟฟ้าล้วน ในช่างที่มีกระแสการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นทั่วโลก...นานมาแล้วที่  BMW ทำกำไรมหาศาลกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน และโรงงานผลิตรถยนต์สันดาปภายในของ BMW ที่เคยวางแผนจะยุติไลน์ผลิตลงในปี 2030 ก็ต้องจะดำเนินการต่อไปเพื่อให้ตรงกับแนวคิด Power of Choice ซึ่งเป็นอิสระและไม่ยึดติดกับเทคโนโลยีใดๆทั้งสิ้น BMW Mercedes-Benz Audi Porsche ยังคงมีรถรุ่นใหม่ที่ประจำการด้วยเครื่องเบนซินหรือดีเซลออกมาขายไปจนถึงปี 2035 หรืออาจนานกว่านั้นมาก ถ้าเครื่องยนต์รุ่นใหม่สามารถบรรลุมาตรการอันเข้มข้นจากกฏระเบียบการควบคุมมลภาวะของสหภาพยุโรป จุดแข็งอย่างหนึ่งของแบรนด์ตราใบพัดก็คือ พนักงานที่สามารถทำงานที่ใดที่หนึ่งได้อย่างครอบคลุมและยืดหยุ่น พนักงานในโรงงานของ BMW ได้รับการฝึกอบรมให้ทำงานกับชิ้นส่วนทั้งของ ICE และ EV สายการผลิต ออกแบบมาให้รองรับการประกอบทั้งรถเครื่องและรถไฟฟ้า ความสามารถในการปรับตัวอย่างยืดหยุ่น ทำให้ BMW ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องยึดติดกับเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่งมากเกินไป จนละเลยเทคโนโลยีอื่น การมีระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายให้เลือกทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ไม่ยาก 

...

BMW รู้ดีว่าไม่สามารถพึ่งพาการขายรถยนต์สันดาปได้ตลอดไป หากไม่ได้พัฒนาระบบขับเคลื่อนใหม่ๆ นั่นคือเหตุผลที่ต้องควักเงินทุนมหาศาล เพื่อพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์เบนซิน/ดีเซล ให้เป็นไปตามมาตรฐาน Euro 7 โดยทดลองกับเชื้อเพลิงหมุนเวียนเพื่อความยั่งยืน แม้แต่ยานยนต์ตระกูล M ก็ยังต้องปรับตัว : M5 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ V8 + ระบบปลั๊กอินไฮบริด และ M3 ใหม่ พร้อมระบบ Mild Hybrid 48V กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนา

BMW คาดว่า ภายในปี คศ. 2030 หรืออีก 5 ปีนับต่อจากนี้ ยานยนต์ EV จะครองส่วนแบ่งการขายทั่วโลกถึง 50% แต่..... ในไตรมาสแรกของปี 2025 รถ EV มีส่วนแบ่งการส่งมอบต่ำกว่า 19% นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงได้รับความนิยมมากกว่า และน่าจะเป็นเช่นนั้นในอีกนานหลายปีข้างหน้า นับต่อจากนี้ไปจนถึงปี 2035.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th 
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom 
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/