ส่องก่อนเปิดตัว ZEEKR 7X ของล้นแบบติดหรู

Zeekr แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนติดหรู ถือกำเนิดขึ้นในปี 2021 ตามด้วยการเปิดตัวรถยนต์ออกมาสองรุ่น นั้นก็คือ X ครอสโอเวอร์ไซล์กะทัดรัด และ 009 เอมพีวีไฟฟ้า ล่าสุด Zeekr ได้เปิดเผยแผนการที่จะเอาชนะใจลูกค้าทั่วโลก ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ อย่าง 7X SUV ทำให้ Zeekr กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ ของ Geely อย่าง Volvo รวมถึง Kia Hyundai Tesla หรือแม้แต่ Volkswagen ในยุโรป  

Zeekr เป็นแบรนด์จีนที่แม้จะเน้นตลาดยุโรปเป็นหลักแต่ก็มีการทำตลาดไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย Zeekr มีโรงงานตั้งอยู่ในประเทศจีน แต่แผนกออกแบบและวิศวกรร อยู่ในเมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ส่วนสำนักงานใหญ่ของ Zeekr ตั้งอยู่ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ทีมงานส่วนใหญ่เป็นคนยุโรป และรถยนต์ของ Zeekr ได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงรสนิยมของคนยุโรปเป็นหลัก ZEEKR ไปได้ดีในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขายในไทย เริ่มต้นขึ้นจากผลตอบรับที่เหนือความคาดหมายของ ZEEKR X  คอมแพคเอสยูวีคนเมืองยุคใหม่ และ ZEEKR 009 รถ MPV ไฟฟ้าสุดหรู เทคโนโลยีและออปชันลักชูรี ซึ่งทั้งสองรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถ MPV ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย นอกจากนี้ การตอบรับเมื่อเผยโฉม ZEEKR 7X ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2025 เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด SUV ที่กลายเป็นเมกะเทรนด์ทั่วโลก โดยเฉพาะ SUV ไฟฟ้า ซึ่งรถ ZEEKR 7X เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ในแง่ของการเดินทางระยะไกล ใช้งานเอนกประสงค์ มีความจุสัมภาระ ช่วยประหยัดพลังงาน 

หน้าตาของ Zeekr 7X ที่จะเปิดตัวในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ ดูเรียบหรู ออกแบบได้อย่างทันสมัยและเฉียบคมโดยดีไซน์ยุโรป  ความยาว 4.8 เมตร กว้าง 2.1 เมตร (รวมกระจกมองข้าง) 7X  มีขนาดใกล้เคียงกับรถคู่แข่งอย่าง Tesla Model Y  สิ่งที่ Geely ทำแบรนด์แยกย่อยได้อย่างชาญฉลาดคือ การผสานความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า เข้ากับทักษะการออกแบบที่มีอยู่ในรถยนต์บางยี่ห้อที่ Geely ซื้อมา รถยนต์คันนี้ได้รับการออกแบบในยุโรปที่ศูนย์ออกแบบระดับโลกของ Zeekr ในสวีเดน แน่นอนว่า รากเหง้างานดีไซน์ของยุโรปนั้นชัดเจนอยู่แล้ว และทำให้ 7X ดูโฉบเฉี่ยว ไฟหน้า Matrix LED   ไฟท้ายเพรียวบางเชื่อมโยงเป็นแนวเส้นทำให้สะดุดตา ทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้าจีนก็ออกแบบแถบไฟท้ายในลักษณะนี้อยู่แล้ว แต่7Xกลับให้มุมมองที่สร้างความแตกต่างไปจากยานยนต์ไฟฟ้าของเพื่อนร่วมสัญชาติ

ไฟหน้า ZEEKR Stargate ติดตั้งหน้าจอ LED พาดยาวจรดซ้ายไปขวาขนาด 93 นิ้ว ประกอบด้วยหลอด LED 1,831 ดวง  สื่อสารได้หลากหลายรูปแบบ สามารถแสดงตัวตนและอารมณ์ได้ ด้วยนวัตกรรมการแสดงลวดลายพิเศษเลือกได้ตามเอกลักษณ์ของผู้ขับ การเข้าออกรถยนต์ด้วย Automatic Doors ระบบประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติทั้ง 4 บาน ล้อ Forged Wheel ขนาด 21 นิ้ว ผลิตด้วยเทคโนโลยีการขึ้นรูปให้ได้น้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ช่วยลดน้ำหนักรถเพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ระบบเบรก Akebono Caliper สมรรถนะสูง เป็นอีกจุดที่สร้างความมั่นใจเมื่อใช้ความเร็ว  

มิติตัวถัง  ความยาว 4,787 - 4,825 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร สูง 1,650 - 1,666 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ wheelbase 2,900 - 2,925 มิลลิเมตร ขนาดความกว้างรวมกระจกมองข้าง 2,100 มิลลิเมตร 

ภายในของ Zeekr จัดวางแดชบอร์ดคอนโซลแลพอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างกลมกลืนโดยเน้นคุณภาพของวัสดุและโทนสีไปจนถึงผิวสัมผัส  รุ่นท็อปสเปก Zeekr 7X Preformance กว้างขวาง ให้ความรู้สึกหรูหราลและเอาเข้าจริงๆ มันมีภายในที่ดูดีกว่า Tesla  Model Y รุ่นใหม่ที่แม้จะตกแต่งห้องโดยสารให้ดีขึ้นก็ยังคงตามหลัง7X อยู่ดี จุดที่ยังคงพบเห็นได้ในแบรนด์รถไฟฟ้าจีนก็คือ การเอาทุกอย่างเข้าไปไว้ในจอภาพ !  7X นั้นยาวกว่าคู่แข่งเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความกว้างของภายใน พื้นที่เหนือศีรษะและช่วงขาที่ด้านหน้ากว้างขวาง ส่วนคนนั่งด้านหลังก็ไม่น่าจะรู้สึกอึดอัดเท่าไหร่ ผู้โดยสารสี่คนสูง 175-180 เซนติเมตร สามารถเดินทางไกลได้อย่างไม่น่าจะรู้สึกอึดอัดคับแคบ พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจุได้ 539 ลิตร (รวมพื้นที่เก็บของใต้พื้นรถบางส่วน)  ใต้ฝากระโปรงหน้าจุ  66 ลิตร พื้นที่เก็บของในห้องโดยสารถือว่าใช้ได้ แต่แท่นชาร์จไร้สายแบบคู่สไตล์ Tesla ที่โดดเด่นอาจรบกวนสมาธิหากมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตั้งอยู่ มันใช้ประโยชน์ได้น้อยกว่าช่องเก็บของกระจุกกระจิก

ใต้หน้าจอสัมผัสมีสวิตช์ควบคุมหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ การควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารการปรับกระจกมองข้าง ยังไม่สามารถหลีกหนีความเป็นรถจีนได้ ทุกอย่างถูกนำไปใส่ไว้ในจอกลาง แล้วสั่งงานด้วยระบบสัมผัส หน้าจออินโฟเทนเมนต์ คล้าย Tesla Model Y ด้วยขนาดที่เท่ากัน (16 นิ้ว) จอแสดงผลกราฟิกและการตอบสนองที่คมชัดระดับ 3.5K แต่ฟังก์ชันแยกย่อยเยอะเกินไป การใช้งานระหว่างเดินทางอาจไม่สะดวก ควรจอดรถและปรับตั้งค่าทั้งหมดก่อนออกตัวโดยเฉพาะกระจกมองข้างและอุณหภูมิ หรือความเร็วพัดลมแอร์  เมนูมากมายและไอคอนเล็กๆอยู่เต็มหน้าจอ ซึ่งต้องใช้เวลาเรียนรู้เพื่อทำให้การใช้งานคล่องขึ้น

เบาะนวดคู่หน้าแบบปรับอุณหภูมิและปรับอุณหภูมิได้หลากหลาย พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 16 นิ้วบางเฉียบพร้อมชิป Snapdragon จริงๆ แล้วผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้หน้าจอตอบสนองได้เร็วเป็นพิเศษ ความเป็นรถยนต์จีน ทำให้ไม่มีปุ่อะไรทั้งสิ้น คนขับควบคุมทุกอย่างผ่านหน้าจอ แต่จะมีหน้าจอดิจิทัลแสดงข้อมูลด้านหลังพวงมาลัย รวมกับจอแสดงผลบนกระจกหน้า HUD ขนาด 36 นิ้ว พื้นที่เหนือศีรษะและขาที่กว้างใช้ได้ พร้อมระบบ Isofix สองชุด เบาะนั่งเลื่อนไปด้านหลังได้ เพื่อให้เจ้าของรถสามารถจัดลำดับความสำคัญของผู้โดยสารหรือสัมภาระได้อย่างสะดวก Zeekr 7X ยังได้รับคะแนนระดับห้าดาวจาก Euro NCAP ในการทดสอบการชน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย 

Zeekr 7X มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 537 ลิตร ซึ่งถือว่ามากพอสมควร เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงเปรียบเทียบพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถกับ Tesla  แล้วเยอะกว่า เพราะแบรนด์อเมริกันออกแบบให้พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถสูงถึงหลังคาแทนที่จะเป็นฝากระโปรงท้าย  พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถของ Tesla น่าจะพอๆ กันกับ 7X นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของท้ายรถขนาดใหญ่ 62 ลิตรในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง หรือลดลงเหลือ 42 ลิตรในรุ่น Performance AWD  

ZEEKR 7X เริ่มต้นจากแนวคิด Hidden Energy Design Concept ปรัชญาการออกแบบสไตล์ยุโรป นำ Golden Ratio หรืออัตราส่วนทองคำ ซึ่งเป็นหลักคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการกำหนดสัดส่วนทุกองค์ประกอบของรถยนต์ ทำให้ได้รูปลักษณ์ที่สมดุล แนวคิด Hidden Energy Design Concept ทำให้ ZEEKR 7X แปลกใหม่ด้วยการซ่อนองค์ประกอบทางเทคนิคไว้ ภายนอกดูเรียบหรู ไม่ซับซ้อน เก็บพลังงานมหาศาลไว้ภายใน 

ห้องโดยสาร ZEEKR 7X ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่แห่งการผ่อนคลาย เบาะหนัง Nappa ปรับไฟฟ้า พร้อมระบบนวดและระบบปรับอากาศภายในตัวเบาะ วัสุดที่หุ้มเบาะมีความนุ่มและหรูหรา ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้า คลายความเมื่อยล้าหลังจากวันทำงาน  เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน หรือการชมภาพยนตร์ ทำให้ห้องโดยสารหลังเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติกับการออกแบบภายในที่คำนึงทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร และการผ่อนคลายที่เหนือระดับ

ระบบอินโฟเทนเมนท์ของ ZEEKR 7X ติดตั้งหน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K ให้ภาพที่คมชัด สามารถมองเห็นรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างชัดเจน  ทั้งการดูแผนที่ รับชมสื่อบันเทิง  การใช้แอปพลิเคชันต่างๆ หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว  ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นมาบนกระจกหน้ารถ  อ่านข้อมูลสำคัญในขณะขับเคลื่อนโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมด การทำงานของหน้าจอ ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm Process Technology  ประมวลผลรวดเร็วและราบรื่น ทำให้การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอทำได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ตอบสนองคำสั่งการ ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro ลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอ จำนวน 21 จุด รอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทาง 

Zeekr 7X long range RWD รุ่นรอง คาดว่าน่าจะมีราคาประมาณ 1,600,000 บาท +/- ไม่เกิน 2-3 แสน 

Zeekr 7X Performance AWD รุ่นท็อป คาดว่าน่าจะมีราคาประมาณ 1,850,000 บาท 

ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ในรุ่นสูงสุด Zeekr 7X Performance AWD กำลัง 637 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.8 วินาที ทำให้การออกตัวจากสัญญาณไฟแดงหรือการแซงเป็นเรื่องง่าย  ระบบขับเคลื่อน Intelligent AWD Lightning Switch  ปรับกำลังขับอัตโนมัติทันทีตามสภาพถนน ช่วงล่างถุงลม (Air Suspension) สามารถปรับระดับตามสภาพถนนเพื่อให้การขับขี่มีความนุ่มนวล โหมด Off-Road ช่วงล่างจะยกความสูงตัวรถได้ 230 มิลลิเมตร ZEEKR 7X ใช้ระบบไฟฟ้า 800V ทั้งระบบ ซึ่งรองรับการชาร์จเร็วแบบ 4C fast charging  เพียง 16 นาที จาก 10% - 80% (ขึ้นอยู่กับปริมาณไฟคงเหลือ กำลังไฟของตู้ชาร์จ และรูปแบบการใช้งาน  )  ทำให้การเดินทางระยะไกลไม่ใช่ข้อจำกัด ระยะทางวิ่งที่มากกว่า 700 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)  

แบตเตอรี่ การชาร์จ และประสิทธิภาพ 

Zeekr 7X  ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC ให้ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่  700 กิโลเมตร ส่วนรุ่น Long Range RWD ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC ให้ระยะทางวิ่งอยู่ที่  614 กิโลเมตร รุ่น Performance AWD ใช้แบตเตอรี่แบบเดียวกัน แต่ติดตั้งมอเตอร์แฝด หน้า-หลัง  มีกำลังแรงม้าสูงถึง 631 แรงม้า สามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.8 วินาที  

ต่างจาก Tesla Model Y ตรง ที่ Zeekr มี ระบบชาร์จไฟ 800V รองรับการอัดไฟกระแสตรง DC ถึง 420  กิโลวัตต์ ทำให้ Zeekr เป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จกระแสตรงเร็วที่สุดในโลก สามารถชาร์จไฟได้ 10-80% ใน 16 นาที แม้จะมีแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์ชั่วโมงติดตั้งอยู่ก็ตาม 

ระบบ Vehicle -to-load (V2L) จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้สูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ 

ความปลอดภัย..PRIORITY

ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัย โดยโครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ เพิ่มความปลอดภัยและน้ำหนักเบา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น.
Zeekr 7X SUV เปิดตัวพร้อมราคาในวันที่ 15 สิงหาคม 2568. 

อาคม รวมสุวรรณ

E-Mail chang.arcom@thairath.co.th 

Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps:// 

www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/