เคอร์วิสตาน แบงคอก (Curvistan Bangkok) ฉลองครบรอบ 1 ปี ด้วยนิทรรศการ Raceborn การถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตอันยิ่งใหญ่ของ Porsche ไฮไลต์สำคัญคือการนำ Porsche 956 รถแข่งในตำนาน ส่งตรงจาก พิพิธภัณฑ์ปอร์เช่ (Porsche Museum) ประเทศเยอรมนี มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ต ผลงานวิศวกรรมชั้นสูง และดีไซน์ร่วมสมัย ในนิทรรศการเดียวกันอย่างลงตัว
นิทรรศการ Raceborn เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม ถึง วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ที่เคอร์วิสตาน แบงคอก ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 38 ติดกับ BTS ทองหล่อ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00–21.30 น.
ในปี 1982 - 1989 รถแข่งรุ่นพิเศษ Porsche 956 และ 962 ครองความยิ่งใหญ่ในการแข่งขันรถสปอร์ต Group C ได้อย่างไม่มีใครเทียบ ด้วยทรงที่แหวกแนว เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 6 สูบนอนที่เตี้ย ยาว และทรงพลัง เชื่อถือได้ด้วยกลไกอันยอดเยี่ยม พร้อมหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อสร้างแรงกดตัวถัง ทำให้ 956 มีประสิทธิภาพสูงมากจนคว้าชัยชนะที่ La Sarthe ได้ถึงหกปีติดต่อกัน (ระหว่างปี 1982 ถึง 1987) สมรรถนะอันน่าทึ่งและประวัติอันยาวนานของ 956 ถูกถ่ายทอดออกมาในการแข่งขันระยะไกล พิสูจน์ถึงความทนทรหดของเครื่องยนต์และความเชี่ยวชาญของ ช่าง วิศวกร รวมถึงนักขับของทีม Porsche ได้เป็นอย่างดี
...
Porsche สร้างสิ่งที่มีความพิเศษในโลกแห่งมอเตอร์สปอร์ต เป้าประสงค์ก็คือ Porsche 956 จะเป็นรถแข่งที่ส่งเข้าร่วมทำการแข่งขันระดับโลกในทุกรายการ โดยลงแข่งขันในรายการ European World Sportscar Championship (WSC) และรายการ International Motor Sports Association (IMSA) แต่น่าเสียดายที่กฎความปลอดภัยใหม่ของ IMSA กำหนดให้ใช้โรลเคจเหล็ก รวมการป้องกันโซนการชนด้านหน้า เครื่องยนต์เทอร์โบคู่ ก็ไม่เป็นไปตามกฎของ IMSA เช่นกัน หมายความว่าเครื่องยนต์ 935 เทอร์โบคู่ ความจุ 3.0 ลิตรของ 956 จะไม่สามารถใช้งานได้ แต่ 962 คือ 956 ที่ปรับเปลี่ยนใหม่ตามกฎของ IMSA เพื่อให้ลงทำการแข่งขันได้อย่างถูกต้องตามกฎข้อบังคับ Porsche 956 มาพร้อมโครงตัวถังที่เบาแต่แข็งแรง ฐานล้อยาวขึ้น วางกล่องคันเร่งไว้บริเวณหลังซุ้มล้อหน้า เครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบเดี่ยวแบบวางกลางลำ ฐานล้อที่เพิ่มขึ้นนี้สามารถมองเห็นได้ระหว่างประตูที่ปิดสนิทกับซุ้มล้อหน้า แต่ถ้าใหญ่กว่านี้ จะเป็น 962
...
...
หากมองด้านข้างของรถจะสังเกตเห็นว่าส่วนหน้าของรถมีรูปทรงที่แตกต่างกันเล็กน้อย Porsche 956 มีส่วนโค้งลงยาวขึ้นจากด้านบนของซุ้มล้อ ไปจนถึงปลายจมูก ส่วน Porsche 962 จะเตี้ยกว่า ความยาวห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นจากส่วนยื่นด้านหน้าถูกตัดออกไป ส่วนด้านหลัง 962 รุ่นมาตรฐานที่ลงแข่งในรายการ IMSA มีท่อระบายไอเสียออกทางดิฟฟิวเซอร์หลัง ซึ่งแตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน WSC ที่จะปล่อยไอเสียออกทางด้านข้าง Poesche 962C เป็นการผสมผสานระหว่างดีไซน์ใหม่ของ 962 แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติสำหรับลงแข่งในรายการ WSC และ Le Mans รถแข่งรุ่นนี้มีความสามารถในการปรับตัวได้ดีมากจนทำให้ 956 บางคัน ต้องแปลงเป็น 962 ส่วน 962 IMSA และ WSC สามารถใช้แทนกันได้ แม้แต่ตัวถังที่เสียหายบางส่วนก็ยังได้รับการซ่อมแซมโดยใช้ชิ้นส่วนตัวถังทดแทนกันได้
956 รุ่นที่มีชื่อเรียกว่า 'Langheck' หรือ 'Longtail' ใช้ปีกหลังที่ยาวและเตี้ย แตกต่างจาก 962 ที่มีแรงกดสูงกว่า ปีกหลังสั้นและสูงกว่าโดยองค์ประกอบแบบระนาบเดียวถูกปรับให้เอียงทำมุมที่ดุดัน แน่นอนว่าปีกหรือวิงหลัง เป็นองค์ประกอบเสริมที่สำคัญในระบบอากาศพลศาสตร์ของรถ เนื่องจากต้องอาศัยแรงกดที่เกิดจากเอฟเฟกต์ใต้พื้นเป็นหลัก เชื่อกันว่ารถแข่งใยยุคนั้นซึ่งออกแบบให้วิงหลังสร้างแรงกดส่วนท้าย โดยทั่วไปจะมีแรงกดมากกว่ารถที่มีวิงหลังแบบ Longtail ซึ่งลื่นไหลเป็นสองเท่าและสามารถทำความเร็วได้เกิน 354 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบนทางตรงยาวที่เลอม็องส์ รถแข่งที่มีแรงกดส่วนท้ายสูงในยุคแรก ๆ เมื่อเปรียบเทียบแล้วมีแรงกดและพละกำลังมากกว่ารถ F1 ในยุคนั้นอย่างเห็นไดัชัด
...
นอกเหนือจากการพัฒนาของ Porsche ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่มีความจุหลากหลาย พร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงและเทอร์โบที่ต่างขนาดกัน รวมถึงเกียร์คลัตช์คู่ซึ่งกลายเป็นหนูทดลองที่ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพและถูกพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ การแข่งขันระยะไกลแบบเอนดูลานซ์ ทำให้มีช่างและวิศวกรของทีมแข่งที่ดัดแปลงรถเพื่อรับมือกับการแข่งขันที่ต้องขับไกลกว่า 3,300 กิโลเมตรใน 24 ชั่วโมง Lancia Mercedes-Benz และ Jaguar ต่างดึงเอาสมรรถนะอันยอดเยี่ยมออกมาจากรถแข่งของทีมบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่ชัยชนะอันหอมหวาน กล่าวกันว่าวิศวกรรมของ Porsche 956 นั้นล้ำหน้ากว่ายุคสมัยของมันไปไกลมาก ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำอนาคต ทำให้ Porsche กลายเป็นหนึ่งในรถแข่งที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล
ภายใต้การนำของ Norbert Singer วิศวกรที่เริ่มใช้ระบบส่งกำลัง Porsche Doppelkupplung (PDK) เป็นครั้งแรกในรถ 956 อีกหนึ่งสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือการพัฒนาเกียร์ห้าสปีด ระบบหัวฉีดแบบโปรเกรสซีฟและเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.6 ลิตร ทำให้ 956 มีกำลังสูงสุดถึง 620 แรงม้า นั่นคือในปี 1982 หลักอากาศพลศาสตร์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้ 956 ประสบความสำเร็จในสนามแข่งอย่างงดงาม ด้วยแรงกดอันทรงพลัง เกิดจากการออกแบบใต้ท้องรถและวิงหลัง ส่งผลให้ 956 สามารถทำความเร็วเข้าโค้งได้สูงมาก และทำลายสถิติบนสนามแข่งเกือบทุกที่ที่ลงทำการแข่งขัน ground effect ช่วยให้สามารถวัดความเร็วได้ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนทางตรง Mulsanne Straight ในสนาม Le Mans
Porsche 956 ไม่เพียงแต่คว้าแชมป์ FIA World Sportscar Championship ระหว่างปี 1982 ถึง 1984 ได้ทั้งหมดแบบกวาดเรียบ แต่ยังคว้าแชมป์ทั้งนักขับและทีมผู้ผลิตได้ทุกครั้งอีกด้วย นอกจากนี้ Stefan Bellof ยังขับ 956 (หมายเลขตัวถัง 007) รอบสนาม Nordschleife ของ Nürburgring ด้วยเวลา 6 นาที 11.13 วินาที ซึ่งยังคงเป็นสถิติที่อยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ เทคโนโลยีของ 956 ส่งผลให้ทีมแข่ง Porsche ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานเดอวินเนอร์อันยาวนาน นักแข่งที่ร่ำรวยและแฟนพันธุ์แท้รถแข่ง ต่างหลงใหลในสมรรถนะอันโดดเด่นของ 956 จนกระทั่งในปี 1983 -1984 วิศวกรของ Porsche ลงมือผลิตรถลอกเลียนแบบที่เหมือนกับ 956 เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้ามหาเศรษฐีซึ่งต้องการสะสมรถที่ครั้งหนึ่งเคยครองอันดับบนสุดของโพเดี้ยมมากที่สุดเป็นประวัติการณ์.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/