ตามแผนงานเดิม Volvo ใช้รถเอสยูวีเรือธงรุ่น EX90 ในการขับเคลื่อนเกมแห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อมุ่งตรงไปสู้เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในอนาคต ไม่ใช่แค่ในแง่ของความหรูหราและการขับ แต่ยังรวมถึง การออกแบบและเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนกับความปลอดภัยอีกด้วย กล่าวคือ Volvo กำลังป้องกันความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการต่อต้านยานยนต์ไฟฟ้าทั่วทั้งยุโรปรวมถึงที่อื่นๆ รถเอสยูวีเรือธง EX90 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SPA ซึ่งออกแบบเฉพาะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าล้วน รถยนต์รุ่นเดียวที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ก็คือ Polestar 3 ดังนั้น SPA จึงไม่ใช่แพลตฟอร์มของ Geely ที่อยู่ใน SUV จำนวนมากของแบรนด์จีน รวมถึงไม่ใช่แพลตฟอร์มของ Lotus Eletre แม้ว่าจะผลิตในจีนเหมือนกัน แต่ EX90 ที่ขายในยุโรปและอเมริกา จะมาจากโรงงานของ Volvo ในเมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา
...
ราคาของ Volvo EX90 (ประกอบในประเทศจีน)
Volvo EX90 Plus - Twin Motor 7 seats 408 แรงม้า 770 นิวตันเมตร 0-100 ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 745 กิโลเมตร ราคา 4,290,000 บาท
Volvo EX90 Ultra - Twin Performance 6 seats 517 แรงม้า 910 นิวตันเมตร 0-100 ใน 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 745 กิโลเมตร ราคา 4,890,000 บาท
Volvo EX90 Ultra - Twin Performance 7 seats 517 แรงม้า 910 นิวตันเมตร 0-100 ใน 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกล 745 กิโลเมตร ราคา 4,890,000 บาท
...
...
...
Volvo EX90 ออกแบบมาให้เป็นรถที่ปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบใหม่ล่าสุด การออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานเพื่อความสบาย รูปทรงทันสมัย ดีไซน์แบบฟรัช (Flush) เสริมแอโรไดนามิคส์ให้รถ (ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศ หรือค่าความต้านทานลม ที่ Cd 0.29) ห้องโดยสารกว้างและเอนกประสงค์ หน้าจอกลางแนวตั้ง ขนาด 14.5 นิ้ว พร้อม UI (user interface) ที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก
มิติตัวถัง มีขนาดความยาวรวม 5,037 มิลลิเมตร กว้าง 2,113 มิลลิเมตร (จากกระจกมองข้างซ้ายไปขวา) สัดส่วนความสูง 1,744 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,985 มิลลิเมตร ระยห่างล้อหน้า 1,672 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,676 ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 920 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หลัง 1,132 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 212 มิลลิเมตร (with air suspension) 210 มิลลิเมตร - 250 มิลลิเมตร จานเบรกหน้า 400 มิลลิเมตร - หลัง 390 มิลลิเมตร น้ำหนัก 2,712 กิโลกรัม
Volvo EX90 ทั้งรุ่น Twin Motor และ Twin Motor Performance ติดตั้ง แบตเตอรี่ขนาด 111 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์แม่เหล็กไฟฟ้าสองตัว ระยะทางการขับขี่สูงสุด 745 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (อ้างอิงผลการทดสอบที่ได้รับจากห้องปฏิบัติการภายใต้สภาวะที่มีการควบคุมเพื่อใช้ยื่นขอ ECO Sticker ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม)
รุ่น Twin Motor Performance กำลังขับสูงสุด 517 แรงม้า (380 กิโลวัตต์) แรงบิด 910 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.9 วินาที
รุ่น Twin Motor กำลังขับสูงสุด 408 แรงม้า (300 กิโลวัตต์) แรงบิด 770 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที
ระบบความปลอดภัยแบบ Safe Space Technology พร้อม Lidar และระบบ Driver Understanding System ทำให้ Volvo EX90 เป็นรถที่ปลอดภัยที่สุด + เครื่องเสียงระดับ Hi-Fi คุณภาพสูง แบรนด์ Bowers & Wilkins ระบบเสียง Dolby Atmos (ในรุ่น Ultra Twin Performance)
ระบบปฏิบัติการ Google Built-in มี Google Maps, Google Assistant และ Google Play อัพเดทซอฟต์แวร์ ผ่าน over-the-air
การออกแบบที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียด ทำให้ห้องโดยสารของ EX90 มีความเงียบมากกว่า สำหรับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่แห่งอนาคตในยานยนต์ไฟฟ้า ใช้การสั่งงานด้วยชิปประมวลผลอันทรงพลัง ซอฟต์แวร์ที่สามารถอัพเกรดประสิทธิภาพของตัวรถให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการนำเอาพลาสติกรีไซเคิล และพลาสติกชีวภาพมาใช้ 13% นำเอาเหล็กรีไซเคิล 23% มาใช้งาน นอกจากนี้ เนื้อไม้จริงทั้งหมดที่ตกแต่งภายในห้องโดยสาร ยังได้รับการรองรับมาตรฐาน FSC® certificate ซึ่งนำมาจากแหล่งป่าไม้ที่ถูกต้องตามหลักการทางสิ่งแวดล้อม ความสะดวกในการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้ารถหรูต้องการ EX90 ได้รับการคิดค้นมาอย่างดี อุปกรณ์ทุกอย่างออกแบบให้เป็นมิตรกับเจ้าของ ใช้งานง่าย ทันสมัยและสวยเรียบสะอาดตา คู่แข่งสายแข็งในตลาดรถพรีเมียมอย่าง Audi Q8 e-Tron, BMW iX และ Mercedes-Benz EQE SUV ล้วนเป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ แต่ EX90 ที่มีราคาแพงโด่งก็พร้อมที่จะเข้าต่อกรด้วยระยะทางและศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์คู่อันทรงพลัง
EX90 เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ มีความยาว 5,037 มิลลิเมตร ยาวกว่า XC90 100 มิลลิเมตร กว้างกว่าในอัตราส่วนตัวเลขที่ใกล้เคียงกัน แต่ดูขนาดของรถ EX90 ในสีดำ ไม่น่าจะใหญ่กว่าเดิม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการออกแบบและสีของตัวถัง เ Volvo นำปรัชญาการออกแบบที่เรียบง่ายมาใช้อย่างประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับที่ Range Rover เคยทำได้ในอดีต EX90 เหมือน XC90 แต่เรียบง่ายกว่า สะอาดตากว่า เป็น Volvo ยุคใหม่ที่มีส่วนหน้าคล้ายคลึงกับ ES90 ซาลูนยกสูงแนวครอสโอเวอร์ที่กำลังจะตามออกมาในเร็ววันนี้ ...
แบตเตอรี่สเก็ตบอร์ดขนาดยักษ์ 111 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ใช้งานได้ 107 กิโลวัตต์ชั่วโมง) SPA ทำให้พื้นรถแถวที่สองเรียบเสมอกัน มีพื้นที่วางเท้าที่เหมาะสมในแถวหลังด้วย และยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใต้พื้นห้องสัมภาระ EX90 จะมีที่นั่ง 6-7 ตำแหน่งในบางตลาด แถวกลางเป็นเก้าอี้กัปตันเพื่อความโปร่งโล่ง ระบบ Lidar ทำให้ระบบความปลอดภัยของ EX90 กลายเป็ยรถยนต์ Volvo ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ระบบสร้างภาพ 360 องศารอบตัวรถ โดย Lidar สามารถสแกนวัตถุขนาดเล็กบนถนนที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน นอกจากนี้ยังมีเรดาร์ภายในรถเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหรือหมาแมวถูกทิ้งไว้ในรถโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ขับ คอยเฝ้าระวังการขับเคลื่อนด้วยระบบความปลอดภัยที่รุดหน้าสุดๆ
การเชื่อมต่อระหว่างรถกับคลาวด์ แทนที่จะพัฒนาซอฟต์แวร์เอง Volvo ร่วมมือกับ Google เพื่อปรับให้ซอฟต์แวร์ Android ทำงานบนหน้าจอกลางขนาด 14.5 นิ้ว หน้าจอสัมผัสนั้นตอบสนองรวดเร็วปราศจากอาการหน่วง ออกแบบให้เข้ากับงานตกแต่งภายในดูสวยงาม ใช้งานได้ตามหลักตรรกะ เป็นหน้าจอสัมผัสเมื่อปุ่มหรือสวิตช์ส่วนใหญ่ถูกยกเลิกออกไป แต่ก็มีคำถามเมื่อ Volvo เปิดตัว EX30 เมื่อปี 2568 คำถามดังกล่าวก็คือ Volvo จัดการกับปัญหาด้านความปลอดภัยกับการเอาทุกอย่างไปไว้ในจอภาพอย่างไร ? หน้าจอคมชัดและทำงานรุดหน้าดีขึ้นมาก การผสานรวมนั้นลึกซึ้ง เช่น ปรับพวงมาลัย ควบคุมกระจกมองข้าง เปิดกระโปรงท้าย การใช้ระบบปรับอากาศ ระบบนำทาง การปรับเบาะนั่งให้เหมาะสม คุณสามารถควบคุมรถผ่าน Google จากที่บ้าน เพื่อปลดล็อกหรือตั้งอุณหภูมิในห้องโดยสาร ผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งก็คือกุญแจอีเล็กทรอนิกส์นั่นเอง EX90 ชาร์จไฟเร็ว สถาปัตยกรรม 400v แทนที่จะเป็น 800v สามารถชาร์จได้สูงสุด 250kW ชาร์จ 10-80% ใช้เวลา 30 นาที EX90 รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และยังมีวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 50 กิโลกรัม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เบาะหนัง Nordico ทำจากพลาสติกมือสองและน้ำมันสนที่ไม่ปล่อยมลพิษตกค้างในขั้นตอนการผลิต
EX90 Twin Motor Performance ทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุดของทั้งสองรุ่นจำกัดไว้ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รุ่น Performance ที่มีแรงบิด 910 นิวตันเมตรนั้นเร็วเอาเรื่อง แต่จะเร็วกว่ามากหากน้ำหนักไม่เกิน 2,787 กิโลกรัม ในโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน คุณไม่จำเป็นต้องมีแรงม้าเกิน 500 ตัว แต่ทุกวันนี้รถยนต์ไฟฟ้านั้นตัวหนักราวกับรถบรรทุก การมีกำลังสูง หมายถึงความมั่นใจของลูกค้า แต่พอเอามาใช้งานจริง แรงม้าแรงบิดขนาดนั้น เบรกธรรมดาติดรถดูจะมีพลังในการหยุดยั้งน้อยเกินไป
Volvo EX90 นำเสนอระบบความปลอดภัยใหม่ ด้วยชุดเซ็นเซอร์ Lidar (Light Detection and Ranging System) ระบบตรวจจับแสงและวัดระยะวัตถุที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาด้านหน้าของตัวรถ ทำงานโดยการส่งแสงเลเซอร์แบบ Pulse Wave ไปกระทบวัตถุหรือพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อคำนวนระยะที่แม่นยำ นอกเหนือจาก Lidar ตัวรถยังมีกล้อง 8 ตัว, เรดาห์ 5 ตัว และเซ็นเซอร์แบบอัลตร้าโซนิค 12 ตัวรอบคันเพื่อมอบมุมมอง 360 องศา แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ขับขี่ ซึ่งทำงานควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยอื่น ๆ ที่มากับรถเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การทำงานของฟังก์ชั่นช่วยเหลือ อาทิ ระบบช่วยการขับขี่ Pilot Assist และ ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนเลน Lidar ที่ติดตั้งอยู่บนรถ Volvo EX90 ในปัจจุบันจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลบนท้องถนน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปพัฒนาต่อยอดระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ของรถให้ตอบโจทย์การใช้งานในสภาวะแวดล้อมของถนนที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่การใช้งาน Volvo ภูมิใจในความเงียบของ EX90 เมื่อลองขับจากกรุงเทพฯ ไปยังราชบุรีทางทิศตะวันตก จุดเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงออกมาให้สัมผัสก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เช่น ความไวของคันเร่ง การควบคุมที่ความเร็วต่ำ การบังคับเลี้ยว (ที่แม่นยำมาก) การควบคุมที่เบาและง่ายดายค่อนข้างขัดแย้งกับขนาดและน้ำหนักตัว แรงส่งเมื่อกดคันเร่งเต็มที่ คุณจะรู้สึกได้ถึงแรงดึงหนักๆ ที่ทำให้รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว น้ำหนักของรถจะโผล่ออกมาให้รับรู้ก็ต่อเมื่อต้องเลี้ยวโค้งที่ความเร็วสูงเท่านั้น EX90 เพรียบพร้อมด้วยระบบช่วยขับ ระบบรักษาช่องทางและระบบควบคุมความเร็วด้วยเรดาร์ ซึ่งถือว่าดีมาก แต่การบังคับเลี้ยวมีการรบกวนจากระบบรักษาช่องทางเมื่อวิ่งไปทับเส้นแบ่งช่องเลนแม้แต่นิดเดียวระบบก็ทำงานแล้ว ผมพยายามที่จะปิดมันทิ้ง แต่การหาตำแหน่งปิด Lane Keeping Assist บนจอภาพที่ต้องล้วงเข้าไปในเมนูหลักในขณะที่รถกำลังขับเคลื่อนนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าใดนัก
EX90 ให้ความรู้สึกแบบสแกนดิเนเวียที่เก๋ไก๋อย่างเป็นธรรมชาติ ภายในสวยงาม โทนสีขาวสะอาดตาน่าใช้ วัสดุที่จับต้องได้นั้นนุ่มมือไปหมด การออกแบบที่ผ่อนคลายแต่ทันสมัย ในบรรดาคู่แข่ง มีเพียง BMW iX เท่านั้นที่ทำได้ดี แต่ EX90 ก็มีคุณภาพงานตกแต่งที่งดงาม แต่จะคุ้มค่ากับเงิน (ที่ต้องจ่ายแพงมาก) หรือไม่นั้น คงต้องถามใจคุณเอาเอง BMW iX Audi Q8 e-tron หรือ Mercedes EQE SUV เป็นคำถามในใจว่าทำไมถึงต้องเลือก Volvo หากต้องการรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในโลกใบนี้ ยังมีรถที่ไม่ต้องรอชาร์จ เพราะถ้าไม่ชอบการรอ โลกแห่งปลั๊กอินไฮบริดยังคงเปิดกว้างสำหรับคนที่ต้องเดินทางโดยไม่มีเวลาแวะชาร์จไฟ ส่วนรถคู่แข่งที่ถูกกว่าอย่าง KIA EV9 ซึ่งเป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดใหญ่พอๆกัน KIA EV9 ไม่ได้หรูหราเท่า Volvo EX90 ภายในไม่สวยงามเท่า มีพลาสติกที่ดูราคาถูก แต่กลับขับได้ดีพอๆกัน ใน ราคา 3,899,000 บาท ทำให้ KIA EV9 ถูกกว่า EX90 หนึ่งล้านบาท ไม่เคยคิดก็ต้องคิดกันเลยละครับ ....
EX90 ในโหมดปกติ ให้ความนุ่มนวลและเงียบงันบนท้องถนน เป็นความสุขส่วนตัวสำหรับการขับรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมเครื่องเสียงราคาแพง EX90 คล่องตัวกว่าที่คาด เมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักของมัน EX90 ให้ความรู้สึกถึงพลังและความสบายตัว เป็นรถครอบครัวที่คิดมาอย่างดี ห้องเก็บสัมภาระมีขนาดใหญ่ พื้นที่ภายในกว้าง เบาะนั่งที่ใช้งานง่ายและสัมผัสที่ชาญฉลาดของระบบอินโฟเทนเมนท์
EX90 ติดตั้ง เบาะนั่งคู่หน้าบนฐาน จึงมีพื้นที่ให้ผู้โดยสารแถวกลางวางเท้าใต้เบาะได้ ส่งผลให้มีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางพอสมควร รวมถึงมีพื้นที่เหนือศีรษะด้วย หลังคาพาโนรามิกเต็มความยาวค่อนข้างร้อนในวันทดสอบที่มีแดดจัด การเอียงหรือพับเบาะแถวกลางนั้นทำให้ EX90 แตกต่างจากรุ่นอื่น เพียงแค่ใช้มือข้างเดียว เพื่อเอียงและเลื่อนเบาะแถวสอง เพื่อเข้าถึงพื้นที่เบาะแถวที่สาม หรือพับเบาะใต้ฐานก็ได้ งหมายความว่าคุณสามารถอุ้มเด็กที่กำลังง่วงนอนด้วยแขนอีกข้าง และทำให้ขั้นตอนทั้งหมดง่ายขึ้นมาก เบาะนั่งด้านหลังพับด้วยระบบไฟฟ้าโดยใช้ปุ่ม ห้องเก็บสัมภาระค่อนข้างเล็กเพราะมีที่นั่งถึงเจ็ดที่นั่ง
พื้นที่เก็บสัมภาระ แม้จะยกเบาะขึ้นทั้งหมดแล้วก็ยังมีพื้นที่ 310 ลิตร เมื่อพับเบาะลงแล้ว พื้นที่ขนาดแผ่นรองจะมีให้ที่ 655 ลิตร เมื่อพับแถวกลาง วัดถึงหลังคา ก็จะได้ 1,915 ลิตร เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าก็สามารถพับได้ หากจำเป็นต้องขนของชิ้นใหญ่ ประตูท้ายรถที่ยกขึ้นจะแสดงให้คุณเห็นว่าสิ่งของใดที่สามารถใส่ในท้ายรถแต่ละแบบได้ ไม่จำเป็นต้องวัดขนาดก่อนไปที่ Ikea เพื่อซื้อของเข้าบ้านชิ้นโตๆ ยังมีช่องเก็บของด้านหน้าขนาด 34 ลิตร มีช่องเก็บของที่มีประโยชน์มาก (และขนาดใหญ่) ใต้พื้นท้ายรถ
ช่องใส่แก้วน้ำกลับแคบเกินไป ที่วางแก้วน้ำจริงๆ อยู่ที่ที่วางแขนตรงกลางซึ่งอยู่ในเบาะกลาง แน่นอนว่าถ้ามีคนนั่งที่เบาะ ก็จะไม่มีที่วางแก้วน้ำ มีช่องเสียบ USB ประมาณครึ่งโหลอยู่ทั่วทั้งห้องโดยสาร และระบบปรับอากาศ 4 โซน พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับทุกแถวก็ส่งไอเย็นได้ดีในวันที่อากาศร้อนจัด เพียงแต่ต้องหาม่านหลังคา หรือไม่ก็จัดฟิลม์ที่ป้องกันแสงและช่วยลดอุณหภูมิได้มากกว่าเดิม
เบาะนั่งนุ่มสบายรองรับสรีระได้ดี การออกแบบมีความสดใหม่และทันสมัย มีพื้นที่เก็บของมากมาย ตำแหน่งการขับขี่ดีเยี่ยม พวงมาลัยมีขนาดเล็กและมีขอบไม่หนาเกินไป ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การขับขี่ดีขึ้น และคุณภาพและวัสดุก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น นับเป็นการก้าวไปอีกขั้นจาก XC90 คล้ายกับ Range Rover มากขึ้น การออกแบบและเค้าโครงมีความเรียบง่าย ไอคอนขนาดใหญ่และตอบสนองรวดเร็วมาก การนำทางค่อนข้างง่าย และ Google Maps ก็ผสานรวมได้ดีและใช้งานได้รวดเร็วมากจนเราไม่พบว่าตัวเองใช้ Apple CarPlay และ Waze โดยอัตโนมัติ เมนูก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลเช่นกัน
จอสัมผัสต้องละสายตาจากถนนในขณะที่ใช้งาน แม้ Volvo จะอ้างว่ามีระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น แต่ชัดเจนว่าไม่เต็มใจที่จะต่อต้านกระแสหน้าจอสัมผัสเนื่องจากความนิยมซึ่งใช้งานจริงควรปรับตั้งในขณะที่รถกำลังจอดมากกว่ากำลังวิ่ง มีปุ่มคลิกบนคอนโซล แต่ฟังก์ชันการใช้งานมีจำกัด การควบคุมด้วยเสียงผ่าน Google ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ทุกอย่างอยู่ในหน้าจอ ตั้งแต่การปรับพวงมาลัยไปจนถึงการเปิดกระโปรงท้ายรถ ทั้งหมด ใช้เวลานานในการค้นหาและใช้งาน Volvo อ้างว่าจะตั้งค่าครั้งเดียวแล้วปล่อยทิ้งไว้ก็ได้ แต่หากมีความจำเป็นต้องลดกระจกมองข้างลงเมื่อถอยรถ เรารู้ดีว่าการต้องกดหาท่ีหน้าจอเพื่อเลือกสวิตช์กระจกคู่เดียวที่จะควบคุมกระจกหน้าหรือกระจกหลังนั้นเป็นเรื่องประหลาดและใช้งานไม่สะดวกเท่ากับสวิชท์กระจกมองข้างแบบเดิม
การตอบสนองของพวงมาลัยอย่างละเอียด ด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบทำตามที่สั่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่สั่ง มันสามารถทำได้ดี ตอบสนองต่ออินพุตอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกหนักเมื่อต้องบังคับเลี้ยวในย่านความเร็วต่ำ ไม่เทอะทะและปกปิดน้ำหนักได้ดีเมื่อขับในเมือง แทบไม่มีเสียงลมหรือเสียงยาง เสียงช่วงล่างนั้นไม่มีเลย EX90 เคลื่อนที่ได้อย่างเงียบเชียบ รุ่น Performance มีโหมด Performance ซึ่งหาได้ง่าย โดยจะกดที่หน้าจอโฮมเพจ โหมด Performance จะทำให้การตอบสนองของคันเร่งดีขึ้นและควบคุมเฟืองท้ายแบบกลไก EX90 ยึดเกาะถนนได้แน่นขึ้นเมื่อเข้าโค้ง ให้ความรู้สึกมีส่วนร่วมและกระตือรือร้น เป็นความคล่องตัวในการวิ่งทางไกลและความสะดวกสบายในการขับในเมือง EX90 มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติแบบ Tesla ที่ใช้งานง่าย แค่ดึงคันเกียร์ลงขณะขับขี่ก็พร้อมใช้งานแล้ว EX90 ยังมีทัศนวิสัยรอบด้านที่ดี การควบคุมมอเตอร์/คันเร่งที่ความเร็วต่ำ ทำให้รถรุ่นนี้แตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆเพราะวิ่งได้นวลมาก นอกจากนี้ ยังมีวงเลี้ยวที่ค่อนข้างแคบอีกด้วย
รถ Volvo ไฟฟ้าที่มีกำลัง 517 แรงม้า กับแรงบิด 910 นิวตันเมตรนั้นรวดเร็วและมั่นใจมาก เร่งความเร็วขึ้นและลงได้อย่างนุ่มนวล ทั้งสองรุ่นมีประสิทธิภาพการกินไฟเท่ากันที่ 4.6 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง ตาม WLTP จากแบตเตอรี่ 107 กิโลวัตต์ชั่วโมงอยู่ที่ 5.6 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง การขับขี่ไม่ต้องควบคุมอะไรมากนักนอกจากปรับจอให้ทุกระบบเรียบร้อยตามที่ต้องการก่อนเคลื่อนตัว EX90 ขับง่าย แม่นยำและแรงเอาเรื่อง เป็นรถที่พาคุณและครอบครัวไปถึงที่หมายโดยไม่ทำให้หงุดหงิด ทุกวัน มันจะทำหน้าที่ที่คุณต้องการได้อย่างราบรื่น แต่อยากบอก Volvo Car Thailand ว่า ....ช่วยลดราคาลงมาหน่อยเถอะครับ.
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/