Audi A6 รหัสตัวถัง C8-series เปิดตัวในปี 2018 มาจนถึงรุ่นปรับโฉม 2023-2025 เป็นรถซาลูนสี่ประตูที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ตอบสนองได้รวดเร็ว  เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นทางเลือกที่ ฉลาดและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ สำหรับลูกค้าระดับ Executive  ที่กำลังมองหารถซาลูนหรือเอสเตทอย่าง BMW 5-Series, Mercedes-Benz E-Class หรือ Lexus ES ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า สร้างความแตกต่างให้กับรถรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรถคู่แข่งที่มีเพียง Lexus ES เท่านั้นที่ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้า แต่ยานพาหนะของ Ingolstadt ได้นำเสนอความคล่องตัวที่เหนือกว่า A6 C8  ได้รับการปรับปรุงใหม่ ด้วยเทคโนโลยี Mild Hybrid ความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติระดับชั้นนำ ระบบเชื่อมต่อสื่อสาระบันเทิงทันสมัย (แม้ MMI ของมันจะออกมานานแล้ว)  ดีไซน์ห้องโดยสารที่เรียบหรู ทั้งหมดเน้นการใช้งานจริง 

...



ปัญหาใหญ่ที่สุดของ Audi A6 คือคู่แข่ง Mercedes E-Class และ BMW 5 Series ดูทันสมัยกว่า แม้จะไม่ได้โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง แต่ Audi A6 40TFSI รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า ก็เป็นรถซาลูนสี่ประตูที่มีการขับขี่ดีงามน่าประทับใจ ภายในห้องโดยสารหรูหรา แม้จะเปิดตัวมาห้าปีแล้ว เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เล็กแต่ทรงพลัง ในความเป็นจริง ทุกวันนี้ รถยนต์ซาลูนไม่ค่อยเป็นที่นิยมในตลาดหลัก  ยอดขายของรถ SUV ขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้จริงแซงหน้ารถสี่ประตูไซล์กลางแบบไม่เห็นฝุ่น แต่รถยนต์ซาลูนระดับพรีเมียมสำหรับผู้บริหารอย่าง Audi A6 ยังคงได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ ด้วยภาพลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และความนิยมแนวรถยนต์ประจำตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูง

...

...

Audi A6 ถือเป็นตัวเลือกที่ค่อยนข้างแตกต่าง แต่ก็มีความครบครันด้านอุปกรณ์  แม้จะไม่ทันสมัยเท่า เมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่ง อย่างเช่น Mercedes E-Class ที่เน้นความสะดวกสบาย และ BMW ซีรีส์ 5 ที่เน้นการขับมากกว่านั่งเบาะหลัง การเปิดตัว New Series-5 และ Mercedes-Benz New E-Class รุ่น ใหม่ในปี 2024 ทำให้ A6 ที่ขายมานานแล้วดูล้าสมัย แต่เมื่อผ่านเวลามาหกปี ดูดีๆ ยังไง A6 ยังคงเป็นรถยนต์ของผู้บริหารที่เ้นไดนามิกของการขับเคลื่อนมากกว่าจะไปนั่งที่เบาะหลัง  ตัวถังที่มีสไตล์เขร่งขรึม ดูเป็นผู้บริหารใกล้เคียงกับ A8L ไฟหน้าและกระจังหน้าขนาดใหญ่ ทำให้ส่วนหน้าของรถดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์  ห้องโดยสารใช้วัสดุตกแต่งภายในคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกหรูหราสมกับเป็นรถซาลูนราคาแพง การออกแบบเรียบง่ายแต่หรู บางส่วนเหมือนกับ Audi A8 สำหรับจอาพ Audi A6 ทุกเวอร์ชันไม่ได้มีเพียงหน้าจอเดียว แต่มีถึงสามหน้าจอที่ด้านหน้า หน้าปัดดิจิทัล Virtual Cockpit  หน้าจออินโฟเทนเมนต์หลักอยู่เหนือหน้าจอสัมผัสอีกจอหนึ่ง 

...



A6-series C8  เปิดตัวในช่วงกลางปี 2018  เป็นการตีความด้านไดนามิกที่เชื่อมโยงกับประสิทธิภาพของระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล แน่นอนว่า เครื่องยนต์ของ Audi เป็นขุมกำลังที่มีประสิทธิภาพ มาพร้อมระบบไฮบริด  MHEV  ห้องโดยสารยังคงความเป็นยานยนต์สี่ห่วง เน้นความเรียบหรู  หน้าจอสัมผัส มาตรวัดดิจิตอลปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้สี่แบบ การออกแบบภายนอกที่โฉบเฉี่ยว พร้อมกับโครงสร้างตัวถัง MLB EVO ที่แข็งแกร่งจากอะลูมิเนียมขึ้นรูป ล้อขนาดใหญ่ รุ่น S Line, Black Edition  ไฟหน้า LED, ระบบนำทางผ่านดาวเทียม, กล้องมองหลัง, เบาะหนัง  , ระบบปรับอากาศแบบสองโซน และวิทยุ DAB

ทุกอย่างเป็นผลงานที่โดดเด่นของ Vorsprung Durch Teknic  ในปี 2019 กลุ่มยานยนต์สี่ห่วงไซล์กลางโมเดล A6 ได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ด้วยรุ่น Avant แบบ all-road (ซึ่งผลิตได้แค่สองปี) และ RS 6 Avant สมรรถนะสูง (ซึ่งผลิตไปจนถึงการสิ้นสุดสายการผลิต A6 รหัส C8) ในปี 2020 A6 PHEV 50 TFSI e เป็นรถที่มีสมรรถนะสุดยอด  การปรับโฉมในปี 2023  ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ A6  สิ้นสุดสายการผลิตลงในปลายปี 2024 และถูกแทนที่ด้วย A6 เจเนอเรชันใหม่รหัส C9 ในช่วงต้นปี 2025

จากผลการวิจัยของ Audi ลูกค้า A6 ให้ความสำคัญกับดีไซน์ภายนอกที่เรียบง่าย เหนือสิ่งอื่นใด ฟิลลิ่งหลังพวงมาลัยต้องโดนใจ งานตกแต่งภายในของA6 ด้วยสไตล์ที่พัฒนาอย่างพิถีพิถันของรถ C8-series เจเนอเรชั่นที่แปด  ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Saloon หรือ Avant  สัดส่วนที่สมดุลทำให้ A6 ดูทันสมัย  โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถรุ่นพี่อย่าง A8 Saloon และ A7 Sportback  หมายความว่าพื้นผิวที่กระชับ ขอบที่คมชัด เส้นสายที่โดดเด่น และส่วนยื่นที่สั้น มีอยู่ครบถ้วนใน Audi ยุคใหม่



A6 เป็นรถหรูแนว Executive ไซล์กลางที่ออกแบบอย่างประณีตและผลิตในเยอรมนี มีความยาวเกือบ 5 เมตร  กว้าง 2 เมตร  สูงเพียง 1.4 เมตรกว่าๆ  รูปทรงดูเหมือนจะตกยุคแต่มีความหรูหราคลาสสิก  ส่วนรุ่น Avant ที่ผมเคยขับเมื่อสี่ปีก่อน มีความยาวเท่ากับรุ่น Saloon แต่สูงกว่า 10 มิลลิเมตร เสน่ห์ของ Vorsprung Durch Teknic  ถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยมใน A6 ซึ่งเป็นรถที่ให้ความรู้สึกแตกต่างด้วยเทคโนโลยีที่สูสีกับคู่แข่ง มิติตัวถังของ Audi A6 40TFSI S Line มีขนาดความยาว 4,939 มิลลิเมตร กว้าง 1,886 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,924 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,630 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,617 มิลลิเมตร ระยะโอเวอร์แฮงค์หน้า 920 มิลลิเมตร หลัง 1,090 มิลลิเมตร  


ภายในห้องโดยสารติด....ตั้งหน้าจอสามหน้าจอ  สองหน้าจอแรกเปิดใช้งานทันทีที่เปิดประตู  ส่วนบนและส่วนล่างของคอนโซลกลางที่ตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ค จอแสดงผลด้านบนโค้งมนเล็กน้อย แสดงฟังก์ชันสำคัญๆ ของวิทยุ สื่อสาระบันเทิง และโทรศัพท์มือถือ  หน้าจอขนาด 8.6 นิ้วด้านล่าง ออกแบบให้ใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมฟังก์ชันควบคุมระบบปรับอากาศ ทั้งสองหน้าจอทำงานร่วมกับหน้าจอแสดงข้อมูล 'Audi Virtual Cockpit' ขนาด 12.3 นิ้ว  ผ่านพวงมาลัยสามก้าน เบาะปรับไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบนวด เบาะมาพร้อมตราสัญลักษณ์ S Line รวมถึงการตัดเย็บเดินตะเข็บที่ประณีตและมีโทนสีเคร่งขรึม


โซนการใช้งานอุปกรณ์ในตำแหน่งคนขับออกแบบได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่แพรวพราวเท่า BMW G60 แต่เน้นความสุขุมสไตล์รถผู้บริหารสูงวัยที่ชอบขับเอง เบาะหลัง จากความยาวภายในที่เพิ่มขึ้น 21 มม. คนนั่งหลังที่มีความสูง 185เซนติเมตร สามารถนั่งหลังคนขับที่มีสัดส่วนความสูงพอๆกันได้ Audi ระบุว่าด้วยดีไซน์ C8 พื้นที่วางขาด้านหลังจะเพิ่มขึ้น 17 มม. และพื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้นอีก 10 มม.ด้านหลังบริเวณใต้ฝาท้าย มีพื้นที่เก็บสัมภาระมีขนาดใหญ่  ยกฝากระโปรงท้ายขึ้น คุณจะพบพื้นที่เก็บสัมภาระทั้งหมด 530 ลิตร หากต้องการพื้นที่เพิ่ม พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายสามารถขยายได้โดยการพับเบาะหลังแบบแยกส่วนโดยพับไปข้างหน้า  

วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร Aluminium Fragment เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Valcona เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sport เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory Seat เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 40 : 20 : 40 แดชบอร์ดหน้า และ แผงประตูส่วนบน หุ้มด้วยหนัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ 4-Zones ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง พวงมาลัย Multifunction แบบสปอร์ตท้ายตัด แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ม่านบังแดดประตูคู่หลัง ซ้าย-ขวา ม่านบังแดดกระจกบังลมหลัง เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบกุญแจ Comfort Key ไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร Contour / Ambient Light ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า Auto Tailgate ระบบเปิด-ปิดฝาท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate

Audi MMI

ชุดมาตรวัด Virtual Cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลแบบสีดิจิตอล 3 มิติ ระบบ MMI Navigation Plus with MMI Touch Response รองรับ MP3 หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอควบคุม Multifunction แบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน Haptic ขนาด 8.6 นิ้ว ระบบ Audi Smart Phone Interface ระบบเสียง Audi Sound System ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB

A6 40TFSI ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่แบบไดนามิก ถือเป็นก้าวสำคัญในเรื่องของการควบคุม รุ่นสี่สูบระดับเริ่มต้น แหวกแนวด้วยการส่งกำลังผ่านล้อหน้า วิศวกรของ Audi สร้างแชสซีส์ MLB-Evo ที่แข็งแกร่ง พวงมาลัยแบบแปรผัน 'Progressive' ที่ตอบสนองได้ฉับไว ระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ (Adaptive Damping System) ที่เป็นอุปกรณ์เสริมประสิทธิภาพสูง  เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร แถวเรียงสี่สูบ เบนซินเทอร์โบ ติดตั้งเทคโนโลยี Mild Hybrid 12V MHEV ล่าสุดของ Audi โดยใช้ระบบไฟ 12V ในรุ่นสี่สูบ และระบบ 48V ในรุ่น V6 ผลลัพธ์ที่ได้คือแรงบิด พละกำลัง และการตอบสนองของคันเร่งที่ดีขึ้น  เทคโนโลยีของระบบขับเคลื่อนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานโดยเฉพาะการขับทางไกลที่ความเร็วคงที่ (พร้อมฟังก์ชันดับเครื่องยนต์ขณะยกคันเร่ง)  

แม้จะตกโฉมไปแล้ว แต่การปรับปรุงครั้งใหญ่ของ A6 ซึ่งเป็นการปรับแต่งทุกองคาพยบที่วิศวกรของ Audi  ทุ่มเททุกอย่างระหว่างกระบวนการพัฒนาในช่วงไมเนอร์เชนจ์ เพื่อทำให้รถรุ่นนี้ขับได้ดีกว่าเดิม พวงมาลัยไม่ได้คมกริบนักเนื่องจากเป็นซีดานระดับผู้บริหาร ไม่ใช่ RS6 แต่เมื่อเทียบกับ A6 รุ่นก่อนหน้า ด้านหน้าของรถจะเชื่อมต่อกับจานเบรกที่ต้องจับให้แน่น และให้การตอบสนองที่นุ่มนวล การยึดเกาะถนนดี  แร็คพวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในโหมด Comfort  น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในโหมด Dynamic สมรรถนะของมันให้ความรู้สึกค่อนข้างลงตัว แม้กำลังจะไม่มากแค่ 190 แรงม้า แต่แรงบิดมาเต็ม 320 นิวตันเมตร ก็ทำให้แซงรถช้าได้อย่างเด็ดขาด ด้วยอัตราทดเกียร์ 7 สปีดที่ลงตัวและครอบคลุม ระบบเกียร์อัตโนมัติ S-Tronic 7 สปีด ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อความประหยัดอีกด้วย 

A6 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 4 สูบ 2.0 ลิตร 140 กิโลวัตต์ 190 แรงม้า /320 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด 'S tronic' ที่ขับเคลื่อนล้อหน้าได้ลื่นไหลกว่าเครื่องยนต์ V6 ไม่ทรงพลังเท่าแต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน แถมราคายังพอจะคุยกันรู้เรื่อง  โดยธรรมชาติแล้วระบบส่งกำลังเครื่องเล็ก 2.0 ลิตร ไม่สามารถสร้างความมีชีวิตชีวาได้มากเท่ากับเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 250 กิโลวัตต์ 450 แรงม้า /500 นิวตันเมตรของรุ่น 55 TFSI ในความเป็นจริง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.2 วินาทีนั้นยังถือว่าค่อนข้างเร็ว และคงไม่ต้องการกำลังที่มากขึ้นเมื่อใช้งานในชีวิตประจำวันเน้นขับเรื่อยๆ สบายๆ มากกว่าจะดันกันสุดคันเร่ง การขับขี่บนถนนลาดยาง เส้นทางลงใต้ ให้ความรู้สึกสบายอย่างเป็นธรรมชาติบน A6 ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าขับได้ดีสมราคาและศักดิ์ศรีความเป็นรถผู้บริหาร พวงมาลัยหน่วงน้ำหนักไปตามโหมดที่เลือกและสปีดความเร็วโดยปรับน้ำหนักการหน่วงได้ดี  จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำกับน้ำหนักที่เบาขึ้นเพราะไม่มีชุดขับสี่ ทำให้รู้สึกมั่นคงและเกาะถนนเอาเรื่องเลยทีเดียว มันขับได้สูสีกับ 520d และ E350e แม้จะไม่แรงเท่าแต่ก็ไม่ได้เป็นรถที่มีตีนปลายแย่ เพราะสามารถพุ่งทะยานไปได้ถึง 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเครื่อง 40 TFSI ซึ่งเป็นเครื่องสองลิตรเบนซินแถวเรียงอัดอากาศด้วยเทอร์โบของแบรนด์สี่ห่วงที่มีเรี่ยวแรงน้อยที่สุด

ช่วงล่างมาตรฐานให้สมดุลที่ดีระหว่างความสบายและการควบคุมรถ  ฐานล้อที่กว้างและจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำทำห้การใช้ความเร็วสูงไม่สร้างความเครียดแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่ยังคงมีอาการเอียงตัวเล็กน้อยเมื่อเข้าโค้งมุมแคบเร็วๆ ระบบช่วงล่างแบบปรับได้ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจ S Line ช่วยลดอาการโคลงตัวทางด้านข้างได้อย่างมาก ด้วยโหมด ไดนามิกที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับโช้คอัพและพวงมาลัยไฟฟ้า โหมด Comfort เครื่องยนต์ลดการตอบสนองลงมาเล็กน้อย ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและมั่นคง  ล้อขนาด 19 นิ้ว เหมาะสมมากกับถนนในประเทศไทย แก้มยาง 45 ก็ถือว่าสูงพอสมควร เน้นความนุ่มนวลและผ่อนคลายได้ดีกว่าแก้มเตี้ย 35 Series


คำว่า "คุ้มค่า"ไม่ค่อยถูกใช้ในการซื้อรถยนต์หรูหรา แต่กลับเป็นคำสำคัญที่สุดในการใช้งานจริง ในยุโรปและอเมริกา A6 ของ Audi ประสบความสำเร็จในการนำเสนอรถยนต์ระดับพรีเมียม ส่วนประเทศไทย A6 40 TFSI มาในราคาต่ำกว่า 3.5 ล้านบาท โดยไม่มีการลดทอนประสิทธิภาพใดๆลงไปแม้แต่น้อย เมื่อใช้งานปกติไม่ได้เน้นขับเร็ว การไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพการวิ่งทางไกลของ A6 40TFSI S Line ลดลงแม้แต่น้อย เมื่อมองแยกกัน A6 เหมาะสำหรับการใช้เวลาในการขับรถทางไกลด้วยความผ่อนคลาย ภายในเงียบสงบ สะดวกสบาย อุปกรณ๋์อำนวยความสะดวกครบครัน  เทคโนโลยียังไม่ถือว่าล้าสมัย เป็นยาน USS Enterprise ด้วยพื้นที่กว้างขวาง ครบเครื่องสำหรับผู้บริหาร เป็นรถที่ดูสุขุมน่าขับ แต่ก็ยังคงไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในเรื่องการควบคุม   วิศวกรของ Audi  หาวิธีการจัดการกับช่วงล่างของ รถผู้บริหารได้อย่างลงตัว และแม้จะขับเคลื่อนสองล้อหน้า ไดนามิกที่ชัดเจนของมันก็พอจะปะทะกับรถขับหลังราคาสูสีกันได้อย่างสบายๆ  


 A6 Sedan 40 TFSI S-Line  3,399,000 บาท นำเข้าจากเยอรมันโดย Meister Technik ผู้แทนจำหน่าย Audi Thailand รับประกัน Warranty 5 ปี หรือ 150,000 km. พร้อม 24hr Road-side Assistant บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 ปี  

ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว 9J x 19″ ยางขนาด 245/45 R19 พร้อมยางอะไหล่ พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ระบบเบรกคู่หน้าแบบสี่พอต ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดิสก์เบรก ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Start / Stop System ไฟหน้าพร้อมระบบอัตโนมัติ Matrix LED ไฟ Daytime Running Light แบบ LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor กระจกมองข้างแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า กระจกมองข้าง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง Memory ระบบเลือกโหมดการขับขี่ Audi Drive Select ชุดตกแต่งภายนอก S-Line

ระบบความปลอดภัย

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
ระบบกระจายแรงเบรก EBD
ระบบเสริมแรงเบรก BA
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
ระบบล็อคเบรกขณะหยุดนิ่ง Audi Hold Assist
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
กล้องมองภาพขณะถอยจอด
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า และ ด้านหลัง
จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 5 สี

สีขาว Glacier White Metallic

สีเงิน Floret Silver Metallic

สีดำ Mythos Black Metallic

สีเทา Daytona Grey Pearl Effect

สีน้ำเงิน Firmanent Blue Metallic

ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 สี

สีดำ Jasper Black

สีน้ำตาล Okapi Brown


Performance
Engine  line 4 cylinder  
Power Output 140 kW (190hp)
Torque 320 Nm
Top Speed 237 km/h
Acceleration (0 -100km/h) 7.2
Steering Electromechanical progressive steering
Drive Type Front Wheel Drive
Transmission 7 speed S tronic
Suspension  Sports suspension
Wheels 19”
Fuel Consumption 5.6 - 6.0L / 100km
Keyless
Speakers
Ambient lighting
MMI Navigation Plus with MMI touch
Audi Virtual Cockpit
Audi smartphone interface
Electric Tailgate
 Audi Pre Sense
Exit warning system
Parking Aid Plus
CameraSide Assist (Lane change assist)
Hold Assist
Drive Select

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/