พนักงานส่งพัสดุโดนฟัน 5 แผล เย็บ 24 เข็ม หลังไปทวงเงินค่าพัสดุจำนวน 225 บาท หลังผู้ก่อเหตุบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย เจ้าตัวกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมรีบประสานปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เข้าช่วยเหลือ
เวลา 14.00 น. วันที่ 14 พ.ค. 68 ที่ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นายธนธัส ขุนนุช ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้พา นายธนภัทร อายุ 20 ปี พนักงานส่งพัสดุ เข้าพบ พ.ต.อ.พิชญุตม์ โกสุม ผกก.สภ.อัมพวา เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจากผู้เสียหายถูก นายสุรสิทธิ์ อายุ 27 ปี ใช้อาวุธมีดฟันทำร้ายผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าผาก 2 แผล, ฝ่ามือด้านซ้าย จำนวน 1 แผล, หน้าอก 1 แผล และหูซ้าย 1 แผล รวม 5 แผล เย็บ 24 เข็ม และถูก น.ส.พิมลนาฏ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของ นายสุรสิทธิ์ ผลักหน้าอกและใช้เท้าเตะขาผู้เสียหายให้ล้มลง สาเหตุเกิดจากไปทวงเงินค่าพัสดุจำนวน 225 บาท ที่ผู้ก่อเหตุบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่าย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 10 ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 68 เวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา
...
นายธนภัทร ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานบริษัทส่งสินค้าเอกชน ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 16.00 น. ได้มาส่งพัสดุสินค้าที่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีผู้ใดอยู่บ้าน ตนจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับ น.ส.พิมลนาฏ ตกลงกันว่าจะโอนเงินค่าสินค้าให้ มูลค่า 225 บาท ให้กับตน จึงได้วางสินค้าไว้ที่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณ 3 ทุ่ม น.ส.พิมลนาฏ ยังไม่ได้ชำระค่าสินค้า ตนจึงโทรศัพท์ไปหา น.ส.พิมลนาฏ เพื่อทวงถามเงิน แต่ตกลงเรื่องคืนสินค้าไม่ได้ เพราะมีการเปิดแกะพัสดุไปแล้ว จึงมีปากเสียงกัน
ต่อมา น.ส.พิมลนาฏ จึงได้นำเงินจำนวน 225 บาท มาให้ตน พอตนทอนเงินเสร็จ จู่ๆ นายสุรสิทธิ์ ผู้เป็นสามี ก็เดินมาต่อว่าและพูดว่า “เก๋ามาจากไหน” และใช้อาวุธมีดฟันทำร้ายตน 5 แผล เย็บ 24 เข็ม และถูก น.ส.พิมลนาฏ ทำร้ายร่างกาย ตนจึงรีบหนีออกมาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล และมาแจ้งความดำเนินคดี
นายธนธัส ขุนนุช ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า ผู้เสียหายกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงประสานตน ในฐานะที่ปรึกษาผู้บัญชาการภาค 7 มาให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากคู่กรณีมีญาติเป็นผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ซึ่งต้องการให้นายธนภัทร ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน พ.ต.อ.พิชญุตม์ โกสุม ผกก.สภ.อัมพวา เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนปากคำผู้บาดเจ็บไว้แล้ว ส่งตัวตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนภาลัย แพทย์ลงความเห็นบาดเจ็บไม่สาหัส ชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ติดตามผู้ก่อเหตุ นำชี้สถานที่เกิดเหตุ ทำบันทึกรับสารภาพ ตรวจยึดอาวุธมีด และเสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุไว้เป็นของกลาง ซึ่งในขณะนี้ผู้เสียหายกับผู้ก่อเหตุอยู่ในขั้นตอนเจรจาไกล่เกลี่ย หากไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ เตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.