เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ลงพื้นที่ตรวจค้นจับกุมแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกลวงให้ซื้อสินค้า/บริการที่ไม่มีอยู่จริงนับพันเว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
วันที่ 29 พ.ค. 68 ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่นำหมายค้นของศาลอาญาที่ 402/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค. 68 เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรบุรี 13 แยก 1 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม.
ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นโกดังปลูกติดกัน สูง 2 ชั้น ชั้นบนเป็นสำนักงาน ชั้นล่างเป็นที่เก็บของ พร้อมจับกุมนายลีวินุส อายุ 55 ปี สัญชาติไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 3031/2568 ลงวันที่ 28 พ.ค. 2568 ข้อหา "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฟอกเงินร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน, ฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน" หลังปูพรมตรวจค้น 11 จุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหารวม 7 ราย เครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกลวงให้ซื้อสินค้าและบริการที่ไม่มีอยู่จริง นับพันเว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท
...
ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด เมื่อปี 63 เกิดขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติซึ่งมีภรรยาเป็นคนไทย หลอกลวงผู้เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อ้างขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือแพทย์ และอื่นๆ โดยการตรวจค้นบริษัทแห่งนี้ได้เปิดบังหน้าชักชวนผู้เสียหายนำเงินมาลงทุน อ้างว่าประกอบธุรกิจแต่รายได้ไม่สอดคล้องกับเงินหมุนเวียนจำนวนมาก มีการใช้บัญชีม้าโอนรับเงิน และปลายทางมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นคริปโต เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่า 2,000 ล้านบาท ผู้เสียหายประมาณ 30 รายจากหลายประเทศ และในวันนี้มีชาวเวียดนามซึ่งถูกหลอกลงทุน เสียหายกว่า 8 ล้านบาท เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์
ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้น 5 พื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล, นครปฐม, กระบี่, กาญจนบุรี และจันทบุรี ตามหมายค้น 11 หมาย พนักงานสอบสวนสามารถจับกุมได้เป็นชาวต่างชาติ 3 ราย เป็นชาวไนจีเรีย 2 ราย ที่กรุงเทพฯ และจ.จันทบุรี ส่วน 1 รายเป็นแคเมอรูนจับกุม จ.กระบี่ ทราบว่ามีอาชีพเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ รวมทั้งคนไทยอีก 4 คน ร่วมขบวนการ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีหมายจับ
ร.ต.อ.เขมชาติ เผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนมาตั้งแต่ช่วงโควิดระบาด แต่รับเป็นคดีพิเศษเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พร้อมประสานการทำงานจากหลายฝ่าย ใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมตรวจสอบ ส่วนของกลางที่ยึดได้มีทั้งรถยนต์ เงินสด และคริปโต นอกจากนี้ ในคดีแพ่งจะนำทรัพย์สินส่ง ปปง. เพื่อเฉลี่ยคืนแก่ผู้เสียหายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าตรวจค้นพบว่าประตูโกดังปิดอยู่ เมื่อพยายามเรียกให้เปิดแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ทางชุดปฏิบัติการดีเอสไอจึงงัดประตูเข้าไป แต่ไม่พบว่ามีผู้ใดอยู่ กระทั่งตรวจค้นพบชาวไนจีเรีย 2 ราย หลบซ่อนตัวใต้บันได จึงควบคุมตัวสอบสวน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 4 ราย เพื่อไปสอบปากคำ ขยายผลเพิ่มเติม ส่วนรายละเอียดจะทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเป็นผู้แถลงข่าวอีกครั้ง ในวันที่ 30 พ.ค. นี้