ผบก.น.5 ยันไม่มีตำรวจ สน.ท่าเรือ เอี่ยวคดีขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งข้อสงสัยอาจมีคนในชี้เป้าตู้คอนเทนเนอร์ ยันขยายผลถึงใครไม่มีละเว้น

วันที่ 2 มิ.ย. 68 จากกรณีแก๊งโจรปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางในท่าเรือคลองเตย ก่อนขับรถตู้ชนเจ้าหน้าที่ รปภ. เสียชีวิตระหว่างหลบหนี ชุดสืบสวนนครบาลล่ากระชั้นรวบได้ทันควัน 1 คน อยู่ระหว่างขยายผลตามหาอีก 5 คน พบรถตู้ที่ใช้ก่อเหตุหลังกลุ่มคนร้ายเอาไปฝากไว้กับพรรคพวกใกล้วัดปริวาสราชสงคราม พระราม 3 เจอบุหรี่ไฟฟ้าของกลางบางส่วนประมาณ 1 พันชิ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ พล.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเผยว่าวันนี้ได้มีการขอออกหมายจับที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับทั้ง 6 รายเป็นที่เรียบร้อย โดยความคืบหน้าสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 4 ราย กำลังสอบปากคำอยู่ที่ สน.ท่าเรือ 2 ราย คือนายเบิร์ดและนายเอก ส่วนอีก 2 ราย ประสานเข้ามอบตัวที่ สภ.ปากช่อง คือนายคิงและนายจี ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาที่ สน.ท่าเรือ ส่วนอีก 2 ราย คือนายแบงค์และนายเล็กที่ยังจับกุมไม่ได้นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเร่งติดตามนำตัวเข้ามาดำเนินคดี โดยเชื่อว่าตัวของผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังอยู่ละแวกใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร

...

โดยในจำนวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ตัวการหลักคือนายแบงค์ คนชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมกันก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งหลังก่อเหตุเสร็จ นายแบงค์เป็นคนขับรถ และนายเล็กนั่งมาข้างๆ ที่เหลืออีก 4 คน วิ่งไปเปิดประตูเพราะว่า รปภ. จะปิดประตูไม่ให้ออก จากนั้นทั้ง 4 คนจึงได้วิ่งกระจัดกระจายกัน และนายแบงค์เป็นคนขับรถถอยไปชนผู้เสียชีวิต โดยหลังจากก่อเหตุชน รปภ. เสียชีวิตแล้ว ก็มีนายจีมาขึ้นรถในภายหลังและนำของกลางไปฝากไว้ที่บ้านนายเจ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา 2 รายที่อยู่ สน.ท่าเรือนั้น ให้การเป็นประโยชน์สอดคล้องกับการสืบสวนก่อนหน้านี้ โดยนายเอกกับนายเบิร์ดอ้างว่าไม่ได้รู้รายละเอียดทั้งหมด เพราะนายแบงค์เป็นคนจัดการทั้งหมด ส่วนจะได้ส่วนแบ่งอย่างไรนั้น จะต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อน

อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์และซ่องโจร ส่วนนายแบงค์ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาฆ่าผู้อื่น

ส่วนกรณีคนชี้เป้าหรือคนให้ข้อมูลตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีคนสั่งมาอีกที จะยังไม่ตัดประเด็นนี้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 6 รายนั้นรู้จักกันมาเนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งจากการสอบปากคำนายเบิร์ดกับนายเอก พบว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายแบงค์ชักชวนมาร่วมก่อเหตุ แต่ว่ายังไม่ได้ปักใจเชื่อ อย่างที่เราสงสัยเช่นเดียวกันว่าตู้ไม่ได้มีตำหนิอะไร ทำไมผู้ต้องหาถึงได้รู้ว่าตู้ไหนเป็นของมีราคาและทำไมรู้ว่าประตูเปิดหรือปิดเวลาไหน อย่างไรก็ตามจะต้องเชิญเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามาสอบปากคำ

ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่านายเบิร์ดเป็นลูกน้องกับนายตำรวจที่ สน.ท่าเรือนั้น ยอมรับว่าเคยใช้ทำงานบ้างบางครั้ง อาทิ ทำความสะอาดโรงพักและใช้ซื้อของ แต่ไม่ได้มีหน้าที่หรือภารกิจอื่นๆ จึงยืนยันได้ว่าตำรวจ สน.ท่าเรือ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งนี้ และหากการขยายผลไปถึงใครยืนยันว่าไม่มีการละเว้นทั้งสิ้น

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะทำให้ดีและรวดเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พยายามติดต่อญาติของผู้ต้องหาอีกสองรายที่ยังหลบหนีอยู่ให้พาเข้ามอบตัว เพราะตำรวจเองก็อยากปิดคดีให้เร็วที่สุดเช่นกัน ขอยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ในทางคดีอย่างแน่นอน