ตำรวจขับรถย้อนศร พุ่งชนรถจักรยานยนต์ หญิงวัย 64 ปี เจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิต หน้าโชว์รูมรถถนนทรงพล จ.ราชบุรี อยู่ระหว่างรอผลตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด
เมื่อเวลา 07.55 น. วันที่ 26 มิ.ย. 68 ร.ต.ท.วัชระ มีคลองธรรม รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รับแจ้งเหตุรถยนต์พุ่งชนรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าโชว์รูมรถยนต์อีซูซุ สาขาบ้านโป่ง ถนนทรงพล หมู่ 2 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.บ้านโป่ง หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านโป่ง และมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ฮอนด้า รุ่น HR-V สีดำเทา ทะเบียน ราชบุรี สภาพซุ้มล้อขวาด้านหน้าฝั่งคนขับพังเสียหาย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสไปร์ซี่ไอ สภาพพังยับทั้งคัน กลางถนนพบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นอนบาดเจ็บทราบชื่อ น.ส.จุฑาทิพ อายุ 64 ปี มูลนิธิช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านโป่ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนของคนขับรถยนต์เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ พ.ต.ต. ตำแหน่งสารวัตรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 (สว.ปพ.บก.สส.ภ.7) ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและหน้าอก ถูกส่งตัวรักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านโป่งเช่นกัน
...
ด้าน นายเอ (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ นำคลิปภาพเหตุการณ์ขณะรถยนต์ HR-V ขับย้อนศรให้ผู้สื่อข่าวดู ก่อนเปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังเปิดร้านอาหาร สังเกตเห็นรถยนต์ขับย้อนศรชิดเกาะกลางถนนอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปทางแยกไฟแดงหัวโป่ง สร้างความปั่นป่วนบนท้องถนนให้กับรถที่ขับมาตามเส้นทาง เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อถนนโล่งเนื่องจากรถติดไฟแดงที่แยกหัวโป่ง รถยนต์ได้เหยียบคันเร่งด้วยความเร็ว จนพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย ที่ขี่ออกมาตามทางจนเสียชีวิต ตอนแรกตนคิดว่าคนขับอาจเป็นชาวต่างชาติ ไม่คุ้นชินเส้นทาง แต่สุดท้ายมาทราบภายหลังจากเหตุรถชนกันว่าเป็นคนไทย จึงเข้าใจว่าอาจจะมีอาการมึนเมา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็อยากจะฝากบอกว่า ดื่มไม่ขับ รักชีวิตตัวเองให้มาก หากไม่รักตัวเอง ก็รักคนอื่นบ้าง
ด้าน น.ส.เม (นามสมมุติ) หลานผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสายตนได้เห็นคลิปเหตุการณ์รถชนรถจักรยานยนต์ ในตอนนั้นคิดเพียงแค่ทำไมขับรถแบบนั้น กระทั่งมาทราบภายหลังว่า ผู้ที่ถูกรถชนจนเสียชีวิตคือ น้าของตนเอง สร้างความเสียใจเป็นอย่างมาก ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกชายที่ทำงานโรงงานราชาเซรามิค ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร และกำลังขี่รถกลับบ้าน โดยผู้ตายถือได้ว่าเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านแทนสามีที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากเหตุความสูญเสียดังกล่าว ตนได้พบหน้าคนขับรถยนต์แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้พูดคุย เพราะเขายังไม่รู้เรื่องเลย อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงพวกเมาแล้วขับว่า ถ้าสติสัมปชัญญะไม่สมประกอบก็อยู่บ้านเถอะ อย่ามาสร้างความเสียหายกับผู้อื่นเลย
พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ แพทย์ดำเนินการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของตำรวจผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ยังไม่สามารถให้การได้ เพราะนอนรักษาตัวอยู่ รพ.บ้านโป่ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับขี่รถด้วยความประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหากผลตรวจออกมาว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูง ก็จะเพิ่มข้อหาเมาแล้วขับ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎหมาย.