หนุ่มอำพรางตัวบุกเดี่ยวชิงทองร้านดังในห้างโลตัส เมืองชล ทำทีขอดูสร้อยทองเส้นโต ชักปืนขู่พนักงานห้ามส่งเสียง กวาดทองน้ำหนัก 38 บาท มูลค่า 2 ล้านบาท วิ่งออกนอกห้าง จ๊ะเอ๋หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าสกัด คนร้ายลั่นไกยิงใส่ทันที ดาบตำรวจมือไวปัดปืนพ้นตัว กระสุนถากหมวกกันน็อกทะลุเป็นรูโบ๋ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงหนุ่มชิงทองโทร.ลาน้องชาย ก่อนกระโดดคอนโดฯ ชั้น 6 ฆ่าตัวตาย ทิ้งทองให้เมียไว้เลี้ยงลูก แต่ถูกตำรวจยึดกลับคืนมาได้

อุกอาจคนร้ายบุกชิงทองในห้างดังกลางเมืองชลครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. ร.ต.ท.อร่าม โชติษิตานนท์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายชิงทองภายในห้างทองเยาวราช กรุงเทพฯ ในห้างโลตัส สาขาบ้านสวน หมู่ 6 ต.บ้านสวน อ.เมืองชลบุรี รุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.คฑพล พรมดอนชาติ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โอสถานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชลบุรี และชุดสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี

ภายในห้างทองเยาวราช กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ ชั้นล่างของห้างโลตัส พบพนักงานหญิง 3 คน อยู่ในอาการตกใจ สอบถาม น.ส.กลอย (นามสมมติ) พนักงานห้างทองเปิดเผยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า คนร้ายเป็นชาย สวมหมวกแก๊ปและสวมแมสก์อำพรางใบหน้า เดินเข้ามาบอกพนักงานอีกคนว่าขอดูสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท พนักงานขอร้องให้ถอดหมวก-ถอดแมสก์ออกก่อน คนร้ายไม่พูดไม่จา ชักปืนออกมาข่มขู่ไม่ให้พนักงานขัดขวาง ก่อนคว้าสร้อยคอทองคำ หนัก 10 บาท 2 เส้น หนัก 9 บาท 2 เส้น รวมน้ำหนัก 38 บาท มูลค่าราว 2 ล้านบาทวิ่งหนีออกไปจากห้าง

สอบสวนทราบว่าหลังจากคนร้ายชิงทองมาแล้วได้วิ่งออกทางประตูหน้าห้างไปตามถนน มี รปภ.ของห้างวิ่งไล่ตามไปติดๆ ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ขี่รถ จยย.ผ่านมาพอดี และพยายามหยุดยั้งเข้าจับกุมคนร้าย กอดรัดฟัดเหวี่ยงต่อสู้กัน คนร้ายใช้ปืนยิงใส่ 1 นัด ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ขี่หลบหนี

...

ด.ต.สมปอง ฟองตา ผบ.หมู่ กก.ปพ.สส.ภ.2 ตำรวจที่พยายามจับกุมคนร้ายและได้รับบาดเจ็บข้อมือขวา เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถ จยย.ไปทำธุระผ่านมาพอดี เห็นคนวิ่งไล่กัน ตอนแรกคิดว่าแค่ขโมยของจากห้างโลตัส ตนจอดรถพยายามช่วยสกัดจับ กลับถูกคนร้ายชักปืนยิงใส่ 1 นัด ตนใช้มือขวาปัดปืนออกทำให้ปืนตกลงพื้น โชคดีตอนนั้นสวมหมวก กันน็อกอยู่ด้วย กระสุนถากหมวกกันน็อกทะลุเป็นรูโบ๋ คนร้ายรีบวิ่งหลบหนีไป

ตำรวจได้ยึดปืนของกลางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เป็นปืนแมกกาซีน 9 มม. พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทอง พบรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน สูงประมาณ 160-170 ซม. นุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดแขนยาวลายขาวดำ มีเสื้อกั๊กสีดำคลุมทับ หน้าอกมีอักษรภาษาอังกฤษตัว S สีขาว สวมหมวกแก๊ปสีชมพู สวมแมสก์สีขาว ใส่แว่นสายตา สะพายกระเป๋าข้างสีดำ คนร้ายขี่รถ จยย.ฮอนด้า คลิก สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปทางถนนข้างห้างโลตัส สามารถทะลุออกได้หลายทาง เช่น ออกซอย 11 และซอย 12 หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนภาค 2 ชุดสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี และชุดสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี ระดมกำลังไล่เช็กกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ต่อมาเวลา 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี พร้อมกู้ภัยมูลนิธิทำรัศมีมณีรัตน์ รับแจ้งมีคนตกจากคอนโดฯ ชั้น 6 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมืองชลบุรี เจ็บสาหัส ที่เกิดเหตุพบนายปิยะพงษ์ อิ่มใจ อายุ 35 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี เลือดทะลักออกปากและจมูก แขนหัก กู้ภัยฯรีบนำตัวส่ง รพ.วิภาราม อมตะซิตี้ และเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ฮอนด้า คลิก สีส้ม ทะเบียน 3 กณ 4841 ชลบุรี ของผู้ตายจอดอยู่ใต้ถุนคอนโดฯ ลักษณะตรงกับรถ จยย.ของคนร้ายที่ไปก่อเหตุชิงทองในห้างโลตัส เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

สอบถามญาติให้ข้อมูลว่า นายปิยะพงษ์ผู้ตายเคยพักอาศัยอยู่ที่นี่เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว มีปัญหาเรื่องหนี้สิน และได้โทร.บอกเมียว่าจะฆ่าตัวตาย ทางบ้านออกตามหาแต่เช้าไม่พบ กระทั่งผู้ตายโทร.ไปสั่งลากับน้องชาย บอกให้มารับศพที่คอนโดฯแห่งนี้ เพราะเคยพักอาศัยครั้งแรกตอนมาทำงานใน จ.ชลบุรี ส่วนผู้ตายไปก่อเหตุชิงทองก่อนมากระโดดตึกฆ่าตัวตายหรือไม่ ญาติไม่ทราบเรื่องเช่นกัน

ต่อมาตำรวจเข้าค้นบ้านที่ หมู่ 1 ต.หนองรี อ.เมืองชลบุรี เป็นบ้านภรรยานายปิยะพงษ์ พบเสื้อผ้าที่สวมใส่ขณะก่อเหตุชิงทอง ยึดสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท ได้ 1 เส้น และเข้าค้นบ้านร้างฝั่งตรงข้าม ยึดสร้อยทองหนัก 10 บาท ได้อีก 1 เส้น ส่วนทองที่เหลืออยู่ระหว่างค้นหา จากนั้นเชิญภรรยานายปิยะพงษ์ไปสอบปากคำที่โรงพักเบื้องต้นภรรยาผู้ตายบอกว่า สามีติดหนี้สินนับล้านบาทพยายามหาเงินใช้หนี้และมาเลี้ยงลูก ไม่คิดว่าจะทำเช่นนี้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่